คำกล่าวถวายรายงาน
ในพิธีเปิด
กุฏิบุญถิ่น อัตถากร รับรองพระเถระ
ขอประทานกราบเรียน พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร
ที่เคารพสักการะอย่างสูงยิ่ง
วัดอัมพวัน
อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ฝ่ายคณะสงฆ์ขึ้นต่อตำบลบ้านแป้ง
ฝ่ายบ้านเมืองทางราชการขึ้นต่อตำบลพรหมบุรี เหตุที่ฝ่ายคณะสงฆ์ขึ้นต่อตำบลบ้านแป้ง
เนื่องจากวัดในเขตตำบลพรหมบุรี ไม่พอเป็นตำบลสงฆ์
จึงได้รวบรวมตำบลบ้านแป้งกับตำบลพรหมบุรี ขึ้นต่อคณะสงฆ์ ตำบลบ้านแป้ง
อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ฝ่ายอาณาจักรมี ๗ ตำบล
ฝ่ายคณะสงฆ์ในเขตอำเภอพรหมบุรีนั้นมีเพียง ๔ ตำบลคณะสงฆ์ เมื่อก่อนมีหลายตำบล
สมัยท่านอธิบดีชำนาญ
ยุวบูรณ์ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง
ได้ดำเนินงานแยกอำเภอพรหมบุรีไปตั้งเป็นอำเภอท่าช้างขึ้นอีกอำเภอหนึ่ง
ก็เนื่องจากพื้นที่และประชาชนชาวพรหมบุรีนั้นกว้างไกลมาก ขยายไปถึงแม่น้ำน้อย
ที่เรียกว่าเมืองสิงห์ เมืองสวรรค์ แยกย้ายเข้าไปสู่สุพรรณบุรี บ้านช้าง บ้านตาล
บ้านพรานแสวงหา บ้านทุ่มบางบาล หัวตะพาน กบเจา
แยกย้ายกันไปไกลทางราชการจึงตั้งอำเภอท่าช้างขึ้น
คณะสงฆ์อำเภอพรหมบุรี
จึงได้แยกออกไปเป็นอำเภอสงฆ์อีกอำเภอหนึ่ง มีหนึ่งตำบลคณะสงฆ์
แต่ตำบลบ้านเมืองมีหลายตำบล ดูเหมือนจะมี ๓ ตำบล
ตำบลทางบ้านเมืองของอำเภอพรหมบุรีมี ๗ ตำบล แต่ตำบลคณะสงฆ์มี ๔ ตำบล
เพราะวัดไม่พอที่จะจัดตั้งเป็นตำบลคณะสงฆ์ตามรูปแบบของทางราชการได้
วัดอัมพวันเป็นวัดที่อยู่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
มีหลักฐานที่มั่นคงอยู่ในตู้พระไตรปิฎก เพราะตู้พระไตรปิฎกตู้หนึ่งนั้น
ถวายไว้ในวัดอัมพวัน พ.ศ. ๒๒๐๐ อีกตู้หนึ่งถวายไว้ที่วัดอัมพวัน พ.ศ. ๒๓๑๐
เป็นสองตู้พระไตรปิฎก รุ่นเก่า แบบเก่า ลายรดน้ำ ลายรามเกียรติ์
สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยของโบราณ สืบเนื่องมาจนบัดนี้
เกล้ากระผมได้มารักษาการณ์ในตำแหน่งเจ้าอาวาส
พ.ศ. ๒๔๙๙ และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ นับถึงบัดนี้เป็นเวลา ๓๐
ปีเศษ และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเพื่อช่วยการคณะสงฆ์มาเป็นเวลา ๑๕
ปีจนถึงปัจจุบันนี้
วัดอัมพวันเป็นวัดเก่าแก่
ภายในอุโบสถมีหลักฐาน
มีเอกสารและวัตถุยืนยันว่าเป็นของเก่าเมื่อโบสถ์ชำรุดทรุดโทรมและพังลงไป
จึงได้รื้อออกมาพบศิลาจารึกแจ้งชัด มีสตางค์จีนอยู่ในโรงอุโบสถ ๗ ปีบ
และจารึกภาษาจีนว่า กิมเหลียง กิมจือ
สมัยก่อนนั้นมีเรือกำปั่นมาจอดหน้าวัดอัมพวัน
