อานิสงส์การสวดพุทธคุณ และ พาหุงมหากา
ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่สนใจธรรมะตั้งแต่วัยเด็ก
ก่อนนอนข้าพเจ้าได้สวดพุทธคุณ (อิติปิโสฯ) ทุกวัน จนแม้หลายครั้งที่ฝันเห็นสิ่งน่ากลัว
ข้าพเจ้าก็ได้สวดพุทธคุณในฝัน และพบว่าทุกครั้งที่สวด (ในฝัน)
ข้าพเจ้าสามารถเหาะได้และผ่านพ้นภัยนั้นทุกครั้ง นั่นเป็นเพียงสิ่งที่เกิดในวัยเด็ก
และทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเรื่องเสียใจใด ๆ ข้าพเจ้าจะเดินเข้าห้องนอนซึ่งเป็นห้องพระแล้วก็นั่งสวดมนต์ทุกครั้งไป
แล้วข้าพเจ้าก็หายทุกข์ จากนั้นมาข้าพเจ้าชอบหาหนังสือที่มีประวัติพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอ่าน
เช่น หนังสือโลกทิพย์ ข้าพเจ้าซื้ออ่านเป็นประจำอยู่หลายปี
จากที่เริ่มชีวิตการทำงานหลังเรียนจบแล้ว ข้าพเจ้าอ่านประวัติพระต่าง ๆ
ก็เกิดความศรัทธาในการปฏิบัติวิปัสสนาเป็นที่สุด
อยากพบครูบาอาจารย์ที่แนะนำให้ถูกทาง แต่ก็ไม่เคยพบ
ได้แต่ลองปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อต่าง ๆ เช่นหลวงปู่แหวน จากหนังสือ
แต่ก็ไม่เคยปฏิบัติสม่ำเสมอ จนมาวันหนึ่งเมื่อปี ๒๕๓๗
ข้าพเจ้าได้ย้ายมาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้พบคุณปริญญ์ จงวัฒนา
ผู้บังคับบัญชา ท่านได้พูดเรื่องธรรมะกับพนักงานที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับท่าน
ข้าพเจ้าได้ยินก็รู้สึกดีใจว่าเราได้พบช่องทางที่ใฝ่หามาตลอดชีวิตแล้ว จึงได้กล่าวคำขออนุญาตนั่งฟังด้วย
ซึ่งคุณปริญญ์ท่านก็ได้เมตตาอนุญาต
เมื่อข้าพเจ้าทราบว่าท่านได้จัดโครงการธรรมะสำหรับผู้บริหารที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ
ข้าพเจ้าก็ขอจองเข้าปฏิบัติธรรมด้วย ก็ได้แนวทางและข้าพเจ้าก็ได้ชักชวนสามีและลูกสาวของข้าพเจ้าเข้าปฏิบัติด้วยในครั้งต่อ
ๆ มาอีก ๒-๓ ครั้ง เป็นเวลา ๒-๓ ปีติดต่อกัน
จากนั้นข้าพเจ้ารู้สึกว่าการปฏิบัติธรรม ทำให้ข้าพเจ้ามีจิตละเอียดอ่อนมากขึ้น
มีความเมตตามากขึ้น โดยเฉาพะเรื่องโทสะนั้นข้าพเจ้าได้ลดลงมาก
และมีความเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งเดิมข้าพเจ้าก็เป็นผู้ที่มีความเมตตาเป็นพื้นฐานอยู่พอสมควร
แต่การปฏิบัติที่ผ่านมา สอนให้ข้าพเจ้าเย็นมากขึ้นกว่าเดิม อดกลั้น
ข่มอารมณ์ร้อนได้มากขึ้น และข้าพเจ้าซาบซึ้งและเข้าใจในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
ซึ่งเป็นคำสอนที่นำมาใช้ได้กับชีวิตประจำวันของทุกคน
เป็นวิทยาศาสตร์ที่เป็นเหตุและผลที่พิสูจน์ได้ จากนั้นมาในปี ๒๕๓๘ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสดูรายการธรรมะของโทรทัศน์ช่อง
๓ ซึ่งหลวงพ่อจรัญได้แสดงธรรม ข้าพเจ้าก็ไปเล่าให้คุณปริญญ์ฟัง จึงได้ทราบว่าคุณปริญญ์ก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่ง
จึงขอให้ท่านพาข้าพเจ้ามากราบนมัสการหลวงพ่อ
