ลมหายใจ ปัสสาสะ-อัสสาสะ

 

พระเทพสิงหบุราจารย์

P16018

 

อ่านในหนังสือพระไตรปิฎกจะรู้ถึง อัสสาสะ  ปัสสาสะ พวกนิโรธสมาบัติ  พละสมาบัติ  ต้องรู้เลย    เขาบอก อัสสาสะ  ปัสสาสะ เข้านิโรธสมบัติ  พละสมาบัติได้  เราไม่เชื่อ   อัสสาสะ คือ  หายใจเข้า  เช่นว่า  นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ  คาถาเป็นบทภาวนา มี ๑๐  ตัว  หายใจยาวๆ เข้า  ว่าให้ได้  ๑๐  ตัว  หายใจออก  ว่าเดินหน้าเลย  แล้วส่งกระแสจิตไปหลับตา หายใจออก ถึงโน้นอเมริกาเลย   แล้วหายใจเข้า ปัสสาสะเข้ามา  จะรู้เลยว่าลูกอยู่สบายไหม  ตรงนี้ไม่มีใครรู้เลย  ไม่มีใครปฏิบัติ  ปฏิบัติไม่ได้จึงไม่บอก  บอกก็ไม่เกิดประโยชน์มั่วแต่ไปดูจมูกส่งให้ลูก  ส่งให้ผัว  เลยไม่ได้อะไรเลย

ลมหายใจ  ปัสสาสะ อัสสาสะ  คืออะไร  คือ หายใจเข้ายาวๆ   และหายใจออกก็ส่งกระแสไปทางอารมณ์หายใจ เรียก  อัสสาสะ  ปัสสาสะ  มันจะส่งไปยังหายใจเข้าก่อน  แล้วส่งออกไปหายใจออก  ออกไปแผ่เมตตาไปหาลูก   ถึงแน่นอน  นี่แหละ  อัสสาสะ  ปัสสาสะ 

หายใจเข้า  คือ  อัสสาสะ     หายใจออก คือ ปัสสาสะ 

ปัสสาสะ  หายใจออก  ออกไปหาลูกเราที่อเมริกานั้น  ไปถึงแน่นอน ถ้ากำลังส่งพอ   ถ้ากำลังจิตของท่านพอ    ท่านจะรู้ว่าลูกท่านกำลังอยู่ดีกินดี ไหม  ลูกท่านเกเร เกเสไหม  แล้วมันจะย้อนกลับมาบอกด้วยการหายใจเข้า อัสสาสะ

จำไว้ว่าคนปฏิบัติธรรมนี้ เขาอยากให้รู้อะไร  ปริศนากัมมัฏฐานกล่าวไว้ว่า อยากเรียนรู้ถามหญิงคันหูก  อยากทำถูกถามเด็กเลี้ยงควาย   เลี้ยงควายนี้ต้องทำเป็นคนโง่  โง่บ่เป็นบ่เป็นใหญ่  เด็กเลี้ยงควายมันโง่  แต่ควายไม่โง่   ไปด่าเขาไอ้ควาย  แล้วควายมันเคยขึ้นโรงศาลกับเขาไหม  ควายเคยไปฟ้องใครไหม  ควายเคยไปทะเลาะกับใครไหม  “ไอ้ควาย”  ยังดีกว่า “ไอ้คน ที่ทะเลาะกัน  หาเรื่องกันไม่เข้าเรื่อง”  ถ้าทำกัมมัฏฐานได้จะทายออกเลย  ว่าเด็กเลี้ยงควายคืออะไร  ไม่ใช่ปฏิัติไปญาณ  ๑๖  ไปญาณ  ๑๗  อะไรกัน  องค์นี้ยังทำไม่ได้ 

นี่อาตมาไปได้จากหลวงพ่อดำ ที่น้ำพอง เราจึงไปสร้างขอนแก่นให้เกิดประโยชน์ต่อ หลวงพ่อดำ หลวงพ่อดำองค์นี้ให้กัมมัฏฐานพระเจ้าตากสิน  ถ้ามีใครถามโยมผู้ชายว่าได้กัมมัฏฐานจากใคร  ต้องตอบว่าอุปัชฌาย์  ถ้าอุปัชฌาย์ไม่ให้ใครจะให้ เกสา  โลมา  นะขา  ทันตา  ตะโจ  ตะโจ  ทันตา  นะขา  โลมา  เกสา  เบื้องต่ำตั้งแต่ปลายผมลงมา  เบื้องบนตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมา  อาตมากว่าจะทำได้ตั้ง  ๑๐ ปี  นะ  คลำไม่ถูกว่าอะไรเป็นอะไร  จนไปนั่งเจริญสติปัฏฐานสี่  ยืนหนอ ๓  ครั้ง  เราเคยใช้อย่างนั้น