มีฝรั่งมาทำการค้ากับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ เมืองละโว้แห่งลพบุรีนั้น
และก็มีชาติฝรั่งฮอลันดา ได้นำเรือกำปั่นร่วมกับคนจีน มาจอดหน้าวัดนี้ ในสมัยนั้น
โดยท่านเจ้าอาวาสมีนามปรากฏชัดอีก ขอประทานอนุญาตกล่าวในศิลาจารึกว่า พระครูญาณสังวร
มีอายุพรรษาถึง ๙๙ พรรษา ที่จารึกไว้ในโรงอุโบสถเมื่อสมัยโน้น
คนจีนมีศรัทธาเลื่อมใสต่อ
ท่านพระครูญาณสังวร ที่วัดอัมพวัน
จึงได้สร้างโบสถ์ถวายเป็นทรงจีนและคล้ายทรงไทย มีเครื่องลายครามมากมาย
ติดช่อฟ้าหน้าบรรณกระทั่งบรรจุไว้ในโรงอุโบสถ มีหยกข้อมือของจีน มีม้าวิ่ง ๙ ตัว
เพชรนิลจินดามากมาย มีสตางค์จีน ๗ ปีบ เกล้ากระผมได้เอาบรรจุไว้ในโรงอุโบสถ
ที่พระเดชพระคุณได้เข้าไปนมัสการในโรงอุโบสถใหม่แล้วนั้น ซึ่งสร้างคร่อมโบสถ์เก่า
ตามความมุ่งหมายของท่าน พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมการศาสนาสมัยนั้น
วัดอัมพวันเป็นป่าดงพงไพร
มีต้นตาลมาก บริเวณหลังวัดปัจจุบันกลายเป็นหน้าวัดไปแม่น้ำเจ้าพระยาลุ่มลึก
สมัยนั้นคนจีน ๒ คนมีศรัทธาในพระครูญาณสังวร ซึ่งมีอายุพรรษา ๙๙
พรรษาเชี่ยวชาญทางวิปัสสนาญาณ ตามคำโบราณที่จารึกเป็นภาษาจีนทั้งสิ้น นอกจากนั้น
ฝรั่งชาติฮอลันดานั้นถือคริสต์ เป็นสหายกับคนจีนทำการค้าด้วยกันเดินทางมา
มีความศรัทธาในพระเดชพระคุณท่านเจ้าอาวาสพระครูญาณสังวร ที่วัดนี้
จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตขอพระนาคปรกหินทั้งสององค์มาประดิษฐานไว้ที่โบสถ์นี้
องค์หนึ่งชื่อว่า นาคปรกหูยาน เป็นหินสีเขียว
อีกองค์หนึ่งเรียกว่า นาคปรกคางคนหูตุ้ม
เขมรคางคนหูตุ้ม ปรากฏว่า กลีบตอน กลีบดำ เขาจารึกไว้หมด
บัดนี้เกล้ากระผมได้นิมนต์จากโรงอุโบสถนั้น
พร้อมทั้งจารึกภาษาจีนเอามารักษาไว้ที่กุฏิของเกล้ากระผม ตราบเท่าปัจจุบันนี้
อุโบสถหลังใหม่ได้สร้างอย่างประหยัดคร่อมที่เดิมไว้
สมัย พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์
อธิบดีกรมการศาสนามาช่วยแนะนำการสร้างเสาที่กั้นอยู่ภายในเป็นอุโบสถหลังเก่า
และขยายอาณาเขตขึ้นมาโดยท่าน พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ อดีตอธิบดีกรมการศาสนา
ได้ขอพระราชทานอนุญาตให้โดยเดินเรื่องเองตลอดมา แค่ ๓ เดือนเสร็จสิ้น
การผูกพัทธสีมาใหม่ ใช้เวลาเฉลิมฉลองเพียง ๖ คืนเท่านั้น พล ต.ต.สามารถ ไวยวานนท์
เมื่อสมัยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และ พ.ต.อ.ประจันต์ พราหมณ์พันธ์
เป็นผู้กำกับการตำรวจจังหวัดลพบุรี ก็ได้มาช่วยเป็นกำลังสำคัญ
จนอุโบสถได้สำเร็จตามเป้าหมาย สร้างเพียง ๑ ปี ๑๖ วันเท่านั้น
สิ้นทุนทรัพย์จำนวนส่วนน้อย ไม่มีการเดือดร้อนแก่ประชาชน และพระราชทรัพย์แต่ประการใด