จากนั้นมาจนปัจจุบันข้าพเจ้าก็ถือโอกาสมาฟังเทศน์จากหลวงพ่อบ่อย ๆ ข้าพเจ้าจะมาสัปดาห์เว้นสัปดาห์
บางครั้งก็มาติด ๆ กัน ทุกครั้งที่มา
ข้าพเจ้าได้รับเมตตาจากพี่เสนอและคุณสมประสงค์ และทุกคนด้วยดี
ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกท่านที่อำนวยความสะดวกแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดมา
เหตุการณ์ที่
๑ (หลวงพ่อรักษาโรค)
ในปี ๒๕๓๙
ช่วงปลาย ๆ ปี สามีข้าพเจ้ามีอาการปวดบริเวณสะบักด้านซ้าย
ปวดจนร้องครวญครางและอาละวาดหงุดหงิด ข้าพเจ้าพาไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาหลายเดือน
หมอให้เฝือกอ่อนที่บริเวณต้นคอ โดยบอกว่ากระดูกทับเส้นประสาท รักษาอยู่หลายเดือนอาการทุเลาบ้าง
แต่บางครั้งก็เป็นมากขึ้นอีก ข้าพเจ้าได้รับคำแนะนำให้พบแพทย์อีกท่านหนึ่ง
ก็ได้รักษาโดยทายยาและฉีดยา จนกระทั่งมีโรคแทรกซ้อน
เพราะยาที่รักษากระดูกมีผลต่อกระเพาะ ก็รักษาโรคกระเพาะต่อ จนวันหนึ่งปลายปี ๒๕๓๙
ข้าพเจ้าได้เล่าให้พี่เสนอฟังว่าสามีมีอาการเจ็บป่วยอย่างไร
มีอาการหนึ่งซึ่งไม่เคยพบว่าเป็นพฤติกรรมของสามี ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ไม่เคยเป็น
เพราะสามีเป็นคนเรียบร้อย ไม่ชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน แต่เมื่อเจ็บป่วยครั้งนั้น
สามีข้าพเจ้ามักต้องการออกนอกบ้านโดยเฉพาะยามวิกาล
และจะออกไปด้วยอาการเหมือนคนคลุ้มคลั่ง เช่น มักพูดว่า ปล่อยไปเถอะคงไม่หายแล้ว
บางครั้งพูดเหมือนสั่งเสีย ทำให้ข้าพเจ้าและลูกสาวไม่มีความสุขเลย ไม่พูดจากับใคร
ๆ บางครั้งข้าพเจ้าเห็นว่าเขากำลังมีอาการปวดหลังมาก ๆ ก็ขึ้นไปทายา พูดให้เขาคลายกังวลกับอาการทุกขเวทนาที่เป็นอยู่
ก็โดนตวาดออกมาหลายครั้ง ข้าพเจ้ากลุ้มใจมาก มาหาหลวงพ่อหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากถามใคร
จนครั้งหนึ่งพูดให้พี่เสนอฟัง ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่เสนอแนะนำให้เอายาใบบัวของหลวงพ่อไปต้มกิน
ข้าพเจ้าก็ทำตาม จากนั้นจนถึงวันนี้อาการต่าง ๆ ได้หายไปหมด
คงเหลือเฉพาะอาการปวดหลังบ้างเล็กน้อย และไม่เป็นตลอดเวลาเหมือนครั้งก่อน ๆ
สามีข้าพเจ้าบอกว่าทุกครั้งที่เข้าไปในกุฏิหลวงพ่อจะรู้สึกสบายใจและอาการปวดหายไปตั้งแต่เริ่มมาหาหลวงพ่อตอนแรก
ๆ นั่นก็เพราะได้รับเมตตาบารมีของหลวงพ่อ
เหตุการณ์ที่
๒ (อานิสงส์การสวดพุทธคุณ)
สวดพุทธคุณ
เท่าอายุบวกหนึ่ง
ที่หลวงพ่อพร่ำสอน บอกญาติโยมทุกครั้งที่ท่านเทศน์สั่งสอน เพราะมีตัวอย่างมากมายที่ประสบความสำเร็จจากการสวดพุทธคุณตามที่หลวงพ่อสอน
เหตุการณ์ที่เกิดกับข้าพเจ้าซึ่งจะเล่าต่อไปนี้
เป็นบทพิสูจน์ที่เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าที่รู้ว่านั่นคือ อานิสงส์ที่ได้รับมา
เดือนธันวาคม
๒๕๔๐ ก่อนถึงวันเกิดข้าพเจ้า ๆ มีความรู้สึกว่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวเราและสิ่งนั้นเป็นสิ่งรุนแรง
