P14013

รายการ “ชีวิต……ไม่สิ้นหวัง   เติมพลังคนรุ่นใหม่”

ทางไทยทีวีสีช่อง ๓

ออกอากาศ  วันที่ ๕  มีนาคม  ๒๕๔๓

เรื่อง

ความทุกข์

พิธีกร

.  รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์  กบิลสิงห์

.  ใบเตย  ..สุธาสินี  อนรรฆมาศ

. หนูมายด์  ..พีราภรณ์  เทพวิวัฒน์

 

น้องมายด์                               หลวงปู่ขา  น้องมายด์มีทุกข์คะ  คุณแม่ไม่ยอมซื้อของเล่นให้คะ  ทำอย่างไรดีคะหลวงปู่

 

หลวงปู่                                   คุณแม่ไม่ยอมซื้อของเล่นให้เพราะอะไร เหรอ 

 

หนูมายด์                                ไม่ทราบคะ  คือ คุณแม่บอกว่าไม่จำเป็นคะ

 

หลวงพ่อ                                 แล้วหนูว่าอย่างไร

 

หนูมายด์                                ก็ไม่ได้ว่าอะไร คะ  คือ พ่อแม่พูดอะไร หนู ก็พูดตาม 

 

หลวงพ่อ                                 หนูยังเล็กยังอยู่ในวัยนี้ นะ  หนูยังไม่ทราบ ซื้อของเล่นเนี่ย หนูจำไว้ นะ  มีประโยชน์ เขาถึงซื้อให้ ถ้าไม่มีประโยชน์ มันอาจจะเป็นอันตราย  บางอย่างเป็นอันตรายแก่เราได้  คุณแม่ถึงไม่ให้เราซื้อ  คุณแม่เขารักลูก  ลูกจะเอาอะไรก็ให้ทุกอย่าง  แม่ให้ลูกได้ ทุกอย่าง  แล้วใครรักหนูอย่างบริสุทธิ์  หนูรู้ไหม  แม่กับพ่อเท่านั้น ที่รักเราอย่างบริสุทธิ์  ใครหนอจะรักเราเท่าพ่อแม่  ไม่มีแล้ว  ในเมื่อพ่อแม่รักเราให้เราได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่พ่อแม่จะไม่ให้อะไรเราได้ทุกอย่าง  หนูชอบอย่างไร  คุณแม่จะซื้อให้ทั้งหมด   แต่ปัญหาจะมีอย่างหนึ่ง  ถ้าซื้อไปแล้วหนูจะเอาไปเล่นเป็นอันตราย จะเอาไปเล่น หรือเอาไปฉีกเล่น มันเป็นอันตราย  และไม่มีประโยชน์  เลย   แม่เขาก็ไม่ให้ซื้อ  ปัญหามันอยู่ตรงนั้น เข้าใจหรือยัง หนู

 

หนูมายด์                                หลวงปู่ขาแล้วทุกข์เกิดจากอะไร คะ 

 