เกล้ากระผมขอประทานกราบเรียนว่า
อุโบสถหลังนี้ไม่มีกำแพงกำหนดเขตจำเพาะ เป็นคอนกรีตหรือสิ่งที่สวยงาม
แต่มีป่าไม้ไพรวัลย์เป็นกำแพงแทน
สำหรับพัทธสีมานั้นได้ฝากไว้ในฝาผนังอุโบสถ
ถ้าใครไม่สังเกตจะไม่ทราบว่าเป็นอุโบสถที่จริงเป็นอุโบสถที่ประหยัดข้างในสะอาดหมดจด
โอ่โถงเป็นที่ทัศนาควรแก่การเคารพบูชา องค์สมเด็จพระชินสีห์ศาสดาเป็นอย่างยิ่ง
สามารถจะสาธิตให้นักศึกษาได้เห็นเหตุการณ์ในสังฆกรรมตามพระวินัยนิยมได้อีกด้วย
หลังจากอุโบสถเสร็จแล้ว
วัดนี้ก็ได้รับการยกย่องจากทางราชการให้เป็นวัดพัฒนา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นต้นมา จน
พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้พัฒนาวัดและชุมชนโดยใช้หลักของพระพุทธเจ้า คือ
พัฒนาจิตเพราะจิตนี้มีความสำคัญมาก ต้องเริ่มพัฒนาจิตก่อน
เมื่อจิตดีแล้วก็เริ่มหาสัปปายะ เป็นการพัฒนาจิตร่วมกับการศึกษา
และประกอบอาชีพการงานของท้องถิ่นชาววัดอัมพวันตลอดมา
เมื่อก่อนนี้ชาววัดอัมพวันยากจนหาเช้ากินค่ำ
บัดนี้ก็มีอาชีพการงาน มีการศึกษาดี
โดยเริ่มการพัฒนาจิตด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐานแล้วก็พัฒนาตามลำดับ
ใช้แนวพุทธศาสตร์ที่กินต้องสะอาด ที่ถ่ายต้องสะดวก มีความหมายมาก
เกล้ากระผมจึงได้สร้างหอประชุมมาเพื่อพัฒนาการศึกษา พัฒนาจิตเพราะจิตดีแล้วก็ได้สำเร็จตามเป้าหมาย
ญาติพี่น้องชาววัดอัมพวันและชาวสิงห์บุรี และบ้านใกล้เรือนเคียงก็ดำเนินตามนี้
ตามแนวพุทธศาสตร์ดังกล่าวมา อาชีพการงานก็ไม่ฝืดเคืองแต่ประการใด
ทั้งยังสามารถอยู่รวมกันด้วย เมตตาธรรม เอื้ออารี
เกิดความสามัคคีในสังคม เรียกว่าพัฒนาสังคมอีกด้วย นอกเหนือจากนั้นอยู่ด้วยความเมตตาธรรม
เพราะมีคุณธรรมเป็นบทสำคัญ คือพัฒนาจิตดีแล้ว
ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็มิได้อยู่ด้วยความแตกแยกแปลกอะไรกัน
เกล้ากระผมก็ได้ดำเนินงานพัฒนาวัดอัมพวันตามแนวพุทธศาสตร์โดยการสร้างสัปปายะ
หาอาวาสที่เป็นสัปปายะเป็นที่อยู่ของสงฆ์ เป็นที่อยู่ของอุบาสก อุบาสิกา
เป็นที่รับไว้เพื่อบริการในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานดังกล่าวมา
นอกเหนือจากนั้นอำนวยความสะดวกในด้านอาหารโดยสัปปายะ
ให้ถูกต้องตามพระวินัยนิยมบรมพุทธานุญาต จัดหาบุคลากรเป็นสัปปายะ หาพวกหาพ้อง
ที่มีจิตอาวรณ์ให้อภัยเอื้ออารี เกิดความสามัคคีต่อกัน
นอกเหนือจากนั้นแล้ว
ก็เร่งรัดวิปัสสนากรรมฐานโดยภิกษุสงฆ์ องค์เณรต้องเป็นผู้นำ เป็นตัวอย่าง
นับเป็นการพัฒนาที่มุ่งตรงต่อธรรมะสัปปายะ ได้ความสะดวกสบายแก่พุทธศาสนิกชน
