ลูกแก้ว
ลูกขวัญ
ด.ช.วิวรรธน์
เหตระกูล
จากหนังสือ กฎแห่งกรรม
ธรรมปฏิบัติเล่มที่ ๑๑
พระราชสุทธิญาณมงคล
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
วัดอัมพวัน
สิงห์บุรี
กระผมเป็นลูกคนกลางของครอบครัว
ที่บ้านเรามีด้วยกัน ๗ คน มีพี่สาวอายุ ๑๖ ปี ตัวกระผมอายุ ๑๔ ปี คุณแม่คุณพ่อ
คุณยายอายุ ๘๘ แ และคุณตาอายุ ๙๒ ปี ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะการเป็นลูกคนกลางหรือไม่
ที่ทำให้รู้สึกว่ามีความกดดันในใจเสมอ ความสนใจที่ได้รับคือการถูกว่ากล่าวติเตียน
หรือถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมตามความคิดของกระผม
ทำให้กระผมกลายเป็นเด็กเก็บตัวไม่ค่อยพูดจา ไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะรู้สึกว่า
ทำอะไรพูดอะไรไม่เป็นที่พอใจหรือสนใจนัก สู้เราเงียบไว้ดีกว่า
และช่วงวิกฤตในชีวิตกระผมก็มาถึง เมื่อครูพิเศษไม่มีเวลาว่างมาสอนต่อไป
คุณแม่เป็นผู้ดูแลต่อมา คุณแม่ของกระผมเป็นผู้ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับลูก ๆ
ท่านพูดกับพวกเราเสมอว่า แม่มีชีวิตอยู่เพื่อลูกรัก
และสมบัติที่แม่จะให้ไว้ซึ่งไม่มีวันหมด คือความรู้ ขอให้พยายามตั้งใจเรียนหนังสือ
ความสำเร็จในชีวิตก็จะตามมาเอง เงินทองก็ตามมาเองเหมือนกัน
ผมก็รู้ว่าจะต้องเครียดกับการเรียนขึ้นอีกแน่ ๆ
เพราะคุณแม่ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุด
สมบูรณ์ที่สุดให้เกิดขึ้นกับการเรียนของกระผมแน่นอน แต่กระผมไม่ใช่คนหัวไว
แถมจะซึมลึกจนดูเป็นคนดื้อเงียบ คุณแม่ถึงกับลางานมาติวให้กระผมเมื่อถึงเวลาสอบ
สอบครั้งแรกนี้ กระผมประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
และเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองยังมีคุณแม่ที่เอาใจใส่ด้วยความรักอย่างไม่ลำเอียง
และรู้สึกว่ามีคุณค่าในชีวิตบ้าง แต่เมื่อถึงการสอบครั้งต่อไป
คุณแม่ไม่มีเวลาว่างมาดูแลกระผม ท่านสั่งให้กระผมดูหนังสือเอง
ผลปรากฏกระผมจำอะไรไม่ได้เลย เพราะตัวเองไม่เคยรู้ว่าจะดูยังไง ตรงไหน
อับจนทั้งสติและปัญญา เหตุการณ์ครั้งนั้นกระผมไม่สามารถลืมได้
วันที่คุณแม่ร้องไห้เสียใจผิดหวังในตัวกระผม
คำว่ากล่าวสั่งสอนในครั้งนั้นมันกระแทกความรู้สึกของกระผมจนต้องร้องไห้เสียใจอย่างมาก
เสียใจที่คุณแม่เข้าใจเราผิด เสียใจที่ทำให้คุณแม่เสียใจ
แต่กระผมก็ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่มีการแก้ตัวใด ๆ คุณแม่บอกกระผมว่าโลกของแม่มืดเสียแล้ว
ท่านบอกว่า กระผมเป็นลูกที่ท่านห่วงมากที่สุด และหลังจากนั้นคุณแม่ดูเงียบซึมไป