หลวงพ่อ                                 ทุกข์มันเกิดจากใจของเขาเอง  มันทุกข์อยู่ที่ใจ ทุกข์เรื่องอะไรละ มันทุกข์เรื่องอะไรมันเยอะแยะ  มันทุกข์แบบกว้างๆ  ทุกข์ร้อน  ทุกข์นี่มันเป็นร้อน  สุขมันเย็น  นี่ต้องพูดให้หนูฟัง  ทุกข์มันร้อน นี่หนูโดยไฟมันร้อนไหม หนู พ่อแม่ทะเลาะกัน  พ่อแม่ตีกัน  พ่อแม่ไม่สมประดีกัน  หนูเป็นทุกข์ไหม  ถ้าหากหนูมีเพื่อนหลายคน  หนูจะต้องไปบอกเพื่อนนะ  ลูกยกพวกตีกัน ต่อยกัน  พ่อแม่มีความสุขไหม  คุณพ่อคุณแม่ เป็นทุกข์  ทุกข์อยู่อย่างนี้   จำไว้ทุกข์คือไม่สบายใจ  ตอบอย่างนี้  ไม่ต้องไปเอาธรรมะสูง ๆ   ตอบอย่างที่หนูเห็นนี่  พ่อแม่หนูให้สตางค์  ไปซื้อขนมกินที่โรงเรียน  เกิดหายไปแล้ว  เพราะหนูขี้ลืมไม่สนใจตัวเอง  แล้วเอาของไปทิ้ง  เอาสร้อยไปทิ้งอีก  พ่อแม่ให้เอาไปทิ้งอีก  หนูเป็นอย่างไร  หนูก็ต้องเป็นทุกข์  หนูเป็นทุกข์เพราะอะไร  เพราะหนูเอาของไปทิ้ง  แล้วเรากลัวพ่อแม่ว่า  หนูก็จะเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นอย่าทำอย่างนี้  ไปไหนอย่าลืม  อย่าประมาทอย่าพลาด  เอาของไปวางที่ไหนอย่าลืม  นี่ความทุกข์เป็นอย่างนี้  ถ้าหากไปอธิบายสูงกว่านี่  หนูจะไม่เข้าใจเลย  ทุกข์ คือ ไม่สบายใจ  หนู วันหนึ่งเนี่ย ถ้าเราอารมณ์ ไม่ดี  เราไม่สบายใจไหม  อารมณ์ไม่ดี และคิดไม่ดี  มันเป็นทุกข์  เนี่ยความดีมันเป็นความสุข  ความชั่วนั่นแหละเป็นความทุกข์  อย่าไปทำชั่วมันเลยทำแต่ความดีอย่างเดียว

 

หนูมายด์                                หลวงปู่ขา  วันนี้นะคะ  ลูกมายด์ ก็ขอกราบขอบพระคุณหลวงปู่มากเลยคะ แล้วลูกมายด์ จะพยายาม จะไม่ให้เกิดทุกข์อีกแล้ว

 

หนูใบเตย                               กราบนมัสการหลวงตาคะ  วันนี้ใบเตย ก็มีเรื่องความทุกข์ต่างๆ นา นา  มาให้หลวงตา  ช่วยไขข้อข้องใจของใบเตย คะ  ขอเริ่มทุกข์แรกดีกว่านะคะ  เป็นทุกข์ที่เกิดจากการสอบตก คะ  เพื่อนใบเตยบางคน เขาก็ตั้งใจเรียน  ขยันแต่เขาก็ยังสอบตกคะ  อันนี้เราจะช่วยเขาได้อย่างไร 

 