เข้าในหลักที่ว่า กิจกรรมของพระสงฆ์ต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
พระภิกษุสงฆ์องค์เณรก็ดี
ที่มาอยู่ที่วัดนี้ จะบวชน้อย บวชมากไม่สำคัญ บวชแล้วพัฒนาจิตกิจกรรมของพุทธศาสนา
ก็จะได้รับผลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทุกประการ
ผลนั้นก็ได้ปรากฏชัดแสดงออกเช่นเดียวกัน
วัดนี้ก็กำลังทำสัปปายะ
หาที่อยู่ที่อาศัย สำหรับผู้มาอบรม สี่ปีผ่านมา อบรมไปแล้วสองแสนคนตลอดกระทั่งภิกษุสงฆ์องค์เณร
โดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม
ได้เสด็จมาที่วัดอัมพวัน ๕ ครั้งผ่านไปแล้ว เนื่องในกิจกรรมของคณะสงฆ์
มีการพัฒนาวัด ทั่วราชอาณาจักร การอบรมพระสังฆาธิการส่วนกลาง
และส่วนภูมิภาครวมกันที่วัดอัมพวันนี้ เหตุการณ์เป็นเช่นนี้
เกล้ากระผมจึงต้องหาสัปปายะเอาไว้สนับสนุนบริการของบุคลากรใหพร้อมทุกประการ
จึงมีการสร้างกุฏิวิทยากรเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว เป็นกุฏิครึ่งไม้ครึ่งตึก
ซึ่งเดิมใช้พักวิทยากรทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย จึงสร้างใหม่แยกฝ่ายบรรพชิตออกไปเป็นส่วนสัด
แยกออกไปเป็นส่วนเขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส เขตบำเพ็ญกุศล เขตหอประชุม
เพื่ออบรมบ่มนิสัย เขตศาลาบำเพ็ญกุศล เขตภาวนา กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย
ทำความเพียรมาก ไม่รับแขกในเขตภาวนา มีเขตอุบาสิกา เขตแม่ชี เขตหลักฐาน
เขตจัดผลประโยชน์ครบถ้วนทุกประการ
สำหรับกุฏิหลังนี้มุ่งหมายให้เป็นกุฏิรับรองพระเถระ
วิทยากรทุกระดับ ที่จะมาพักและได้รับความสะดวกในการสัปปายะ และบริการถวายการเคารพ
ถวายการต้อนรับพระเถรานุเถระที่มาจากจตุรทิศทั้งสี่ กุฏิรับรองพระเถระหลังนี้
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ วัดเทพธิดาราม เจ้าคณะภาค ๓ ได้เมตตากรุณามากะกฎเกณฑ์และยกเหตุผลให้สร้าง
ณ สถานที่นี้ว่าเหมาะสมดีที่สุด
ผู้ศรัทธาเจ้าภาพได้แก่
โยมบุญถิ่น อัตถากร พร้อมด้วยคุณโยม
ม.ร.ว.คุณหญิงพรรณเรือง อัตถากร และ ดร.กิ่งแก้ว
อัตถากร พร้อมด้วยญาติพี่น้อง เห็นพ้องต้องกันรับเป็นเจ้าภาพขึ้นมา
เลยให้ชื่อกุฏินี้ว่า กุฏิบุญถิ่น อัตถากร รับรองพระเถระ
ด้วยความมุ่งหมายเฉพาะเจาะจงให้พระเถระวิทยากรมาพักแล้วจะได้รับความสะดวกสบาย
จากการบริการของวัดเป็นสัดส่วน และจะเจริญงานการวิทยากรได้ถูกต้องทุกประการ
จะมีการอบรมพระสังฆาธิการ หรือ ระดับโรงเรียนมัธยมประถมศึกษา
มหาวิทยาลัยเป็นสัดส่วน ก็ได้รับความสุขความเจริญต่อประชาชนและประชาชนก็ต้องการรับ
ความสะดวก หนึ่ง สองความสบาย สาม
