อานิสงส์ของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
เผ่าเกษม คงจำเนียร
ข้าพเจ้าเป็นบุตรท่านผู้อำนวยการสมบัติ
และหม่อมราชวงศ์ ทอร์ศรี คงจำเนียน
ผู้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ ๑๐๘/๑
ถนนราชวิถี แขวงบางพลัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ๑๐๗๐๐ เป็นโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการศึกษาและประชาชนทั่วไป
ข้าพเจ้าเกิดมาในตระกูลเชื้อพระวงศ์
ท่านตาและท่านยายมีบรรดาศักดิ์เป็นหม่อมเจ้า
แต่ความดีและความชั่วของตัวบุคคลนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ชาติตระกูล หากอยู่ในตัวของเราเอง
ดังตัวอย่างเช่น ชีวิตของข้าพเจ้าในอดีต เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ๆ นั้นมีนิสัยซุกซน
ทั้งดื้อทั้งรั้น ใครจะมาตักเตือนอะไรจะไม่เชื่อ ปากจัด ด่าเก่ง
ที่ร้ายที่สุดคือการชอบฆ่าสัตว์เล่นเพื่อความสนุกสนานโดยไม่คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษแต่ประการใด
ครั้งหนึ่งคุณพ่อได้ทำโทษโดยการตีที่ฝ่ามืออย่างแรง
เพราะข้าพเจ้าได้ฆ่ากิ้งกือเล่น ข้าพเจ้าร้องไห้เสียใจ
แต่ก็ไม่ได้รู้ตัวว่าเป็นการกระทำบาปแต่อย่างใด เพียงแต่เสียใจที่คุณพ่อตีเท่านั้น
ส่วนการเล่นสนุกโดยการเอาลูกประทัดจุดไฟ
แล้วยัดเข้าไปในปากคางคกนั้นมันตลกขบขันและสนุกมากจริง ๆ ในวัยนี้
ครั้นเติบโตมาเป็นวัยรุ่นก็ยังไม่ได้รู้สึกว่า การเบียดเบียนชีวิตและการทำลายชีวิต
เพื่อความสนุกสนานเมามันนั้นมีโทษอย่างไร
การฆ่าที่โปรดปรานที่สุดในวัยนี้เห็นจะเป็น การล่านกด้วยปืน
มีความดีใจที่สามารถยิงนกได้โดยไม่พลาด ขณะที่นกกำลังบินอยู่ และทำได้ดีเสียด้วย
แถมมีกองเชียร์ผู้ติดตามคอยสรรเสริญยกย่องในฝีมืออีกด้วย
ทำให้ยิ่งมองไม่เห็นในความชั่วที่ตนได้ก่อไว้
ซ้ำร้ายกลับยิ่งทำความชั่วหนักเข้าไปอีก คือยิงนกแบบไม่เลือกว่าจะกินได้หรือไม่ได้
แต่ขอให้ได้ยิงก็แล้วกัน ทั้ง ๆ ที่คุณย่าและคุณอาว่ากล่าวตักเตือน
ห้ามปรามกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เคยเชื่อฟัง
ขณะนั้นข้าพเจ้าได้ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
๓ ของโรงเรียบประจำที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
การที่เด็กผู้ชายมารวมอยู่ด้วยกันมาก ๆ นั้นย่อมจะมีอะไรที่แผลง ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ
เช่นการหนีโรงเรียนเที่ยว ลองสูบบุหรี่และหัดดื่มเหล้า
จนกระทั่งถึงกับยอมเสียตัวให้หญิงโสเภณีก็อยู่ในวัยนี้ อายุ ๑๖, ๑๗, ๑๘ ปี
ซึ่งเป็นวัยคะนอง มีความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง
เพราะมีค่านิยมที่ว่าเป็นลูกผู้ชายแล้ว ต้องกล้าทำ กล้าลอง ประกอบกับพวกมากลากไป
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันเป็น ความนิยมที่ผิด ขาดสติ และโง่เอามาก ๆ
เสียด้วย
สมัยนั้นการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่และโรคเอดส์ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์