หลวงพ่อ                                 ช่วยยาก หนู  เรื่องการสอบตก มันเรื่องของใครของมัน  การสอบการเรียนเนี่ยมันตัวใครตัวมันแน่นอน  คนที่สอบตกเพราะอะไรรู้ไหม  ก็เพราะไม่ตั้งใจเรียน  .ไม่ได้ตั้งใจ  .ไม่ได้ตั้งฟังครูบาอาจารย์  .ไม่ทบทวน  .ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่  ที่ในฐานะเป็นนักเรียน  ตกแน่นอน  อีกประการต่อไป  คนที่ไม่สนใจการเรียนก็คือจากอะไร  จากเขาไม่มีคุณค่าของชีวิตเลย  ไม่ใช่ที่ว่าคนที่ขยันเรียนแต่สอบตก  มีน้อยมาก   ที่ขยันเรียนแล้วสอบตก  แต่ที่ขี้เกียจดูหนังสือไม่สนใจงานในหน้าที่ของเขาเอง  ในฐานะเขาเป็นนักเรียน  ไม่สนใจต่อตัวเขาเอง  แล้วกลับไปสนอย่างอื่น นอกประเด็น  ขอตอบให้คุณหนูฟัง ในระยะของอยู่ในวัยรุ่นนี้  ขยันนอกหน้าที่การงาน  น่าจะรับผิดชอบว่าเขาเป็นนักเรียน  จะต้องศึกษาจะต้องแสวงหาความรู้  ทำไมไปคบเพื่อน  ก็ขอฝากไว้ที่สอบตกส่วนมากจะคบพาลได้ผิด  คบบัณฑิตได้ผล  คบคนชั่วทำตัวให้อับจน  คบคนดีให้ผลจนวันตาย  เมาเพศหมดค่า เมาสุราหมดความสำคัญ  เมาการพนันหมดตัว เมาเพื่อนชั่วหมดดี  ส่วนมากวัยรุ่น ไปคบเพื่อนอันธพาล  สันดานบาป  ก็ขอประทานโทษคุณหนู  อย่าไปสนใจเรื่องยาเสพติด ไปสนใจยาเสพติดแล้วไปติดเข้าแล้ว  หมดทางที่จะเรียนหนังสือแน่  ไม่ใช่ว่าเขาสอบตกแล้วเราจะไปช่วยเขาได้อย่างไร  เราจะช่วยแนะนำเขา  ให้เขาสวดมนต์ไหว้พระ  ถ้าเขาสอบตกก็ว่าเนี่ย  คุณเป็นเพื่อนกับเรา  คุณตั้งใจเรียนหนังสือดี  เพราะเรียนด้วยความตั้งใจ  อย่าประมาท แล้วเราสวดมนต์ไหว้พระ ก็ตั้งใจเรียนหนังสือตั้งใจดูหนังสือ  ก่อนดูหนังสือก็สวดมนต์ไหว้พระ  ไหว้พ่อไหว้แม่  แล้วอ่อนน้อมถ่อมตนไม่เถียงพ่อ ไม่เถียงแม่  ขยันมั่นเพียรและช่วยพ่อแม่ตลอดรายการ  รับรองเรียนไม่มีทางตก  ไม่มีการสอบตกแน่นอน  แล้วเขาสอบตกแล้วจะไปช่วยเขาได้อย่างไร  ถ้าช่วยแนะนำเขาให้เขาสวดมนต์  ให้เขาไหว้พระ  แล้วก็ให้เขาตั้งใจเรียนหนังสือ ถ้าทำอะไรเนี่ย  คุณหนู ทำด้วยความตั้งใจหน่อยได้ไหม  ไม่ได้ตั้งใจเลย  ตั้งใจด้วยความเคารพ  เนี่ยรุ่นหนูเนี่ยรู้แล้ว ทำด้วยความเคารพ  คืออะไร  เคารพตัวเอง  พูดแล้วต้องทำ  อย่าผัดวันประกันพรุ่ง  คนที่ผลัดประเดี๋ยวๆ  จะดูหนังสือ ก็ประเดี๋ยว  และการดูหนังสือก็ต้องไปดูหลายคน  เอาเพื่อนมานั่งล้อมวงแล้วดูหนังสือ อย่าทำ   ต้องดูหนังสือคนเดียว  ดูคนเดียวถึงจะจำแม่น  ดูหลายคนจำไม่แม่นหรอก  นี่ขี้เกียจมันเป็นเพราะอย่างนี้  สอบจึงตก  ดูหนังสือต้องดูคนเดียว  ดูด้วยสมาธิภาวนา  อย่าไปดูหลายคน คุยด้วยดูด้วย  อย่างนี้ใช้ไม่ได้  เสียการเรียน  ไม่ใช่น้อย นี่คนขี้เกียจเป็นอย่างนี้  นอกเหนือจากนั้นเราแนะนำเขา  จะช่วยเขาที่เขาสอบตก  ให้เปลี่ยนใจใหม่ ตั้งใจดูหนังสือ  .เคารพตัวเอง  พูดแล้วต้องทำ  อย่าผลัดวัน ประกันพรุ่ง  อย่าเดี๋ยวไม่ได้  .เคารพสถานที่  เคารพครูบาอาจารย์  ที่เขาสอน  ครูบาอาจารย์ที่เขาสอน ต้องเคารพ  ต้องตั้งใจฟัง  ครูที่สอนทุกประการ ๓.เคารพกติกานัดหมายของโรงเรียน  อีกด้วย  กติกาที่นัดไว้  ไม่เคารพไม่ได้   ทำให้สอบตก นอกเหนือจากนั้นแล้ว  ต้องทำอะไรตั้งใจเรียนด้วย  จิตสงบ  อย่างวุ่นวาย  อย่าฟุ้งซ่าน  อย่าหละหลวมเลาะแหละเหลวไหล ตั้งใจเรียนด้วยจิตสงบ สมาธิภาวนา  สิ่งนั้นจะออกมาด้วยความถูกต้อง  การสอบตกจะไม่มีแน่นอน  ก็ขอฝากคุณหนูไว้ไปบอกเพื่อนฝูงด้วย อย่าทำอย่างนั้นเลย  ขอเจริญพรอย่างนั้น