ซึ่งแปลว่า มีปัญหาที่ท่านยังแก้ไขไม่ได้ พี่น้องของกระผมเป็นเด็กหัวดี ช่างพูด
ทำให้ใครเห็นใครชอบ ใครรัก แต่กระผมก็ไม่สนใจแล้ว เพราะรู้ว่า
คุณแม่ที่ให้ความรักแก่กระผมเสมือนน้ำใสที่เต็มเปี่ยมปากแก้ว
เมื่อใดที่กระผมถูกติเตียนหรือท้อถอย คุณแม่ก็จะคอยพูดให้กำลังใจโดยบอกว่า แม่รู้ว่าลูกของแม่ต้องเป็นเด็กดีแน่
ไม่งั้นก็ไม่ใช่ลูกแม่ซิ และแม่ต้องพยายามค้นให้เจอเร็วที่สุด
เพื่อคนอื่นเขาจะได้เชื่อถือ
คุณแม่พยายามสืบหาครูพิเศษที่เก่ง
ๆ เพื่อมาสอนกระผม และนี่คือจุดเริ่มต้นของการได้รู้จักวัดอัมพวัน อาจารย์พรใจ
คืออาจารย์พิเศษวิชาคณิตศาสตร์ของกระผม ท่านเป็นศิษย์วัดอัมพวัน
และไปปฏิบัติธรรมที่นั่นเสมอ อาจารย์มาสอนทีไรก็ต้องเล่าความดีของหลวงพ่อจรัญ
ท่านเจ้าอาวาส ถึงการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สั่งสอนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
และเมื่อท่านเทศน์โปรดเมื่อใด พวกลูกศิษย์ก็จะได้รับคำตอบแก้ปัญหาได้ทุกคน
เพราะท่านจะพิจารณาเรื่องที่เทศน์ได้จากวาระจิตของผู้ที่มาเฝ้าคอยท่านอยู่
แล้วท่านก็จะเทศน์โปรดโดยไม่มีการเตรียมก่อนล่วงหน้าแต่อย่างใด เมื่อมาฟังบ่อย ๆ
สนิมในใจ หนามในใจ ความไม่ดีทั้งหลาย เริ่มถูกขัดเกลา ทำให้จากร้ายกลายเป็นดี
บางคนศรัทธาถึงกับบวชเนกขัมมะที่วัด
ซึ่งหลวงพ่อได้สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมอันสมบูรณ์ยิ่ง ท่านเชื่อว่า
ความสะดวกสบายย่อมทำให้จิตสบาย ผู้ปฏิบัติย่อมทำได้เต็มที่ เวลาอาจารย์พรใจเล่า คุณแม่และกระผมจะมีความสุขที่ได้ฟัง
สิ่งดี ๆ ต่าง ๆ ของหลวงพ่อจรัญและวัดอัมพวัน และจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งก็คือ
การบรรพชาสามเณรของลูกชายอาจารย์เอง ซึ่งได้มีโอกาสเกิดใหม่มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
จากโครงการบรรพชาสามเณรใจเพชรของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ โดยมีคุรอนุรุธ
ว่องวานิช เป็นนายกสมาคม
โครงการนี้
เป็นโครงการในช่วงปิดเทอมใหญ่
อาจารย์ได้เล่าว่าเด็กที่ได้เข้าร่วมโครงการจะเป็นลูกคนใหม่ที่ดีขึ้น
จะมากหรือน้อยก็ตามแต่บารมีเด็กแต่ละคน คุณแม่ได้โทรฯไปถามรายละเอียด
แต่พอดียังไม่ถึงเวลาจัดโครงการ คุณแม่และกระผมเริ่มอยากรู้จักหลวงพ่อจรัญ
และวัดอัมพวัน ด้วยตัวเองยิ่งขึ้นทุกที และในที่สุดบุญกุศลเก่าของกระผมก็ตามมาทัน
เมื่อทางโรงเรียนอัสสัมชัญที่กระผมศึกษาอยู่
ได้ประกาศรับนักเรียนเข้าร่วมโครงการสามเณรใจเพชรเฉลิมพระเกียรติ
กระผมรีบสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างไม่ลังเล ด้วยความอยากจะเป็นลูกคนใหม่ที่ถูกใจทุกคนในครอบครัว
มีชีวิตที่สวยงามสว่างไสวเหมือนการประดับประดาดวงไฟเฉลิมฉลอง
และเพื่อคุณแม่ที่เคารพรักของกระผม จะไม่อยู่ในโลกมืดอีกต่อไป
กระผมต้องไปฝึกปฏิบัติตัวทดสอบความพร้อมที่ยุวพุทธฯ ก่อนเป็นเวลา ๗ วัน
โดยไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอก
และทำให้เข้าใจทันที่ว่าทำไมผู้ที่ได้บรรพชาแล้วเมื่อสึกออกมาจึงเป็นลูกแก้วลูกขวัญเป็นคนดีขึ้นได้
ผู้ไม่พร้อมหรือไม่ได้สมัครในแล้วย่อมไม่ผ่านพ้นความกดดันช่วงเตรียมความพร้อมแน่นอน
เพราะเราต้องตื่นตีสามครึ่ง สวดมนต์ทำวัตรเช้า เดินจงกรม นั่งสมาธิ ครั้งหนึ่ง ๆ
จะไม่ต่ำกว่า ๒ ชั่วโมง วันหนึ่งปฏิบัติประมาณ ๘ ชั่วโมง
ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าโครงการ คือ คุณมณเธียร ธนานาถ
บุคคลท่านนี้สมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญในความดี ความเสียสละ ความตั้งใจจริง
ความเพียรพยายาม ที่จะขัดเกลาความดิบแห่งชีวิตให้กลายเป็นเพชรเจียรไน ซึ่งเป็นพรสวรรค์และบารมีของคุณมณเธียรที่ทำสำเร็จ
สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นกับพวกกระผมต่อพระพุทธศาสนา
เพื่อการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเมื่ออยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์
เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตเมื่อเข้าใจแก่นแท้และความเป็นสุดยอดของศาสนา
คุณสมบัติพิเศษและน่ายกย่องสรรเสริยในการกระทำซึ่งไม่คิดว่าจะมีใครทำได้เสมอเสมือน
แม้แต่หลวงพ่อจรัญก็ได้ประทานความเมตตา ยกย่องในการกระทำซึ่งไม่มีใครทำได้
ท่านจึงขนานนามว่า มณเธียรทอง
กระผมได้บรรพชาสองครั้ง
ครั้งแรกกระผมรู้ตัวว่ายังปฏิบัติได้ไม่เต็มที่ เพราะมีแต่เพื่อน ๆ
ชาวอัสสัมชัญทั้งหมด และถูกส่งไปอยู่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวฬุวัน จ.ขอนแก่น
คุณมณเธียรต้องสละเวลาของครอบครัว ซึ่งมีลูกเล็ก ๆ ถึง ๓ คน
ไปคอยดูแลสั่งสอนพวกกระผม และมีพี่เลี้ยงซึ่งก็คือผู้ที่เคยบรรพชาในโครงการมาแล้ว
ต้องการมาช่วยพี่มณเธียรอีก ๔ ๕ คน พวกเราบรรพชาอยู่ ๓ อาทิตย์ และสิ่งดีที่ได้มาคือมีสติขึ้น
รู้อะไรผิดอะไรถูก รู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของคุณตาคุณยาย
และได้ก้มกราบด้วยความเคารพเปรียบประดุจมารดาบิดาที่สองของกระผม
และที่สำคัญที่สุดคือ กระผมสามารถดูหนังสือเองได้ และจำได้ดี
คิดหวังสิ่งใดมักจะได้รับผลสมปรารถนาเสมอ ตัวอย่างเช่นวิชาพระพุทธศาสนา