ไม่เคยรู้จักเลยว่าเป็นอย่างไร และยังไม่รู้จักเลยว่าเป็นอย่างไร
และยังไม่รู้เท่าทันของผลร้ายที่จะเกิดจากการลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุขนั้นเป็นเช่นไร
มีแต่ความอยากที่จะเที่ยวเล่นกับเพื่อนฝูงเท่านั้น
ในที่สุดความอยากก็ได้แสดงธาตุแท้โดยทำให้ข้าพเจ้าขี้เกียจ ไม่สนใจการเรียน สอบตก
จะต้องเรียนซ้ำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อเพื่อน ๆ จบการศึกษาไปหมดแล้ว
ยังคงเหลือข้าพเจ้าในชันมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ตอนนั้นมีความรู้สึกว้าเหว่ เศร้า
และเหงามาก ข้าพเจ้าได้เริ่มติดการสูบบุหรี่ตั้งแต่นั้นมา
หลังจากที่เรียนจบในขั้นเตรียมอุดมศึกษาแล้ว
ข้าพเจ้าได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ๑ ปี
ต่อจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ตัดสินใจส่งข้าพเจ้าไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา
ได้แต่งงานกับชาวอเมริกันและให้กำเนิดลูกสาวหนึ่งคน
หลังจากเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้ว ได้อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา มลรัฐมิชิแกน
เมืองคารามาซู ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา เรามีที่ดินและบ้านเป็นของตัวเอง
ใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ๑๑ ปี
โดยการนับถือพระพุทธศาสนาในทะเบียนบ้านเท่านั้น มาคิดดูภายหลังในช่วงชีวิตนี้มันไม่มีสารประโยชน์อะไรเลย
สะสมแต่โภคทรัพย์ ไม่เคยสะสมอริยทรัพย์แต่อย่างใด
ข้าพเจ้ารักลูกสาวคนนี้มาก
แต่แล้วก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพเจ้าเสียใจที่สุดในชีวิต
นั่นคือเราต้องแยกทางกัน ต้นเหตุอย่างหนึ่งเกิดจากตัวข้าพเจ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยา
และข้าพเจ้าต้องการที่จะเดินทางมาอยู่ประเทศไทย แต่ภรรยาไม่ยอมมาด้วย
ดังนั้นเราจึงต้องหย่าร้างกัน
ส่วนลูกสาวของข้าพเจ้านั้นก็ต้องอยู่ในความดูแลของภรรยา
ข้าพเจ้าเสียใจมากถึงกับแอบร้องไห้อยู่คนเดียว สุดท้ายก็ต้องเดินทางกลับประเทศไทย
มีเพียงกระเป๋าเดินทาง ๒ ใบ ข้าพเจ้าหวนคิดกลับไปว่า
คงจะเป็นกฎแห่งกรรมที่ข้าพเจ้าได้เคยทำลายชีวิตสัตว์
โดยเฉพาะนกที่ข้าพเจ้าได้ฆ่ามันอย่างโหดเหี้ยม
พรากลูกพรากแม่ทำลายชีวิตครอบครัวของพวกมันอย่างอำมหิต
ดังนั้นวิบากกรรมอันนี้ได้กลับมาตอบสนองข้าพเจ้าแล้ว และตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่คิดที่จะฆ่าสัตว์อีกเลย
แต่ก็ยังเป็นคนหลงใหลในอบายมุขอยู่
ต่อมาอีกประมาณสองปี
ข้าพเจ้าก็ได้พบกับภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งเราทำงานที่เดียวกัน
เรามีลูกชายและลูกสาวอย่างละหนึ่งคน
ช่วงชีวิตนี้บุญกุศลที่ได้สร้างก็แค่การทำทานเท่านั้น
ส่วนศีลและภาวนายังไม่เคยรักษาและปฏิบัติ
สมาทานศีลโดยพิธีการแล้วก็กลับมาดื่มเหล้ามั่วสุมในอบายมุขต่อไป
จุดหักเหของชีวิตที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