 

หนูใบเตย                               แล้วอย่างตัวหนูเองนะคะ ก็อยากจะมีอิสรเสรีภาพ  แต่บางทีก็อยากจะมีให้  ผู้ใหญ่หรือคุณพ่อคุณแม่มาดูแล คะทุกข์อย่างนี้ก็ไม่รู้จบรู้สิ้นซักที่  ก็อยากจะถามหลวงตา ว่าหนูจะทำอย่างไรดีคะ

 

หลวงพ่อ                                 อิสรเสรี คืออะไร ต้องเข้าใจก่อน  การอิสรเสรีต้องไม่เชื่อพ่อแม่นั้น  ไม่ใช่  พ่อแม่ต้องดูแลลูก  ดูลูกกลัวว่าจะไปเสียหาย  พ่อแม่ต้องฝังลูกให้ดี  ปลูกลูกให้ดี  เหมือนปลูกต้นไม้  ปลูกในกระถางขึ้นในกระถาง ปลูกถี่ ขึ้นถี่  ปลูกห่างขึ้นห่าง  ต้นไม้ที่โตขึ้นแล้ว  ไม่มีระเบียบ  ใครมาว่า ต้นไม้ขึ้นไม่มีระเบียบ  เดี๋ยวจะย้อนไปหาพ่อแม่  ว่าใครเป็นคนปลูก  แต่พ่อแม่จะปล่อยให้หนูไปตามใจชอบไม่ได้  เข้าใจไหม  ต้องแปลคำว่าอิสระ เสรีก่อน    อิสรเสรี  แปลว่าอะไร  ไม่ใช่ไปตามคำใจชอบต้องให้พ่อแม่คอยดูแล  แต่ตามใจชอบไม่ได้  อิสรเสรีควรจะแปลว่า  ชนะใจตัวเอง  เข้าใจไหม ต้องตนเป็นที่พึ่งของตน  ตนเป็นที่พึ่งไม่ได้แล้วจะไปพึ่งใคร  อิสรเสรีอย่างนี้ ไม่ใช่อิสรเสรี  จะไปที่ไหนก็ไปได้  นึกจะไปก็ไป  นึกจะไปเที่ยวก็ไป  ไม่ใช่อิสระ  อิสระตัวนี้ แปลว่าชนะใจตัวเอง จะไม่สร้างความชั่วอีกต่อไปแล้ว  จะสร้างแต่ความดีต่อไป แต่ว่าจะไม่อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ไม่ได้  พ่อแม่ต้องดูลูกตลอดรายการ  พ่อแม่รักลูกคิดปลูกฝัง  พ่อแม่เลี้ยงลูกเหมือนปลูกต้นโพธิ์  ไว้ใหญ่ไว้โตจะได้อาศัย  นี่อย่างนี้ต่างหาก พ่อแม่เลี้ยง ลูกให้โต  โตด้วยวิชาการหลักฐานมีงานทำ  ถ้าพ่อแม่ไม่ดูแลแล้ว หนูอาจจะ  เดินทางผิดก็ได้  เพราะฉะนั้นอิสรเสรีไม่ใช่แปลว่าตามใจตัว  อิสรเสรีตาใจตัวได้อย่างไร  ตามใจตัวเสียคนเลยนะ  อิสรเสรีในทางธรรมะแปลว่าชนะใจตัวเอง  อย่าขี้เกียจ อย่านอนตื่นสาย  อย่าไปหน่ายหากิน  อย่าไปหมิ่นเงินน้อย  อย่าไปนั่งคอยวาสนา  มาเองได้เหรอ  นอนนานงานน้อย  กินบ่อยเงินหมด มีเงินหน้าสด  หมดเงินหน้าแห้ง  แล้งน้ำใจ  จะเป็นอิสรเสรีได้อย่างไร 