ลมหายใจนี้มีอำนาจ  ธาตุลม ทำให้เพชรบูรณ์พังเลยเห็นไหม  ธาตุน้ำก็ทำให้บ้านพัง  ธาตุดิน ภูเขาไฟระเบิด  และแผ่นดินไหว  ตายไหม  ดิน  น้ำ  ไฟ  ลม  แรงหมด อยู่ที่ตัวเรา  แล้วก็ได้จากการเจริญพระกัมมัฏฐาน  ทำให้พลังสูง  อัสสาสะ  หายใจเข้ายาวๆ   ยาวได้เท่าไร  ออกให้ยาวเท่านั้น  จะแผ่เมตตาไปให้ลูกถึงอเมริกาได้  ถ้าหายใจสั้นๆ  แผ่ไม่ออก  ตกปากกระบอก  ปืนยิงตกปากกระบอกหมด  อัสสาสะ หายใจเข้ายาวๆ  อัด  อัดลมหายใจ อย่าดูจมูก  อัดเข้ามา  ออก ปัสสาสะ  หายใจยาวๆ  ไว้แผ่เมตตา  ไปถึงสิงคโปร์ได้   บางคนไม่รู้เลย เรื่อง อัสสาสะ ปัสสาสะ  เคยอ่าน  แต่ไม่รู้อะไร  เหมือนเราไปเข้าในตลาด ผ่านร้านที่ไม่ได้เขียนป้ายไว้  พอเราบอกว่า  ร้านนี้ขายทอง จะร้องอ๋อเราได้ผ่านมาแล้ว    อัสสาสะ  ปัสสาสะ  มีอยู่ในนิโรธสมาบัติ  อ่านหนังสือจะรู้  แต่เราจะทำได้ไหม   อัดลมหายใจเข้า  แล้วก็ปัด แปลว่าออกไป ไปถึงลูกไปถึงครอบครัว 

ถ้าเรา อัสสาสะ  ปัสสาสะ ได้ยาว  สมาธิจะหายใจยาวได้  สมาธิที่มีหายใจยาวไม่ได้   มันจะขาดใจตายบางคนรู้ไม่จริง  อาตมาบอกอย่างไรก็ไม่เชื่อ  พอเขาปฏิบัติธรรม  ทำกัมมัฏฐานได้  พูดอะไรรู้เรื่องหมด  พอปฏิบัติธรรมแล้วเกิดความฉลาด  เกิดความเฉลียว  รวบรวมข้อมูลไว้ในคอมพิวเตอร์  พอมีทุกข์แล้ว  มันกดออกมาแก้เลย   ปัญญาในตัวของเราจะแก้ปัญหาเอง  แล้วเราก็จะร้องไห้  ผ่านความเสียใจอย่างน่าใจหาย  แล้วมาพบความสุขในชีวิตบั้นปลาย  ต้องลำบากมาตั้งแต่เป็นสาวเป็นแซ่  เมื่อเราพบความสุขก็ให้จำไว้เลยว่า  ความสุขนี้เราได้จากความทุกข์แท้ๆ   เป็นสาวต้องผ่านทุกข์  มาดีตอนแก่  จะไม่แย่ตอนตาย  ถ้าตอนต้นดีแล้ว าเสียตอนแก่ มันจะแย่ตอนตาย   ความสุขนี้ได้มาจากความทุกข์  อย่างเช่น  โยมวนิดา  จำนามสกุลไม่ได้  เป็นไหหลำ  เตี่ยเป็นไหหลำนอก  อยู่จังหวัดแพร่ เป็นอัมพฤกษ์  ปากก็เบี้ยว มือหงิก หยิบอะไรไม่ได้เลย  ต้องป้อนข้าวให้ และขาก็เกไปเกมา  เมื่อวันที่    พฤษภาคม  ๒๕๔๓   อาตมาให้หนังสือสวดมนต์ไป  และบอกวิธีนั่งสมาธิไป  พอไปถึงจังหวัดแพร่  โรงงานทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์  เก้าหวาย  ก็สวดพาหุงมหากา  แล้วนั่งสมาธิ  ปรากฏว่าอาการต่างๆ หายเลย  หมดเวรหมดกรรม  พอไปสวดมนต์ ทำกัมมัฏฐานเข้า หายวัน  หายคืน  โรงงานขายดิบขายดี  ส่งออกตลอด  แล้วก็พิมพ์หนังสือแจก  มีคนมาถามว่า  วนิดาหายได้อย่างไร  ก็ตอบไปว่าหายได้  เพราะหลวงพ่อวัดอัมพวัน  เลยสวดมนต์ทั้งสามีภรรยา  ลูกสอบเข้าเอ็นทรานซ์ได้หมดเลย  

