อานุภาพของการแผ่เมตตาของหลวงพ่อ

โชติก รัศมีทินกรกุล

R13011

ข้าพเจ้าประกอบอาชีพส่วนตัว โดยทำกิจการโรงงานม้วนท่อเหล็กส่งน้ำ และเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปี ๒๕๔๐ ก่อนหน้าที่เศรษฐกิจของประเทศจะเข้าสู่ยุคตกต่ำ ซึ่งในระยะแรกของการดำเนินการนั้น ข้าพเจ้าต้องเผชิญกับอุปสรรคนานับประการ ตั้งแต่การหาผู้ร่วมงานที่ดี การหาตลาด ตลอดจนการหากเงินทุนเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จนทำให้ข้าพเจ้าท้อแท้ แต่แล้วเหมือนมีบุญมาช่วยให้ข้าพเจ้ามีสติและความมุ่งมั่นขึ้นมา เพื่อข้าพเจ้าได้มีโอกาสมากราบนมัสการ พระเดชพระคุณพระราชสุทธิญาณมงคล และได้มีโอกาสเข้าปฏิบัติธรรมเป็นระยะเวลา ๓ วันที่วัด ซึ่งภายหลังจากการปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าพบว่า ข้าพเจ้าสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ในหน้าที่การงาน ตลอดจนกิจการของบริษัทฯ เริ่มดีขึ้น

แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และตกต่ำทั่วประเทศ เป็นผลให้ความต้องการสินค้าในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้ข้าพเจ้าต้องมองหาช่องทางตลาดในต่างประเทศ ในที่สุดข้าพเจ้าได้มีโอกาสเดินทางไปติดต่อขายสินค้าให้กับบริษัท สโตน แอนด์ เว๊บสเตอร์ ซึ่งทำธุรกิจก่อสร้าง อยู่ที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในวันพฤหัสบดีที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งเป็นวันแรกของการเจรจาซื้อขาย ข้าพเจ้าได้รับแรงกดดันเป็นอย่างมาก เนื่องจากเงื่อนไขของผู้ซื้อสินค้า เช่น ค่าปรับจากการเขียนแบบ และการส่งสินค้าล่าช้า สูงถึง ๒๕% ของวงเงินสัญญา อีกทั้งผู้ซื้อได้ต่อรองราคาลงในระดับที่ต่ำมาก โดยไม่ยอมผ่อนปรน หรือข้อยกเว้นใด ๆ จนข้าพเจ้ารู้สึกท้อแท้ แต่อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าต้องพยายามอย่างที่สุดที่จะให้ได้ใบสั่งซื้อดังกล่าว เพื่อให้โรงงานสามารถผลิตต่อไปได้ และไม่ต้องปลดพนักงานออกอันจะเป็นการเพิ่มภาระให้แก่สังคมอีก ในคืนแรกหลังการเจรจา ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์หาพี่สาวของข้าพเจ้าที่กรุงเทพฯ และแจ้งปัญหาต่าง ๆ ให้ทราบ พร้อมกับแจ้งว่าบริษัทฯ คงไม่ได้งานจากผู้ซื้อ ดังนั้น พี่สาวของข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ขอพรจากหลวงพ่อจรัญฯ ได้โปรดแผ่เมตตา เพื่อให้ผู้ซื้อได้เปลี่ยนใจมาสั่งซื้อสินค้า และพี่สาวได้แนะนำให้ข้าพเจ้าสวดมนต์ เพื่อขอให้หลวงพ่อแผ่เมตตาให้ด้วย

ในวันรุ่งขึ้นของการเจรจา ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาโดยผู้ซื้อได้ผ่อนปรนเงื่อนไขทั้งหมด โดยยอมลดค่าปรับจากเดิม ๒๕% เหลือเพียง ๑๐% อีกทั้งยังสัญญาที่จะจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าให้แก่บริษัทฯ อีกเป็นเงินกว่า ๒๐ ล้านบาท โดยไม่ต้องมีหลักประกันใด ๆ ข้าพเจ้าเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยความดีใจ และสำนึกในพระคุณของหลวงพ่อจรัญ ที่ได้โปรดแผ่เมตตาจนช่วยให้ข้าพเจ้าได้รับใบสั่งซื้อท่อเหล็กเป็นเงินกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้โรงงานมีงานทำได้อีกนานหลายเดือน

ภายหลังกลับถึงกรุงเทพฯ ข้าพเจ้าเริ่มดำเนินการสั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศที่ใช้ในงานนี้ทันทีเป็นเงินกว่า ๒๐ ล้านบาท โดยหวังว่าผู้ซื้อไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ ทั้งนี้ เนื่องจากวัตถุดิบดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตและการจัดส่งเป็นเดือน หากข้าพเจ้าต้องรอเงินมัดจำจากผู้ซื้อก่อน อาจจะทำให้ทำงานได้ไม่ทันกำหนดการส่งสินค้า แต่เมื่อถึงเวลากำหนดนัดชำระเงินมัดจำการซื้อสินค้า ข้าพเจ้ากลับไม่ได้รับเงินจากผู้ซื้อ ในขณะที่วัตถุดิบบางส่วนที่ใช้ในการผลิตซึ้งต้องสั่งจากต่างประเทศได้มาถึงแล้ว ข้าพเจ้าเริ่มมีความกังวลว่าผู้ซื้ออาจจะมีปัญหาจนไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันได้ ซึ่งจะสร้างภาระให้แก่โรงงานเป็นทวีคูณ อันเนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมากในการชำระค่าวัตถุดิบที่สั่งซื้อ ดังนั้น ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๑ ข้าพเจ้าพร้อมด้วยพี่สาวจึงได้เดินทางไปพบหลวงพ่อที่วัด และได้ขอให้หลวงพ่อโปรดช่วยแผ่เมตตาให้ผู้ซื้อได้ปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อกัน คือ ให้ผู้ซื้อโอนเงินมัดจำมาให้ หลังจากที่หลวงพ่อแผ่เมตตาให้ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสองทุ่ม ข้าพเจ้าก็ได้รับโทรศัพท์จากภรรยาซึ่งยังคงอยู่ที่ทำงานว่า ผู้ซื้อได้ติดต่อขอให้ส่งคำยืนยันเลขที่บัญชี ที่จะโอนเงินมัดจำล่วงหน้ามาให้ ข้าพเจ้าจึงรีบกลับไปที่บริษัทฯทันที และได้ส่งโทรสารแจ้งให้ผู้ซื้อได้ทราบ ซึ่ง ๓ วันต่อมา บริษัทก็ได้รับเงินโอนจากผู้ซื้อตามสัญญา คิดเป็นเงิน ๕๗๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ โดยไม่ต้องใช้หลักประกันใด ๆ ทั้งที่เป็นการติดต่อกันครั้งแรก ซึ่งข้าพเจ้าขอระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อ ที่ได้แผ่เมตตาให้กับบริษัทฯ จนบริษัทฯ สามารถผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ ไปได้

และทุกวันนี้ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามที่หลวงพ่อแนะนำ โดยการสวดมนต์ทุกคืน และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า อานิสงส์ของการทำความดี การสวดมนต์ และกรรมฐาน จะส่งผลดีต่อผู้ปฏิบัติ ตลอดจนครอบครัวของผู้ปฏิบัติ ดังที่ข้าพเจ้าประสบมาด้วยตนเอง....