หลวงพ่อบูรณะวัดจินดามณี
พระครูปริยัติกิจจานุกูล
เจ้าอาวาสวัดจินดามณี
เมื่อมีเจริญ ก็มีเสื่อม เป็นของคู่กันเป็นธรรมดาของสัจธรรม
อาตมาจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวอาตมาและวัดจินดามณี
ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี ค่ำคืนของวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑
อาตมาก็ทำหน้าที่อันเป็นกิจของสงฆ์เรียบร้อย
โดยไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคืนวันนี้จะเป็นคืนที่ฝันร้าย
อันเป็นชะตากรรมอันหนักที่จะมาถึงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ เป็นวันที่จะต้องสูญเสียทุกอย่างที่มีอยู่
ดังคำที่ว่า โจรปล้นสักร้อยครั้งยังไม่เท่ากับไฟไหม้ครั้งเดียว ในความรู้สึกหรือจิตใต้สำนึกในคืนนี้นั้น มีความไม่สงบอยู่ตลอดเวลา
จนถึงเวลาสมควรอาตมาก็สวดมนต์ภาวนาตามปกติแล้วก็เข้าจำวัด ในขณะจำวัดรู้สึกว่าหลับ
ๆ ตื่น ๆ อยู่ตลอดเวลาก็พยายามภาวนาสงบจิต เพื่อต้องการให้จำวัดหลับสนิท
แต่ก็ยังหาความสงบมิได้ จนถึงเวลาประมาณ ๑ นาฬิกาของวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๑
ไฟฟ้าเกิดดับ ๆ ติด ๆ อยู่พักหนึ่ง อาตมาก็คิดว่าไฟฟ้าคงจะเกิดเหตุภายนอกวัด
จึงไม่เกิดความสงสัยอะไร เพราะไฟฟ้าก็ติดตามปกติแล้ว หลังจากนั้นประมาณสัก ๓๐ นาที
อาตมาก็ต้องตกใจเมื่อพระภิกษุที่อยู่ใกล้เหตุการณ์รีบมาบอกอาตมาว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ในกุฏิ
อาตมาก็ถามว่าหลังไหน ท่านบอกหลังใต้สุด จึงรีบไปดูจุดที่เกิดเหตุ
อาตมาเห็นไฟกำลังไหม้ภายในกุฏิอย่างหนัก จึงปลุกพระและเด็กวัดทุกคนให้ช่วยกันดับ
ทุกคนพยายามดับจนสุดความสามาถ พระบางรูปก็ตีระฆังและกลอง
อาตมาก็สั่งให้พระโทรไปแจ้งรถดับเพลิงตามหน่วยต่าง ๆ กว่ารถจะมาถึงก็ไหมไปเกือบ ๑
หลังแล้ว ทั้งชาวบ้านเป็นร้อยคน นายอำเภอ รองผู้กำกับฯ ก็มาช่วยกัน
แต่พระเพลิงก็โหมอย่างหนัก ชาวบ้านหรือทุกคนต่างยืนดูกันด้วยอาการกระวนกระวายร้อนอกร้อนใจ
เสียอกเสียใจกับภาพที่กำลังเกิดขึ้น บ้างก็อุทานว่าหมดแล้ววัดเราไม่เหลืออะไรอีก
คนเฒ่าคนแก่ก็ร้องห่มร้องไห้เสียอกเสียใจ เห็นแล้วน่าสลดใจยิ่งนัก
ส่วนตัวอาตมาก็พยายามทำใจสั่งการให้คุมสถานการณ์ให้ได้
แต่ก็สุดวิสัยจนพระเพลิงได้ไหม้กุฏิไปหลังแล้วหลังเล่า หมดกุฏิไป ๖ หลัง หอสวดมนต์
๑ หลัง หอกลองหอระฆังอีกอย่างละหลัง สิ่งของที่อยู่ในหอสวดก็ดี กุฏิก็ดี เสียหายจนหมดสิ้น
คงเหลือกุฏิอยู่หลังเดียวซึ่งเป็นที่อยู่ของอดีตเจ้าอาวาส
ซึ่งเป็นอาจารย์ของอาตมาเอง
และก็รูปหล่อของท่านที่อยู่ในหอสวดมนต์ไม่ไหม้ไปกับพระเพลิงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความสงบแล้ว
อาตมาก็นั่งคิดว่านี่เป็นความฝันร้ายแต่เป็นเรื่องจริง
ทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้วจะทำอย่างไรดี กุฏิไม้สักสวย ๆ งาม ๆ อายุเป็นร้อยปี
หอสวดมนต์ก็หมดไปกับพระเพลิง อะไรมันมืดมนไปหมด
มองภาพที่เสียหายก็นึกแทบทำใจไม่ได้ แต่ก็พยายามข่มจิตข่มใจตลอดเวลาว่าจะไม่แสดงอาการความรู้สึกเสียใจให้ญาติโยมได้รู้ได้เห็น
เพราะจะทำให้ญาติโยมเสียใจมากขึ้น กว่าอาตมาจะทำใจได้ก็นานพอสมควร
พอนึกถึงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดขึ้นก็มีดับไปเป็นธรรมดา
มีเจริญก็มีเสื่อม เป็นสัจธรรมเที่ยงแท้ เมื่อวานนี้เรามีที่อยู่อาศัยที่ประกอบกิจ
มีสมบัติที่สะสมเอาไว้เป็นของวัดก็ดี หรือของตนเองก็ตาม
แต่วันนี้ไม่มีอะไรเหลือคงมีผ้านุ่งผ้าห่มติดตัวออกมาจากห้องเท่านั้น
เมื่อเราเกิดมาก็ไม่มีอะไรมามีแต่กรรมดีและชั่วติดตัวกันมาเท่านั้นเอง
จะคิดเสียใจทำไมให้เกิดทุกข์เสียเปล่า ถือว่าเกิดจากความประมาทหรือเวรกรรมของเรา
หรือวัดของเรา เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วอาตมาก็เริ่มรวบรวมคิดใช้ปัญญาให้เกิดประโยชน์
เริ่มตั้งโครงการจัดรูปกุฏิ ๔ หลัง ๆ หนึ่งยาว ๙ เมตร กว้าง ๖ เมตร หอสวดมนต์ ๒ หลัง ๆ ยาง ๒๑ เมตร กว้าง
๑๒ เมตร และก็ต้องรีบดำเนินการสร้างกุฏิก่อน เพราะว่าสภาพพื้นที่วัดน้ำจะท่วมสูงมาก
สูงถึง ๑.๗๐ เมตร พระก็ไม่มีที่อยู่เมื่อถึงเวลาน้ำท่วม จึงต้องรีบสร้างขึ้น
ก็มีญาติโยมมาร่วมบริจาคบ้างแต่ก็ยังขาดทุนทรัพย์อีกมาก
อาตมาก็มืดมนพอสมควรว่าจะหาทุนมาสร้างกุฏิและหอสวดมนต์จากที่ไหน
แต่ก็เหมือนฟ้าประทานเมื่อหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล
เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
ซึ่งเป็นอาจารย์เป็นกรรมวาจาจารย์ของอาตมาเองได้มาเยี่ยมดูแลให้กำลังใจ
อาตมามีกำลังใจขึ้น เมื่อพระผู้ใหญ่ผู้เป็นอาจารย์มาให้กำลังใจ
หลวงพ่อท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างสูงต่อลูกศิษย์ทุกคนที่ได้รับความทุกข์
ท่านให้กำลังใจ ให้ความคิด และให้กำลังทรัพย์
ท่านประกาศว่าจะช่วยอนุเคราะห์ในการก่อสร้างวัดจินดามณีขึ้นมาใหม่จนแล้วเสร็จ
ท่านให้อาตมารีบดำเนินการเลย
นี่แหละคือความเมตตาที่แท้จริงจากหลวงพ่อที่ต้องการให้พระศาสนาเจริญต่อไป
และลูกศิษย์พ้นจากทุกข์อันหนัก
เกล้ากระผมในนามภิกษุสามเณรและญาติโยมทุกท่านทุกคน
ต้องกราบขอบพระคุณอย่างสูงที่หลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล
ให้ความอนุเคราะห์และเมตตาในการก่อสร้างกุฏิและหอสวดมนต์ ของวัดจินดามณี
ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี นี่แหละบุญกรรมมีจริง ทำดีย่อมได้ดี
ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ทำดีได้สุข ทำชั่วได้ทุกข์ เป็นสัจธรรมที่แท้จริง...