โทรจิต
ของวีโก้-ชาวนอรเวย์
พระครูภาวนาวิสุทธิ์
P1004
เรื่องโทรจิตทางใจ มี นายวีโก้
ที่มาต่อปริญญาโทที่จุฬาฯ เป็นชาวนอรเวย์ อาตมาคิดว่าคงจะเป็นฝรั่งชาติฮอลันดามาบวชที่นี่
เขาเป็นชาวคริสต์ บิดาเป็นวิศวกรไฟฟ้าแห่งนอรเวย์ ปู่เขาเป็นศาสตราจารย์ภาคคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยออสโล
มารดาเป็นเลขานุการมหาวิทยาลัยออสโล มีลูกชายคนเดียวชื่อ วีโก้ มีลูกสาว ๒ คน
วีโก้เรียนอักษรศาสตร์ภาษาไทยเรียนหลายภาษามาต่อปริญญาโทที่ประเทศไทยที่จุฬา
ปู่เขาเป็นศจ.บอกกับหลานว่า
เจ้าไปประเทศไทยจงเอาของดีมาฝากปู่
เพราะปู่อ่านพระไตรปิฎกเป็นภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยของเราทุกศาสนามีให้เรียน
อ่านแล้วซึ้งใจในภาคปฏิบัติธรรมเหลือเกิน ไปแล้วจงเอามาฝากปู่ให้จงได้
เขาก็โน้ตแล้วให้ปู่เซ็นชื่อไว้ ฝรั่งนี่ทำอะไรละเอียด ก็มาเรียนที่จุฬาฯ
เขามาสิงห์บุรี อยากจะมาดูชาวบ้านแป้ง
คนเวียงจันทน์ย้ายมาตั้งแต่สมัยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก บ้านนี้มีอาชีพทางปั้นหม้อ
ทำเครื่องช่างต่าง ๆ ทำทอง
ที่บ้านแป้ง
มีเจ้าคุณองค์หนึ่งชื่อ เจ้าคุณพรหมโมฬี ก็ไปกราบนมัสการพระคุณเจ้านี้มีปัญหาถาม
๑๐ ข้อ แต่เจ้าคุณไม่สามารถตอบได้ ก็เลยพาฝรั่งมาหาอาตมาที่วัดนี้
แต่อาตมาก็ไม่ทราบว่าตอบถูกหรือผิด ตอบไปแล้วเขาก็ลากลับ กลับไปได้ ๑๐ กว่าวันเศษ
แบกหีบมาที่วัดบอกกระผมขอบวชที่วัดนี้
ขอเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามที่ปู่มีความประสงค์ อาตมาบอกไม่ได้คุณเป็นชาวต่างประเทศต้องได้รับอนุญาตจากบิดา
มารดาเสียก่อน จึงจะบวชได้ ไม่งั้นบวชให้ไม่ได้ เขามีใบแสดง
ฝรั่งเขามีว่าพออายุเท่านี้ก็หมดหน้าที่ แล้วปู่เขาก็มีในฐานะของพ่อแม่
ก็ได้อนุญาตให้เขาเอาของดีมาฝากให้ได้โดยการบวช อาตมาก็อนุญาต
ฝรั่งคนนี้เก่งมาก
ท่องขานนาคได้ใน ๓ ชั่วโมง แล้วก็วินัยของพระรู้มาก่อน
เพราะเขาเรียนหนังสือไทยเขียนได้ดีมาก บวชแล้วเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ทำได้เคร่งครัด
๔๕ วัน สามารถโทรจิตได้ เขาถามว่าผมอยากจะกราบเรียนถามว่า
คนไทยชาวพุทธเวลาเขาตายกัน กรวดน้ำได้ไม่ได้ไม่รู้ ผมอยากจะถามว่า
อุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้กับพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้รับไหมครับ
อาตมาเห็นว่าจิตเขาสูงแล้วพอสมควร
สามารถจะโทรจิตได้พอดีแม่เขากำลังป่วยหนัก