ช่วงปลายเดือนธันวาคมดันเป็นวันคล้ายวันเกิดข้าพเจ้า ๆ
ได้เตรียมทำบุญวันเกิดและได้มาขอพรจากหลวงพ่อ ซึ่งวันนั้นข้าพเจ้าได้รับเมตตาจากหลวงพ่อเทศน์ให้ญาติโยมฟัง
แต่เป็นการเทศน์เจาะมาที่ตัวข้าพเจ้า
โดยหลวงพ่อได้เอ่ยชื่อข้าพเจ้าตลอดเวลาของการเทศน์ในวันนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้ง
เกือบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ที่ได้รับเมตตาในครั้งนั้น และครั้งนั้นเองหลวงพ่อได้ย้ำเรื่อง
สวดพุทธคุณ ข้าพเจ้าก็นำมาปฏิบัติในการสวดพุทธคุณเท่าอายุบวกหนึ่ง แล้วแผ่เมตตา
อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรตามที่หลวงพ่อสอนไว้
แล้วข้าพเจ้าก็อธิษฐานว่าความรู้สึกจะเกิดอะไรกับข้าพเจ้านั้น
ขอบุญกุศลและเมตตาบารมีหลวงพ่อช่วยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี อย่าได้เป็นเหตุแห่งความเสื่อมเสียแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวแลย
และแล้วหลังจากเลยวันเกิดข้าพเจ้าไปเกือบอาทิตย์ ลูกสาวข้าพเจ้าก็ขออนุญาตออกไปข้างนอกแต่เช้าโดยบอกกับพ่อแม่ว่า
เขาจะออกไปทำธุระ หากผลที่ออกมาไม่ดีแม่ก็ไม่ต้องห่วงนะ ลูกรับเหตุการณ์นั้นได้เพราะเป็นลูกแม่
ต้องเข้มแข็งเหมือนแม่ ข้าพเจ้าได้ฟังก็อนุญาต
ข้าพเจ้าเดาได้ว่าหมายถึงเรื่องเพื่อนชาย ข้าพเจ้าก็บอกลูกไปว่า
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากลูกเสียใจก็มีพ่อแม่เป็นเสาหลักให้ลูกพิงเมื่อลูกเซกลับมา
ซึ่งคำสอนที่แม่พร่ำสอนมาตลอดลูกปฏิบัติตามก็จะดี แต่เมื่อลูกโตลูกก็อาจมีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ทำตาม
หากวันนี้เหตุจะเกิดจากการทำตามความคิดของลูกเองแต่ยังให้เกิดความเสียใจ
ก็จงกลับมาร้องไห้กับพ่อแม่เถิด (ลูกข้าพเจ้ามีความชอบพอกับเพื่อนชายคนนี้
จนกระทั่งสร้างความทุกข์ในครอบครัวหลายครั้ง ซึ่งลูกมักมองว่าพ่อแม่นั้นมองเพื่อนชายในแง่ลบตลอดมา)
จากนั้นข้าพเจ้าได้เรียกลูกสาวมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้ความว่า
ลูกสาวข้าพเจ้าต้องการถามเขาว่าคบกันมานาน จะตัดสินใจอย่างไรให้มาบอกกับพ่อแม่
ข้าพเจ้าก็พอจะเดาได้ว่านั่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงบอกลูกสาวว่า
ให้ติดต่อผู้ชายคนนั้นมาหาแม่อีกครั้งโดยนัดวันให้มา ก่อนถึงวันนั้นข้าพเจ้าได้เฝ้าแต่สวดมนต์พุทธคุณเท่าอายุบวกหนึ่ง
ในขณะสวดมนต์จิตเป็นสมาธิมีความรู้สึกว่าบุญกุศลนี้บรรเทาทุกข์ได้ และอย่าให้คนเลวได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวเรา
หากผู้ชายคนนั้นไม่ดีจริงดังที่สายตาข้าพเจ้าเห็นละก็ ขอให้อานิสงส์ผลบุญจากการสวดพุทธคุณนี้บันดาลให้ผู้ชายคนนี้ยอมรับความจริงกับข้าพเจ้าทุกอย่าง
จนถึงวันที่นัดไว้
ก่อนเวลาที่ผู้ชายคนนั้นจะมาถึงบ้านข้าพเจ้า เรา ๓ คนพ่อแม่ลูกก็มานั่งสวดมนต์และเตรียมพร้อมที่จะพูดกันโดยที่ข้าพเจ้าบอกกับสามีว่าเราจะใช้วิธีสันติ