จำไว้เลย  กัมมัฏฐานไม่ใช่ตัดกรรม   กัมมัฏฐานแปลว่าต้องใช้หนี้กรรม  จะได้หมดหนี้กันในชาตินี้  ชาติหน้าอย่าได้เอาหนี้ต่อไปอีกเลย   ถ้าอาตมาไม่นั่งกัมมัฏฐานจะรู้หรือจะต้องคอหัก   ใช้หนี้นก  นกมาทวงต้องให้มันนะ  เพราะไปหักคอมัน  เดี๋ยวนี้อาตมาเลิกกินนก  กินเป็ด  กินไก่  ใครมาถวายไม่ฉันหรอก  เราไปฆ่ามัน  เตาก็ไปต้มมัน   นี่แหละกัมมัฏฐาน แปลว่าต้องใช้หนี้กรรมเก่า  ในครั้งอดีตที่ผ่านมาแล้ว  สร้างความดีใช้หนี้กรรมเก่า เรียกว่ากัมมัฏฐาน แต่เรานั่งจิ้มๆ  จ้ำๆ  จะไปใช้ได้อย่างไร  ต้องไปใช้ในเมืองนรก  ต้องตกนรกเป็น  ๑๐๐  ปี  จำไว้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล  ดูโยมสุนีย์เป็นตัวอย่าง ต้องลำบากลำบน ต้องกินข้าวกับน้ำตา  ไม่เว้นแต่ละวัน  มาตอนนี้สบายแล้ว  ถึงสบายอย่างไรก็ต้องมีทุกข์  สามีดี ลูกดีอย่างไรก็ต้องมีทุกข์  ทุกข์กาย  ทุกข์ใจ  ทุกข์เรื่องนั้น  ทุกข์เรื่องนี้ตลอดรายการ  อาตมาก็ขอให้มามืด กลับไปสว่าง  แล้วท่านยังกลับไปมืดอีกหรือ   บางคนไม่รู้เลย คิดว่านั่งกัมมัฏฐานไปสวรรค์นิพพาน   นุ่งขาวหน่อยได้บุญ  แต่เปล่ากลับได้บาปไป  ข้างนอกขาวข้างในดำ  เราต้องใช้หนี้เขา  ใช้หนี้กรรมเก่า  ไม่ใช่ตัดกรรม  อย่าไปเชื่อใคร  เขาโกหก  ถ้าตัดกรรมได้  สวดตัดกรรม  ไปฆ่าใครเขามา ก็ตัดกรรม ไม่ต้องใช้หนี้หรือ  หนี้เงิน หนี้ทอง  ใช้หมดได้  แต่หนี้บุญคุณใช้หมดไหม  เดี๋ยวนี้เด็กสมัยใหม่ เถียงพ่อ เถียงแม่  เถียงคำไม่ตกฟาก  เพราะกระทรวงศึกษาเอาศีลธรรมออกจากโรงเรียน  ไม่ต้องสวดมนต์ไหว้พระ 

ความทุกข์  ทำให้เราต้องร้องไห้ตลอด  ๒๔  ชั่วโมง  ทำให้รู้กฎแห่งกรรมเมื่อครั้งกระนั้นคือที่ไหนอย่างไร  เราไปเจอใครบ้าง  ใครมาช่วยเราบ้าง  เราต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสาร  เราไปรู้จักโยมสุนีย์ ขายทองได้เพราะว่าเตี่ยเขาช่วยชีวิตเรา  ตอนที่เราไปอยู่บ้านบางแวก  ไปต่อดนตรีไทย  เพราะฉะนั้นเราทำกัมมัฏฐานกันตอนนี้  กินน้อย  พูดน้อย  นอนน้อย  ทำความเพียรมาก  ไม่มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น  ไม่ต้องไปอ่านหนังสือ  มาถึงก็ บูชาพระ  กราบพระ  แล้วก็ตั้งนะโม    จบ แล้วเราก็เริ่มเดินจงกรม ๑  ชั่วโมง  นั่ง    ชั่วโมง  เสร็จแล้ว แผ่เมตตา  หรือ ไม่แผ่ก็ได้  ยังได้ไม่ครบแผ่ให้คนอื่นไม่ได้  ทำต่อไปเรื่อยๆ  เอากำไรชีวิต สักหน่อย  เราปฏิบัติบูชาต่อพระพุทธเจ้า  อามิสบูชาตัดออก  เอาเฉพาะปฏิบัติบูชา  ได้อานิสงส์มากกว่า อามิสบูชา

การมาปฏิบัติธรรม ผลงานก็จะเกิดขึ้นกับตนเอง สุดท้ายนี้ ก็ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ท่าน ผู้กินน้อย  นอนน้อย  ทำความเพียรให้มาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  การปฏิบัติธรรมของท่านจะได้รับผลอานิสงส์ สมความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ ด้วยการตัดปลิโพธ  เพื่อต้องการเข้าถึงแก่นแท้คือรัตนตรัย  จะรู้ว่าความเกิดเป็นมนุษย์แสนจะยากมาก ลำบากเหลือเกิน  ดังที่กล่าวแล้ว  ก็ขอให้ทุกท่านจงเข้าถึงธรรมในพระพุทธศาสนา จนถึงแก่นแท้  ขอให้ท่านจงเจริญในสัมมาปฏิบัติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้น  ขอทุกท่านจงเจริญด้วยอายุ  วรรณะ  สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ   นึกคิดสิ่งหนึ่งประการใดสมความมุ่งมาดปรารถนา ทุกประการทุกรูป  ทุกนาม    โอกาสบัดนี้ เทอญ ขอเจริญพรทุกท่าน