 

หนูใบเตย                               เพื่อนๆ อย่าลืมนะคะ  อิสรเสรี  คือการชนะใจตนเองคะ และอีกอย่างหนึ่งใบเตยอยากจะฝากไว้ว่า  ถ้าเพื่อนๆ  ไม่อยากมีทุกข์ที่เกิดจากการสอบตกเนี่ย  เพื่อนๆ ก็ตั้งใจเรียนตั้งใจอ่านหนังสือ  ตามหลักที่หลวงตาได้บอกเอาไว้วันนี้

 

ดร.ฉัตรสุมาลย์                       ท่านผู้ชมทางบ้านเคยรู้สึกเหมือนดิฉันไหมคะ  ว่าบางทีเรารู้สึกว้าเหว่  รู้สึกเหมือนไม่มีคนรักเรา  และเราก็เป็นทุกข์เหลือเกิน  หลวงพ่อขาทุกข์อย่างนี้ เราจะแก้อย่างไร

 

หลวงพ่อ                                 เจริญพร  ทุกข์นี่มันกว้างขวางมาก  แต่ว่าจะขอเจริญพรว่าสมัยพุทธกาลนานมาแล้ว ต้องอ้างเหตุผล คนเรามันมีทุกข์เหลือเกิน  หาที่พึ่งทางใจไม่ได้  เป็นคนแก่ก็ว้าเหว่  เด็กก็ว้าเหว่  หาที่พึ่งไม่ได้แล้ว  ตอนนั้นยังไม่มีหลักฐาน  มีหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า คนเราจึงไปหาสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาเป็นที่พึ่ง  เช่นไปหาผีเจ้าเข้าทรงในสมัยพุทธกาล  ยังไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัส  ไปหาเทวดาช่วย  ไปหาฤาษีชีไพร อยู่ในดงในป่า  หาผีเจ้าเข้าทรง  ให้เทวดาช่วย  ก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร  เช่น ยกตัวอย่าง นุชนาถ สุชาดา  เอาข้าวมธุปายาส ไปถวาย เทวดาดังนั้น  อันนี้เป็นหาที่พึงไม่ได้เลย  เมื่อหาที่พึ่งไม่ได้แล้วจึงไปหาที่พึ่งไม่ดี  อีกประการหนึ่ง ยุคใหม่ปัจจุบันนี้  ไปหาสิ่งที่ไร้สาระ  มันเกิดทุกข์ในใจกลุ้มอกกลุ้มใจ  ไม่มีที่พึ่ง ก็ไปเล่นการพนัน  สนุกแล้วไปดื่มสุรายาเมาแล้วไปเที่ยวในคลับ  แล้วก็ไปเทียวหาความสบาย ไปช๊อปปิ้งที่โน้น ช๊อปปิ้งที่นี่  หาว่ามันจะได้หมดทุกข์  กลับไปเพิ่มทุกข์ขึ้น  ยุคใหม่สมัยนี่เป็นอย่างนั้น  ก็ขอเจริญพรให้ได้รายละเอียดเข้าไปอีก  หิวก็เป็นทุกข์  เหนื่อยก็เป็นทุกข์  ลำบากอกลำบากใจมันก็เป็นทุกข์ทั้งนั้นเลย  