เข้ามาแล้วปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นอกเหนือจากนั้นกลับไปก็มีที่พึ่งทางใจติดตัวไป
ก็ได้สำเร็จตามเป้าหมายทุกประการ
โดยคุณโยมบุญถิ่น
อัตถากร และคุณโยม ม.ร.ว.คุณหญิงพรรณเรือง ดร.กิ่งแก้ว อัตถากร
ก็มาตั้งเจตนารมณ์ว่าเป็นเจ้าภาพสร้าง เพื่ออุทิศถวายหม่อมเจ้าจรัสโสม
เกษมสันต์ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณในวงศ์ตระกูลเกษมสันต์สืบต่อไป
กุฏิหลังนี้
กว้างยาว ๓ วา ๒ ศอก เท่ากัน เป็นสี่เหลี่ยม มี ๓ ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโถง
มีห้องน้ำห้องส้วมบริการพร้อม เย็นสบาย
ปัจจุบันนี้คุณธนะศักดิ์
ยุวบูรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฝ่ายของประชาชน
พร้อมด้วยท่านนายอำเภอศึกษาธิการจังหวัด
ศึกษาธิการอำเภอได้ร่วมกันให้การอุปถัมภ์บำรุงตลอดมา
ฝ่ายคณะสงฆ์ก็มีท่านเจ้าคณะภาค
เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ คณะสังฆาธิการเขตสิงห์บุรีได้ให้การอุปการะตลอดมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมญาณมุนี ท่านเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี
วัดกวิศรารามท่านก็มีเมตตาอุปถัมภ์บำรุงวัดนี้เป็นพิเศษ
นอกจากให้การช่วยเหลือด้วยเมตตาแล้ว ยังเมตตารับเป็นวิทยากรทุกครั้ง ถึงท่านมีอายุ
๘๔ แล้ว เป็นพระเดชพระคุณแก่วัดอัมพวันเป็นล้นพ้น
เกล้ากระผมตั้งใจถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา
ธรรมบูชา สังฆบูชา เข้าในหลักว่าเกล้ากระผมเป็นภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง
ในสังฆมณฑลนี้ขอตั้งสัจจะว่า กิจกรรมของพระสงฆ์ต้องเป็นประโยชน์ของประชาชนสืบไป
เพื่อประชาชนได้มาพึ่งพาอาศัย เหมือนร่มไม่ร่มไทร ได้ชื่นอกชื่นใจด้วยธรรมโอสถ
ซึ่งเป็นดุจอาหารทิพย์ฉนั้น
วันนี้เป็นวันมหามงคลชีวิต
ที่จะต้องแสดงออกซึ่งการบูชาในการทักษิณาทานอุทิศถวายแก่หม่อมเจ้าจรัสโฉม
เกษมสันต์ ณ โอกาสบัดนี้
เกล้ากระผมรู้สึกซาบซึ้ง
ในพระคุณของหลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จฯ
เป็นอย่างยิ่งที่ได้เมตตามาเป็นองค์ประธานเปิดป้ายกุฏิ บุญถิ่น อัตถากร
รับรองพระเถระ เจ้าภาพชื่นใจพร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด
และท่านศึกษาธิการจังหวัด ศึกษาธิการอำเภอพรหมบุรี
พร้อมด้วยญาติโยมชาววัดอัมพวันต่างปลื้มปีติยินดีโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง
บัดนี้ได้โอกาสอันเป็นมงคลแล้ว
ขอพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาโปรดเปิดป้าย กุฏิบุญถิ่น
อัตถากร รับรองพระเถระ เพื่อเป็นสิริมงคล
แล้วกรุณาให้โอวาทตามสมควรแก่เวลาสืบไป........