เริ่มต้นจากการที่ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรม ของ ท.เลียงพิบูลย์
หนังสือประเภทจิต วิญญาณ ของทองทิว สุวรรณทัต และหนังสือเกี่ยวกับตายแล้วไปไหน
เป็นต้น
จนกระทั่งวันหนึ่งข้าพเจ้าได้ไปห้องสมุดของโรงเรียนเพื่อจะขอยืมหนังสือมาอ่าน คุณครูจันทรวรรณ
อัตถวิบูลย์กุล บรรณารักษ์ห้องสมุดได้แนะนำหนังสือ กฎแห่งกรรม
ธรรมปฏิบัติ ของหลวงพ่อจรัญแก่ข้าพเจ้า
โดยที่ไม่เคยรู้จักว่าหลวงพ่อจรัญนั้นท่านเป็นใคร แต่พอเริ่มต้นอ่านเท่านั้น
เหมือนต้องมนต์สะกด อ่านแบบชนิดที่เรียกว่าวางไม่ลง เล่มที่ ๑ เล่มที่ ๗
(ในขณะนั้นมีแค่ ๗ เล่ม) โดยใช้เวลาไม่นานนัก ตั้งแต่นั้นมา
ความคิดของข้าพเจ้าก็เปลี่ยนไป
มีความต้องการที่จะมาฝึกฝนจิตตามแนวทางของหลวงพ่อจรัญ คือ วิปัสสนากรรมฐาน
อยากทดลองดูว่าจะเป็นจริงอย่างที่ว่าไว้ในหนังสือจริงหรือไม่
ขณะนั้นโอกาสที่จะทำความดีของข้าพเจ้าก็เปิด
เป็นเวลาที่เหมาะ ควรที่จะฉวยโอกาสนั้น ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๖
โรงเรียนที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ได้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมที่พุทธมณฑล
ซึ่งเป็นโครงการที่สำนักงานพุทธมณฑลร่วมกับมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
และนายแพทย์นินาท ชินะโชติ จัดขึ้นเพื่อประชาชนทั่วไปจะได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมทุกวันศุกร์แรกของเดือน
ชั้นบนหอประชุมใหญ่ เป็นเวลา ๓ วัน ประกอบกับทางโรงเรียนได้รับความกรุณาจากคุณหมอนินาท
ชินะโชติ มาบรรยายที่หอประชุมของโรงเรียน
จึงนับว่าเป็นการสนับสนุนความต้องการปฏิบัติธรรมของข้าพเจ้ามากยิ่งขึ้น
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่ร่วมโครงการในอาทิตย์นั้น
ตราบเท่าทุกวันนี้
ข้าพเจ้าเคารพนับถือพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ
เทิดทูนท่านในฐานะที่ท่านเป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐานรูปแรก
โดยท่านได้เป็นผู้เชิญชวนและชี้แนวทางที่ถูกต้องให้แก่ข้าพเจ้า ทั้ง ๆ
ที่ไม่เคยได้รู้จักหลวงพ่อเป็นการส่วนตัวเลย พระอาจารย์ท่านต่อ ๆ มาคือ พระอาจารย์มหาไสว
ญาณวีโร, พระอาจารย์สมภาร สมภารโร, และพระอาจารย์มหาพีรพล วิโรจโน
ซึ่งพระอาจารย์เหล่านี้เป็นพระอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐานประจำที่พุทธมณฑล
ขอเล่าความฝันที่ได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้าในคืนก่อนวันที่ข้าพเจ้าจะไปปฏิบัติธรรมที่พุทธมณฑล
คือ ข้าพเจ้าได้ฝันเห็นพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่บนแท่นอาสนะสงฆ์ยาว ๆ
เหมือนในศาลาการเปรียญ ข้าพเจ้าได้ยืนอยู่ด้านขวาของท่าน ทันใดนั้นพระภิกษุสงฆ์รูปนั้นท่านก็ได้หันมายิ้มกับข้าพเจ้า
เหมือนหน้าปกหนังสือกฎแห่งกรรมเล่มที่ ๒ และเล่มที่ ๔
ข้าพเจ้าทราบได้ทันทีว่าท่านคือหลวงพ่อจรัญ และพร้อมกันนั้นก็มีเสียงของหมู่คน
ไม่ทราบว่ามาจากไหน ไม่เห็นตัว ดังขึ้นพร้อมกันว่า วิปัสสนากรรมฐาน ซ้ำ ๆ