ความยากความลำบากก็เป็นทุกข์  ทุกข์ทั้งนั้น  ก็ขอเจริญพรว่า โลกนี้นี่หนอ  ไม่มีความสุขเลย  มีแต่ความทุกข์น้อยทุกข์มากเท่านั้น  แต่เราจะแก้อย่างไรดีหนอ  ว่าความทุกข์มันเกิดที่จิตใจ  มันไม่ใช่เกิดที่อื่น และก็ไม่ใช่คนอื่นทำให้  เราไปเข้าใจผิดว่าสามีทำ ให้เราทุกข์ คือเราเป็นภรรยา  ฝ่ายสามีก็บอกภรรยาทำให้เป็นทุกข์  ฝ่ายสามีภรรยา  พ่อบ้านแม่เรือน  ก็ว่าลูกทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่มีความสุขเลยลูกไม่เรียนหนังสือดังนี้ ก็ไปโทษอย่างโน้นอย่างนี้  นี่แก้ไม่ถูกจุดดังนั้น  ถ้าหากว่าทุกข์เกิดขึ้นกับเราแล้ว  ต้องแก้ที่ตัวเรา  มันทุกข์เรื่องอะไร  พระพุทธเจ้าสอนให้หาเหตุแห่งทุกข์ให้ได้  นี่ง่ายๆ  ทุกข์เกิดขึ้นที่จิตใจแน่นอน  จะเกิดจากลูก เกิดจากสามีภรรยา  ก็หาเหตุเกิดทุกข์   ด้วยการให้เขามาด่า เขามาว่า หรือสิ่งแวดล้อมทำให้เราเกิดทุกข์ เราก็แก้ตรงทุกข์ที่มันเกิด  เกิดทุกข์แรกคืออะไร  ขอเจริญพร  ทุกข์ที่จิตใจ  แก้ที่ใจเราแน่นอน  อย่าไปแก้คนที่อื่นเลย  เขาด่าเราให้มีทุกข์  เราก็ไม่สบายใจ อยู่ในวงล้อมที่เขาด่า  เกิดจิตไม่สงบ  แล้วเราไปแก้ที่คนอื่น  มันต้องแก้ที่ตัวเรา  ทำอย่างไรหรือ ธรรมะสั้นๆ  ช่วยตัวเองให้ได้  . ต้องพึ่งตัวเองให้ได้  .ต้องสอนตัวเอง ตั้งสติเข้าไว้  สวดมนต์ไหว้พระแก้ปัญหาทุกข์  ด้วยการเจริญ พระกรรมฐานบ้าง  ตั้งสติอารมย์บ้าง  แก้แล้วจิตใจก็จะดีขึ้น  เมื่อจิตใจเย็นแล้วมีธรรมะ  มีคุณธรรมแล้ว  ทุกข์นั้นจะหายไปเองโดยปริยาย  และทางอ้อมด้วย  ก็ขอเจริญพรอย่างนั้น  ง่ายๆ

 

ดร.ฉัตรสุมาลย์                       หลวงพ่อขาแต่คนบางคน เวลาทุกข์มากๆ  มันไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร  ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นกรรมฐานอย่างไร

 

หลวงพ่อ                                 คือ เขาไม่เข้าใจ  ไม่มีใครสอน

 

ดร.ฉัตรสุมาลย์                       แล้วเราจะชี้แนะอย่างไร

 