ด้วยการแผ่เมตตาตามคำสั่งสอนของหลวงพ่อ จากนั้นข้าพเจ้าก็ขึ้นไปที่ห้องพระ สวดพุทธคุณและบทสวดกรณียเมตตสูตรและอธิษฐานจิต
ผลที่ได้คือ ผู้ชายคนนั้นพูดทุกสิ่งทุกอย่างออกมา และจบลงด้วยการก้มกราบขอโทษข้าพเจ้าและสามี
และบอกว่าที่ผ่านมาเข้าใจไปทุกอย่างด้วยความที่ไม่สนใจความรู้สึกใคร ๆ ทั้งนั้น
เคยคิดจะชวนให้ลูกสาวข้าพเจ้าหนีจากพ่อแม่ไป
เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความบริสุทธิ์ใจของเขาว่า ต้องการที่จะแต่งงานกับลูกสาวของข้าพเจ้านั้น
เข้าไม่มีพันธะใด ๆ จริงหรือ และจะมาจัดการเมื่อไร
ชายคนนั้นก็ผลัดเป็นขอแจ้งในวันรุ่งขึ้นโดยอ้างว่าจะไปปรึกษากับแม่เขาในคืนนั้น
ข้าพเจ้าจึงตกลงรับคำตอบในวันรุ่งขึ้น ในใจข้าพเจ้าขณะนั้นนึกขอบคุณหลวงพ่อที่แผ่เมตตาบารมีช่วยให้ผ่านพ้นความชั่วร้ายด้วยการสวดพุทธคุณ
และแล้วรุ่งขึ้นชายผู้นั้นก็โทรศัพท์มาสารภาพกับข้าพเจ้าว่า
ขณะนี้เขาได้อยู่กินกับภรรยาเขาแล้ว
ข้าพเจ้าจึงถามไปว่าเขายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่ ยังมีความรับผิดชอบอยู่หรือไม่
ชายนั้นตอบว่าเป็นครับ ข้าพเจ้าบอกว่า ถ้ายังมีความเป็นลูกผู้ชายก็ให้รับผิดชอบกับคนที่อยู่ด้วยในปัจจุบันนั้นเสีย
ส่วนลูกสาวข้าพเจ้าไม่ต้องห่วงและขอไม่ให้มาพบหากันอีกจะได้ไม่สร้างบาปต่อกัน
เพราะอานิสงส์การสวดพุทธคุณและเมตตาบารมีของหลวงพ่อจรัญ
วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ที่เมตตาต่อครอบครัวเรามาตลอดนั่นเอง ที่ส่งผลให้ลูกสาวข้าพเจ้าไม่ต้องไปแต่งงานกับชายที่มีภรรยาแล้ว
และจะได้ไม่เกิดทุกข์จาการแต่งงานกับชายคนนั้น ซึ่งหากไม่มีเมตตาบารมีของหลวงพ่อจรัญ
วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ข้าพเจ้าคงไม่มีโอกาสรู้ว่าการสวดพุทธคุณมีประโยชน์อย่างไร
และครอบครัวเราคงไม่มีความสุข แต่ปัจจุบันเราได้อานิสงส์นี้จึงทำให้ลูกสาวข้าพเจ้ารอดพ้นจากทุกข์นั้นได้อย่างอัศจรรย์จริง
ๆ
จนทุกวันนี้ ข้าพเจ้าได้ยึดเอาคำสอนของหลวงพ่อจรัญมาเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวันตลอดมา
และทุกครั้งที่ข้าพเจ้าประสบกับปัญหาหรือความทุกข์ใด ๆ ข้าพเจ้าก็จะสวดพุทธคุณและพาหุงมหากาทุกครั้งเป็นกรณีพิเศษ
โดยปกติข้าพเจ้าได้สวดมนต์ไหว้พระทุกเช้าและก่อนนอนโดยไม่ลืมที่จะสวดพุทธคุณและพาหุงมหากาด้วย
ตั้งแต่ข้าพเจ้าได้เขาพบพระมาหลายที่
หลายองค์ ข้าพเจ้าเห็นว่าหลวงพ่อจรัญ จ.สิงห์บุรี
เป็นพระที่พัฒนาจิตใจคนด้วยการสั่งสอนจากการเทศน์ที่ฟังง่าย ๆ เข้าใจง่าย
และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ดีทุกโอกาส และด้วยความมีเมตตาบารมีสูง
หลวงพ่อจรัญจึงมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก ท่านให้เวลากับการทำงานเพื่อสาธุชนทั่วหน้า
ข้าพเจ้าขอถวายกุศลที่ข้าพเจ้าได้สวดมนต์ตลอดมานั้น
จงสำเร็จแด่หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
ขอให้หลวงพ่อมีสุขภาพอนามัยแข็งแรง...