พักฟื้นอยู่ที่บ้านเขาอยากจะอุทิศส่วนกุศลไปด้วยบุญกุศลอย่างนี้ จะได้รับมั๊ย
ก็บอกเขาว่าได้ เขาก็เดินจงกรมแล้วนั่ง เสร็จแล้วก็อธิษฐาน เวลาอธิษฐานจะแผ่เมตตา
อย่าทำกำลังนั่ง เวลาส่งผลก็เช่นกัน ต้องทำให้เสร็จกิจก่อน ทำให้งานเสร็จก่อน
เราจะเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง นั่ง ๑ ชั่วโมง เสร็จกิจในการภาวนาก่อน
แล้วค่อยสวดมนต์แผ่เมตตาโดยอโหสิกรรม ทำให้จิตใจสบายเบิกบาน
แล้วแผ่ได้เลยอุทิศได้ตอนหลัง ไม่ใช่นั่งด้วยแผ่ไปด้วย จะไม่ได้รับ
พอทำเสร็จแล้ว
เขาก็อธิษฐานจิตหลังจากนั่งภาวนาหมดกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อโหสิกรรมต่อกันให้จิตใจเบิกบานบริสุทธิ์ เขาอธิษฐานว่า
ในวันนี้เป็นวันชาติของข้าพเจ้า แม่ของข้าพเจ้ากำลังป่วยหนัก
ด้วยบุญกุศลของลูกที่ได้บำเพ็ญกุศลได้บวชในพระศาสนาและได้เจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ถ้าเป็นความจริงดังกล่าวแล้ว ขอให้แม่ของข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บทันที
ประการที่
๒ ปู่ของข้าพเจ้าที่ต้องการจะให้หลานเอาของดีไปฝากบัดนี้หลานได้ของดีแล้ว
ประการที่
๓ ขอให้เพื่อนของข้าพเจ้าอีก ๓ คนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน
จงมีความสุข ความเจริญโดยทั่วหน้ากัน ในเมื่อทั้ง ๓ นี้ได้รับแล้ว
ขอให้ตอบทางจดหมายทันที
อธิษฐาน
ถึงเดี๋ยวนั้นไม่ต้องรอเวลาเหมือนไปรษณีย์ วันนั้นพอดีเป็นวันชาติของนอรเวย์
เขาก็มาพักคุยกันที่บ้านของวีโก้ อยู่ที่ออสโล คุยกัน แม่เขานอนอยู่ในห้องพักฟื้น
กำลังป่วยแต่กลับจากโรงพยาบาลแล้ว ยังอ่อนเปลี้ยอยู่ในห้อง
เวลาส่งโทรจิตที่นี่เป็นเวลากลางคืน ๔ ทุ่ม ที่โน่นเป็นเวลาเช้า เวลาไม่เท่ากัน
รู้ได้จากการตอบรับหนังสือ ขณะนั้นปู่เห็นผ้าเหลืองแวบผ่านหน้าไป
ทุกคนก็สังหรณ์พร้อมใจกันคิดถึงวีโก้ทันที ก็คุยเรื่องวีโก้
ปู่เขาก็เข้าใจว่าหลานคงจะได้บวชในพระพุทธศาสนาเพราะผ้าเหลืองผ่านหน้าแล้วก็หายไป
พ่อเขาก็พูดถึงวีโก้เรียนอักษรศาสตร์ที่จุฬา
แม่กำลังคิดถึงลูกชายก็ได้ยินพูดถึงวีโก้ลูกชาย ปู่พูดว่าเห็นผ้าเหลืองแวบ
แม่ก็คลานออกมาอารามดีใจคิดถึงลูก เลยหายออกมานั่งโต๊ะคุยกันเป็นชั่วโมง
พอคุยกันแล้ว แม่ก็เริ่มเขียนหนังสือ เขาเขียน วัน เดือน ปี ลงเวลาด้วย
ก็เขียนถึงวีโก้ลูกรัก เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านของเราวันนั้นเป็นวันชาติ