หลวงพ่อ                                 ชี่แนะมันไม่ยากนัก  ขอเจริญพร  ข้อ ๒  บางคนทุกข์จนไม่รู้จะไปทางไหนเลย  นี่เมื่อกี้มารายงานว่าเจ้าฆ่าตัวตาย  เอามีดฆ่าตัวตายซะ  มันไม่มีทางออก  ทางออกเยอะแยะไปเลย ขอเจริญพรอย่างนั้น  ทางออกที่มีทุกข์คืออาตมากล่าวแล้ว     เมื่อครั้งก่อนโน้น    คือพุทโธโลยี  มันเป็นการแก้ปัญหาชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว  แต่ไม่แก้กลับไปสร้างปัญหา   สร้างทุกข์ระทมขมขื่นในชีวิต ตลอดรายการ อารมณ์ไม่ดี ก็ไม่แก้  ไม่รู้จักจะแก้เขาร้ายมาน่าจะร้ายตอกเหรอ  ไม่ใช่อย่างนั้น  เพราะฉะนั้น  ผ่าไปในทางที่ผิด  หาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายเยอะ  โดดตึกเยอะ  ติดยาบ้า  มีทุกข์เข้าไป  กินยาบ้า  มีทุกข์ก็ผ่าไปกินเหล้าคิดว่ามันจะหาย  กลับไปเพิ่มทุกข์หนักขึ้น  ขอเจริญพร  จะประกาศให้ทราบว่าเราจะแก้ที่ตัวเรา  อ่านตัวให้ออกบอกตัวให้ได้ใช้ตัวให้เป็นเห็นตัวตายจะได้คลายทิฐิ ดำริชอบ ประกอบกุศล  ได้ผลอนันต์  เป็นหลักฐานสำคัญ  ต้องเจริญพระกรรมฐาน ตั้งสติอารมณ์  ให้มากที่สุด  เราจะแก้หาจุดที่มาของทุกข์  ว่ามันทุกข์ไม่สบายใจ  ไม่สบายใจก็ทำที่ใจเราเนี่ย ไม่สบายใจหนอ  ตั้งสติหายใจยาวๆ  เดี๋ยวจะรู้เอง  มีสติสัมปชัญญะทุกข์จะหายไปเอง  ทุกข์ตัวนี้หายไปได้แน่  คือ เวทนา  มันเวทนาเหลือ มันไม่สบายใจเหลือเกิน ก็เป็นเวทนา  ปวดเมื่อยก็เป็นเวทนา ไม่เป็นสุขเลย  ความสุขของเราท่านทั้งหลายเอ๋ย  มันเจือด้วยความทุกข์  ตลอดรายการ หาความสุขที่แท้ และแน่นอน ไม่ได้เลย  เราต้องแก้ที่ตัวเรา  ถ้าตัวเราทำดี  คือนั่งกรรมฐาน  ก็ขอเจริญพรพี่น้องทุกคนว่า  การทำกรรมฐานเป็นการแก้ปัญหาชีวิต ที่ดี  และการทุกข์ที่เกิดขึ้นจะแก้ได้  มันมีทุกข์อยู่ในใจ  ไม่ใช่ไปแก้ทุกข์ที่คนอื่น  เราไปแก้ทุกข์ที่คนอื่นได้อย่างไร  ไปแก้ผิดจุดทั้งนั้น  มันทุกข์ที่เรา  ใจเราไม่สบายก็แก้ที่ใจเรา  เราแก้ปัญหาบำบัดทุกข์บำรุงสุขด้วยพระกรรมฐาน  ขอเจริญพร

 

ดร.ฉัตรสุมาลย์                       แท้ที่จริงนั้นทุกข์ อยู่ในตัวของเราเอง  ที่ว่าตัวของเราเองนั้นคือที่จิต  คุณภาพของจิตของเรามันคือทุกข์  วิธีแก้ก็คือแก้ที่จิตนั้นเอง  โดยการใช้กรรมฐาน  ง่ายที่สุดเวลาที่โมโหขึ้นมา  โกรธขึ้นมาหายใจลึกๆ  นี้เป็นเทคนิคเทคโนโลยี  ของหลวงพ่อ  ซึ่งดิฉันคิดว่าท่านผู้ชมทางบ้าน  และรวมทั้งตัวดิฉันเองด้วย  ใช่ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตจริงของเราได้  ทุกๆ โอกาส  นะคะ