กันหลายครั้ง ฟังคล้ายกับเสียงสวดมนต์ หลังจากคืนนั้นความฝันเช่นนี้ก็ไม่เคยปรากฏแก่ข้าพเจ้าอีกเลย
ข้าพเจ้าสงสัยว่าทำไมถึงฝันเช่นนั้น ซึ่งเป็นคืนก่อนที่จะเข้าปฏิบัติกรรมฐาน
ภายหลังที่ข้าพเจ้าปฏิบัติธรรมได้ประมาณหนึ่งปี
จึงสรุปได้ว่าคงจะถูกเชื้อเชิญหรือเป็นการชักชวนให้มาปฏิบัติธรรมนั่นเอง ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
ข้าพเจ้าคงไม่พึงพอใจและยินดีรับพระกรรมฐานมาเป็นนิสัยตราบจนกระทั่งทุกวันนี้
หมายความว่าถ้าฝืนปฏิบัติโดยไม่ชอบหรือโดนบังคับ ไม่มีฉันทะความพอใจ ข้าพเจ้าคงจะเลิกปฏิบัติไปนานแล้ว
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในครั้งแรกนั้น
ข้าพเจ้ารู้สึกพอใจมาก จึงได้กลับไปมอบกายถวายตัวเป็นศิษย์พระกรรมฐานอีกในเดือนต่อ
ๆ มา จนเป็นสมาชิกผู้ปฏิบัติธรรมประจำโครงการ
ในระหว่างนั้นก็ได้นำมาปฏิบัติที่บ้านมิได้ขาด ระยะหลังข้าพเจ้าก็ได้ชักชวนภรรยาให้มาปฏิบัติธรรมด้วยกัน
ซึ่งเธอก็ได้รับความพอใจเช่นเดียวกับข้าพเจ้า เกิดความเลื่อมใส ศรัทธา
ในองค์หลวงพ่อจรัญมาก จึงได้มอบกายถวายตัวเข้าร่วมเป็นสมาชิกพุทธมณฑล
และได้ปลีกตัวมาปฏิบัติที่วัดอัมพวัน ๗ ครั้งแล้ว รวมทั้งได้ชักชวนผู้อื่นมาด้วย
ผลของการปฏิบัติธรรมนั้น
สิ่งแรงที่ข้าพเจ้าได้รับคือ ความสงบ ปลอดโปร่ง โล่งสบาย เยือกเย็น
และอัศจรรย์ในอนุศาสนีปาฏิหาริย์คำสอนที่แสดงความจริง สามารถนำไปประพฤติ
ปฏิบัติตามได้ผลจริง มีความศรัทธาและต้องการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น
ในที่สุดในปีพุทธศักราช ๒๕๓๓
ข้าพเจ้าก็ตัดสินใจอุปสมบทเข้าอยู่ใต่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ที่วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม
จังหวัดเชียงใหม่
ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานพร้อมกับศึกษาพระธรรมและพระวินัยในระดับนักธรรมตรีด้วย
พลังจากออกพรรษาแล้ว ข้าพเจ้าได้ขอคุณพ่อคุณแม่ว่าจะขออยู่ถือเพศบรรพชิตต่ออีก ๓ เดือน
ซึ่งท่านก็ยินยอม ในระยะเวลานี้ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติกรรมฐานอย่างเต็มที่
ได้มีโอกาสเดินทางมาขอพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจริญกรรมฐาน
และใช้ชีวิตในสมณเพศบำเพ็ญกิจวัตรประจำวัน
ตามแบบอย่างที่งดงามของพระภิกษุสงฆ์วัดอัมพวันทุกประการ เป็นเวลา ๗ วัน
โดยได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์ทองสุก เป็นผู้สอนกรรมฐาน
หลังจากที่ลาสิกขาบทแล้ว
ข้าพเจ้าก็ได้รับพระกรรมฐานมาปฏิบัติที่บ้าน ทั้งเวลาเช้าและก่อนนอน
ได้นำเอาวิปัสสนากรรมฐานเข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตข้าพเจ้าโดยจะขาดเสียมิได้
พระเมตตาคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ
ที่ข้าพเจ้าไม่มีวันลืม คือ คราวที่คุณแม่ของข้าพเจ้าป่วยหนักโดยโรคไตวาย จะต้องเข้ารับการผ่าตัดไตข้างซ้ายทิ้ง
คุณพี่ศมมงคล กาญจนาภรณ์ ได้กรุณาพาพวกเราไปกราบนมัสการหลวงพ่อทั้ง ๆ