เพื่อนของเจ้าด้วยก็มาอยู่ที่นี่ พ่อและปู่ ปู่ของเจ้าเห็นผ้าเหลือง
ถามว่าเจ้าบวชจริงมั้ย แล้วปฏิบัติกรรมฐานจริงเท็จประการใด แม่ตอนนี้กำลังพักฟื้น
เขาเห็นผ้าเหลืองแล้วก็พูดถึงลูก แม่ก็หายทันที เขียน ๔-๕
หน้ากระดาษกว่าจะมาถึงวัดหลายวัน ผ่านที่จุฬาฯ ก็ส่งมาให้ที่วัด
พอพระวีโก้อ่านแล้วน้ำตาร่วงทันที เขาก็แหลให้ฟัง
ตอนนั้นเขาขอเวลาอาตมาวันละชั่วโมงตอน ๓ ทุ่ม อาตมาจะไปไหนไม่ได้
เขาว่าผมข้ามน้ำข้ามทะเลมาท่านต้องไปไหนไม่ได้ ๑ ชั่วโมง
ดังที่กล่าวมานี้ยังมีหลักฐานอยู่
ในเวลากาลต่อมา
วีโก้จะจบหลักสูตร ก็ต้องกลับประเทศนอรเวย์ หลักการเขามีอยู่ว่า
ถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัยไหนก็ตาม ถ้าจบแล้วต้องไปเป็นทหาร ๑ ปีไม่ต้องจับใบดำ ใบแดง
ประเทศเขามีหลักอย่างนี้ ทุกคนเป็นทหารหมด ๑ ปี แต่เขาไม่นิยมรบกับใคร
วีโก้ก็มาบอกกับอาตมาว่าผมจบหลักสูตรปริญญาโทแล้ว อยากจะอยู่ประเทศไทยต่ออีก ๑ ปี
จะทำอย่างไร
อาตมาก็แนะนำให้
คือ ทำเหมือนเดิม อธิษฐานจิตเดินจงกรม ๒ ชั่วโมง นั่ง ๒ ชั่วโมง แล้วขอแผ่ถวายเป็นกุศลถึง
๑. องค์พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสยาม
๒. อธิการบดีและอาจารย์ภาควิชาของเขา
๓. ถึงประเทศนอรเวย์
มีบิดา มารดา ครูอาจารย์
๔. แล้วก็แผ่ถึงกระทรวงกลาโหมให้ยับยั้งเวลาการเป็นทหารอีก
๑ ปีต่อไป
วีโก้ทำติด ๆ กัน ๒
คืน แล้วขอลาเข้ามหาวิทยาลัย สิกขาลาเพศ พอลาไปแล้วก็บอกอาตมาว่า
ถ้าผมไม่ได้อยู่ต่อไป ก็อาจจะเขียนจดหมายแจ้งช้าหน่อย
ถ้าได้อยู่ต่อไปก็จะรีบส่งโทรเลขมาให้ทราบ เขายังถาว่า แม่ราตรีที่เป็นคนไทย
ผมจะขอแต่งงานกับเขา เพราะรักกันมาหลายปี ตั้งแต่อยู่เมืองนอก
หลวงพ่อเห็นสมควรหรือไม่
อาตมาบอกไม่ทราบไปนั่งกำหนดสติเอาเอง
ว่าจะแต่งงานได้หรือไม่ได้มีประโยชน์เหมือนกัน ก็ไปนั่งเดี๋ยวมาบอกก็แล้วกัน
หลังจากนั้นเขาก็มาบอกว่าหลวงพ่อถ้าจะไม่ได้แต่งงานเสียแล้ว รู้ได้ยังไง สติบอก
บุพเพสันนิวาสไม่ได้แต่งงานกับคนนี้ ผมจะต้องได้ไปแต่งงานกับคนง่อยกำพร้าพ่อแม่
สติบอกได้
ในที่สุดเขาก็กลับไป
เขาดีกว่าคนไทย ขอเทียนแพใส่พานดอกไม้ กรวย เขาก็ไปไหว้อธิการขอศีลขอพร
ไหว้บ้านเหนือ บ้านใต้ก่อนไป เที่ยวลาคนโน้นคนนี้ คนไทยไม่เอาไหน ขอพรใครที่ไหน
สึกแล้วยังไม่ทันไร หนีไปแล้ว ยังไม่ลาพระอาจารย์เสียด้วย จึงไม่ได้รับพร
จึงได้มีอายุไม่ยืน
อาตมาก็ให้เขาทำกรวยผ้าไหมให้เขาก็ไปกราบขอพรอธิการของเขายังไม่ทันวางพาน