กระผมต้องการได้ท็อป ก็สำเร็จผลจริง ๆ ได้เป็นที่หนึ่งของห้อง ด้วยคะแนน ๒๙ เต็ม
๓๐ ทำให้กระผมเกิดความมั่นใจในตัวเอง และมีธรรมอยู่ในอารมณ์เสมอ
รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องคอยรบกวนคุณแม่ซึ่งเหน็ดเหนื่อยจากการงานของท่านอยู่แล้ว
และทำตนเป็นที่พึ่งของตนได้ตามหลักคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และหลวงพ่อจรัญท่านได้ย้ำอยู่เสมอในเรื่องนี้ คุณแม่รู้สึกจะดีใจกว่ากระผมอีก
ท่านอุตส่าห์ทำห้องในให้กระผมอยู่ได้อย่างอิสระ
ตามที่กระผมเคยขอท่านหลายครั้งหลายหน และท่านได้พูดด้วยความภาคภูมิใจว่า เห็นหรือยังลูกตัวจริงของแม่
กระผมจึงเกิดความคิดอยากจะบวชอีกครั้ง เพื่อปฏิบัติอย่างเต็มที่
จึงได้สมัครไปที่ยุวพุทธิกสมาคม ในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน
ซึ่งระยะเวลาจะนานกว่าคราวที่แล้ว คือเตรียมความพร้อม ๑๐ วันและบวช ๓๐ วันเต็ม
และอยู่ที่วัดอัมพวัน
การบวชครั้งนี้จุดประสงค์หลักคือ
๑.
เพื่อตัวผมเอง ซึ่งแน่ใจว่า จะทำให้ชีวิตในทุกด้านดีขึ้นอีก
และแน่นอนว่าการเรียนย่อมดีขึ้นแน่ ๆ ด้วยความมีสติสัมปชัญญะของกระผม
จะได้เป็นที่รักของคุณครูทั้งหลายบ้าง
๒.
เพื่อคุณแม่ คุณยาย และคุณตา ซึ่งป่วยอยู่และดีขึ้นเป็นลำดับ
ซึ่งส่วนหนึ่งคือจากอานิสงส์ของการบรรพชาและแผ่เมตตาของกระผมแน่นอน
การปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันนี้
จะเคร่งมากขึ้นเพราะจะมีพระมาดูแลและคอยให้คะแนน และสอบอารมณ์เสมอ
กระผมได้รับทุกขเวทนาจากการปวดขา จนบางครั้งต้องร้องไห้ออกมา
กระผมติดเวทนาอยู่นานมาก จนกระทั่งเหลือเพียง ๓ วันก็จะถึงวันลาสิกขาแล้ว
ผมจึงตั้งจิตอธิษฐานว่าขอให้ได้รู้อะไรที่ลึกซึ้งจากการปฏิบัติบ้าง ตายเป็นตาย
และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
คือขณะที่กระผมได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสจนต้องนึกอยู่ตลอดเวลาว่า ตายเป็นตาย
อดทนกำหนดไปเรื่อย ๆ ปวดจนรู้สึกหายใจขัด ผมนึกถึงคุณแม่ ท่าสนพูดกับกระผมว่า ทำให้ได้นะลูก
และกระผมก็ได้เห็นเหตุการณ์ตอนเด็ก ๆ ว่าคุณแม่เลี้ยงดูเราดีขนาดไหน ลำบากขนาดไหน
และเมื่อกระผมงอแง คุณแม่ก็จะเอาไปอุ้มกอดไว้แนบอก และตบหลังพร้อมกับพูดปลอบไปด้วย
น้ำตาของกระผมไหลไม่หยุด รู้สึกถึงพระคุณของคุณแม่ว่ามีมากมายจนไม่สามารถตอบแทนได้หมด
และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ กระผมมั่นใจว่าเป็นธรรมะที่กระผมได้จากวัดอัมพวัน
ซึ่งทำให้กระผมเกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนา และความดีต่าง ๆ ที่บังเกิดขึ้นครั้งนี้