ที่เป็นเวลาดึกแล้ว แต่ก็ได้รับคามกรุณาจากหลวงพ่อให้ขึ้นไปพบ
หลวงพ่อได้รับปากว่าจะช่วยแผ่เมตตาไปให้
และได้กรุณามอบรูปภาพพร้อมด้วยคำอวยพรให้คุณแม่ข้าพเจ้าอีกด้วย
ปรากฏว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งที่พบว่าบาดแผลผ่าตัดหายเร็วกว่าปกติ
จนนายแพทย์ผู้ให้การรักษาประหลาดใจ ข้าพเจ้าแน่ใจว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อ
พระเมตตาคุณในครั้งนี้ข้าพเจ้าได้จดจำไว้ตลอดชีวิต
ที่ได้บรรยายประวัติย่อ
ๆ ของข้าพเจ้ามาแล้วนั้น ตามความเป็นจริงก็ไม่ได้โลดโผน
ดุเดือดหรือเลวร้ายอย่างโดดเด่น ไม่ถึงกับที่เขาเรียกว่า โจรกลับใจ
อะไรทำนองนี้ แต่ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะชี้แจงให้ผู้ที่ยังมีความไม่แน่ใจหรือยังมีความลังเลสงสัยอยู่
กฎแห่งกรรมมีจริง เราทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้นทั้งดีและชั่ว
และการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถ้าพยายามตั้งใจปฏิบัติแล้ว ย่อมมีผลใหญ่
มีอานิสงส์ใหญ่ อย่างเช่นในกรณีของข้าพเจ้านั้น
สามารถทำให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนวิถีทางการดำเนินชีวิต เปลี่ยนนิสัยจากเดิมได้
ทำให้ข้าพเจ้าสำนึกในการกระทำชั่วของตนในอดีต ได้พบกับความสงบสุขที่แท้จริง
มีกัลยาณมิตรช่วยส่งเสริมให้กำลังใจในการกระทำความดี มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาไม่เสื่อมคลาย
เริ่มเข้าใจหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
มองเห็นว่าที่เราเคยได้หลงใหลในอบายมุขนั้นเราช่างโง่สิ้นดี
เข้าใจแล้วว่าทำไมพระองค์จึงทรงห้าม ตรงนี้เองที่เรียกว่าผู้ตื่นจากการหลับ
ได้พบแสงสว่าง เมื่อรู้ด้วยปัญญาแล้วก็ทำให้เรามั่นคงในการกระทำดี
สามารถละชั่วเลิกอบายมุขต่าง ๆ ได้โดยเด็ดขาด อย่างไม่กลัวอดและไม่เสียดาย
เหมือนเช่นหลวงพ่อพุทธทาสได้เคยพูดไว้ว่า กูไม่เอากับมันอีกต่อไปแล้วโว๊ย หรือ
อตัมมยตา นั่นเอง
เมื่อมองย้อนไปดูจุดหักเหของชีวิตข้าพเจ้านั้นเริ่มจากตรงไหน
จึงเห็นว่า ก็เพราะหนังสือ กฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ นั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้น
ที่ช่วยเป็นสื่อถ่ายทอดพระธรรมคำสอนต่าง ๆ ของหลวงพ่อ ซึ่งคำสอนเหล่านั้นเป็นตัวเสริมสนับสนุน
กระตุ้นเตือน และจุดประกายความคิด ให้แสงสว่างแก่สติ ปัญญา
จนพบพระกรรมฐานเป็นทางสายเอกได้ เพราะฉะนั้น
หนังสือกฎแห่งกรรมนี้มีประโยชน์และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อชีวิตข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง และขออนุโมทนาในบุญกุศลที่คณะผู้จัดทำหนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ
ที่ได้มีความตั้งใจมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำหนังสือทุกเล่มให้ดีที่สุดเสมอมา
อยากมีเกียรติต้องเลิกชั่วไม่กลัวอด
อยากมียศต้องขยันหมั่นฝึกฝน
อยากเป็นหนึ่งต้องพึ่งตัวของตน
อยากเป็นคนต้องมีธรรมประจำใจ
พุทธทาสภิกขุ