พอเข้าไปอาจารย์บอกว่า วีโก้คุณได้อยู่ต่ออีก ๑ ปี เท่านั้น น้ำตาร่วงเลย
เขามีหนังสือยืนยันจากนอรเวย์ กระทรวงกลาโหมให้คุณอยู่ต่อในประเทศไทยได้อีก ๑ ปี
อยู่ได้คืนเดียวกลับมาแล้วรายงานให้อาตมาทราบ นี่ด้วยอำนาจบุญกุศล
ขอได้ฟังได้พิจารณาด้วยตนเอง เพราะมันเกิดขึ้นแล้วที่นี่
นี่เรื่องของแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลก็ได้อยู่ต่อ ๑ ปี
พอกลับไปก็ไปเป็นทหารแล้วส่งข่าวให้อาตมาเรื่อยมา
อาตมาดีใจอย่างหนึ่ง
ทางราชการเคยส่งพวกโรงไฟฟ้าไปดูงานที่นอรเวย์ อาตมาก็จดหมายบอกไป เขาให้พักที่บ้านเลย
เปิดโรงไฟฟ้านอรเวย์ให้ดูวันอาทิตย์เลย เขาเป็นหัวหน้าใหญ่
เขาบอกเขารักลูกเขาอย่างไร รักคนไทยอย่างนั้น
สามารถจะสงเคราะห์ให้ลูกเขาได้บวชในพระศาสนา
เอกอัครราชทูตนอรเวย์มาดูตัวอาตมาที่วัด อยากดูตัว
หัวหน้าศาสนาหน่อยไปเอาลูกเขามาบวชได้ยังไง
วีโก้ออกไปจากประเทศไทยไปเป็นทหาร
๑ ปี แล้วไปบรรจุเป็นอาจารย์ที่เดนมาร์ก สอนมหาวิทยาลัยเดนมาร์ก
ตอนหลังได้มีโอกาสมาทำวิทยานิพนธ์เรื่องผี เขาให้โอกาส ๓ ปี
เลยในที่สุดก็ไปเจอแฟนง่อย แต่งงานกันที่เดนมาร์กเป็นง่อยจริง ๆ กำพร้าพ่อแม่
เป็นอาจารย์สอนภาคภาษาจีนกลางเป็นโรคโปลีโอที่ขา เดินไม่ได้ เป็นตั้งแต่รุ่น ๆ
เป็นชาวฟิลิปปินส์ ญาติพี่น้องส่งเรียน มาบรรจุเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดนมาร์ก
เลยรักกันแต่งงานกัน อันนี้ไม่ต้องหาหมอดู พอมีลูก ๒ คน
ก็ได้มาเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องผีที่จังหวัดเชียงใหม่ เขียนปีครึ่งจบ พอไปสอนที่เดนมาร์กว่าผีมีจริงมั้ย
ที่พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงทางเชียงใหม่ถือผีกันที่ซางดอย มันเป็นประวัติมาอย่างไร
เอาไปสอนมหาวิทยาลัยของเขา
เขากลับมาก็พาภรรยามาด้วย
เอามาอวดอาตมาว่าเขาได้คนง่อยจริง ๆ
ที่กล่าวมาแล้วก็เลยนับถือพุทธศาสนาตามสามีมาจนบัดนี้ แต่เดิมเป็นชาวคริสต์เอาลูกมาด้วยมาค้างที่วัดนี่หลายวัน
เดินทางไปเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องผีมาจากไหน เป็นอย่างไรเรียกว่าผี
แล้วทำไมถึงถือผีอย่างไร ก็เอาไปสอนเดี๋ยวนี้เป็นศาสตราจารย์แล้ว
ที่บ้านเขามีโต๊ะหมู่บูชา พระบูชาซึ่งอาตมาส่งไป
พอสมควรแล้ว
สำหรับเรื่องของวีโก้ ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ที่วัดอัมพวันจนสามารถส่งโทรจิตไปยังญาติพี่น้อง ณ ประเทศนอรเวย์ได้.........