ได้เข้าไปอยู่ในกมลสันดาน และจะไม่เปลี่ยนจากการเป็นลูกแก้วลูกขวัญของคุณแม่
คุณพ่อ คุณยาย คุณตา อันเป็นที่รักและเคารพบูชาสูงสุดของกระผมตลอดไปทุกภพทุกชาติ
และจะครองตัวรักษาความเป็นศิษย์ที่ดีของพระอุปัชฌาย์
พระเดชพระคุณพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน ตลอดถึงเป็นศิษย์ที่ดีของพระครู
คุณมณเธียร ก็คือการมีความรู้คู่ความดีตลอดไป
หมายเหตุ คุณแม่ของกระผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลจากดำเป็นขาวของกระผมตั้งแต่บวชครั้งแรก
ท่านถึงกับได้ตามไปบวชเนกขัมมะที่วัดอัมพวันตอนระหว่างวันขึ้นปีใหม่
เพื่อศึกษาและค้นคว้าหาของดีวัดอัมพวัน
ซึ่งคุณแม่บอกว่าของดีสิ่งแรกของวัดอัมพวันซึ่งควรแก่การเคารพบูชาสูงสุดก็คือ พระราชสุทธิญาณมงคล
เจ้าอาวาสวัด อัมพวัน
ผู้เสียสละทุกอย่างเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
และของดีวัดอัมพวันได้มีรวมอยู่ที่องค์หลวงพ่อนั่นเอง ขึ้นอยู่กับบุญ
ความตั้งใจจริง มีศรัทธาของผู้ได้พบเห็นท่าน ว่าจะเอาไปได้หรือไม่
คุณแม่กระผมบอกว่า คำพูดของท่านหนึ่งประโยคก็สามารถอธิบายธรรมให้เห็นแจ้งได้มากมาย
เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นที่แปลกใจ ที่ได้เห็นคนมามายไปนั่งคอยท่านด้วยความอดทน
ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งแรกที่หลวงพ่อได้เริ่มอบรมพวกเรา คือให้มีขันติ
เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนอย่ามัวนั่งรอบุญวาสนาให้มาถึงเลย ควรเร่งศึกษาพระธรรม
เพื่อความสุขอันแท้จริงในขณะที่เรายังมีผู้ที่พร้อมจะอบรมสั่งสอนอย่างถ่องแท้
นับเป็นโชควาสนาของพวกเราจริง ๆ
กระผม
ขอน้อมกราบนมัสการพระราชสุทธิญาณมงคล ด้วยความเคารพบูชาสูงสุดเหนือเศียรเกล้า
น้อมเศียรเกล้ากราบพระอุปัชฌาย์ผู้ประเสริฐ
ท่านเป็นเลิศทางธรรมนำสมัย
คอยดูแลปกป้องเราให้พ้นภัย
ให้อาศัยพบธรรมะวัดอัมพวัน
ขอกราบเท้าท่านพระครูผู้เลอเลิศ
ช่วยให้เราได้เกิดสมศักดิ์ศรี
ท่านช่วยสอนธรรมะดับราคี
ท่านผู้มีเมตตาและการุณ
ขอกราบของพระคุณคุณมณเธียร
ผู้พากเพียรสร้างมนุษย์ประเสริฐศรี
ช่วยเหล่าสามเณรให้ได้ดี
ไม่ให้มีมารขวางหนทางธรรม
ขอขอบพระคุณพวกท่านพี่เลี้ยง
ที่กล่อมเกลี้ยงดูแลเราทั้งหลาย
ให้พ้นทุกข์มีแต่สุขสะดวกสบาย
ทั้งทางกายทางใจตลอดมา
ขออำนาจคุณพระศรีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จงแสดงอิทธิฤทธิ์ประสิทธิผล
ให้ทุกท่านเจริญจตุรพิตรมงคล
อยู่ยืนยงจรรโลงธรรมฉ่ำแผ่นดิน
----------------