มหาปัญญา
Fang Jei
Yang Min San,
Taipei, Taiwan
R15001
ประวัติ
ฟางเป็นชาวไต้หวัน
ปัจจุบันอายุ ๕๐ กว่าปีแล้ว ทำธุรกิจหลายอย่าง เคยเป็นเจ้าของค้าของเก่า
ทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีเครื่องประดับและหยกจีน
ปัจจุบันมีธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันอยู่ที่เมืองจีน เคยเป็นพิธีกรเผยแพร่ธรรมะที่ไต้หวันด้วย
ที่ไต้หวันมีศาสนาหลายศาสนา
สมัยเด็ก ๆ ฟางเคยเข้าไปศึกษาศาสนาคริสต์และศาสนาอื่น ๆ ด้วย
ครั้งสุดท้ายก็ไม่เชื่อศาสนาที่กล่าวถึงพระเจ้า มีความคิดว่า กรรมเราทำเอง
ทำไมจึงมีพระจ้ามาล้างบาปให้เรา และเริ่มสงสัยว่าถ้าเป็นพระเจ้าต้องมีเมตตาสูง
เพราะต้องการให้ทุกคนมีความสุขเท่ากันหมด
แต่ทำไมที่เห็นไม่ใช่เช่นนี้ บางคนต้องลำบาก บางคนแย่ บางคนเลว
จึงไม่เชื่อพระเจ้าแน่นอน ตอนหลังจึงหันไปศึกษาศาสนาพุทธแบบมหายาน
เมื่ออายุ
๑๘ เคยฝัน แต่ไม่เหมือนฝัน รู้สึกเคลิ้ม ๆ ว่ามีเสียงคุยด้วย แต่ไม่เห็นหน้าว่าเสียงนั้นคือใคร
เห็นสว่างมากจนลืมตาไม่ได้ เสียงนั้นบอกว่า เร็ว ๆ
รีบเป็นผู้ทรงศีลเร็ว ๆ เพราะชาตินี้จะได้เป็นชาติสุดท้าย ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
ตื่นขึ้นมารู้สึกว่าไม่อยากเชื่อ และรู้สึกแปลกมาก
ต่อมาอายุ
๑๙ ปี ก็ฝันอีก มีเสียงพูดว่า ให้เร็ว ๆ หน่อย
ตอนนี้เห็นฟ้าเปิดเหมือนฝันกลางวัน รู้สึกว่าเห็นชัด บนฟ้าสว่างมาก
เห็นเทวดานางฟ้าลอยอยู่บนฟ้า มีดนตรี บนสวรรค์เพราะมาก ได้กลิ่นหอมมาก
หมอเหมือนดอกไม้ แต่ไม่เคยได้กลิ่นเช่นนี้มาก่อน มีเสียงออกมาบอกว่า
เขาชื่อเจ้าแม่กวนอิม เมื่อตอนเป็นคริสต์ไม่เคยเชื่อว่ามีเจ้าแม่กวนอิม
ฟางเองก็ไม่ทราบว่าใครคือเจ้าแม่กวนอิม
เขาสวยมากและพูดเสียงดังมากอีกครั้งหนึ่งว่า
ให้เป็นผู้ทรงศีลเร็ว
ๆ ตั้งแต่อดีตคุณเคยปฏิบัติมาแล้ว ให้ปฏิบัติต่อเนื่องกัน ไม่ให้เสียชาติเกิด
ให้ปฏิบัติเร็ว ๆ
ฟางเห็นดอกไม้โปรยลงมาจากฟ้า
มีสีขาวกับสีชมพูลงมาด้วยกัน แต่พอถึงพื้นแยกออกเป็นสองข้าง สีชมพูอยู่ด้านหนึ่ง
สีขาวอยู่อีกด้านหนึ่ง มีกลิ่นหอมด้วย ครั้งที่สองนี้ยังไม่เชื่อ ๑๐๐%
เชื่อเพียงครึ่งเดียว ยังไม่รู้ว่านี่คือศาสนาอะไร ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ครั้งที่สาม
อายุ ๒๐ ปี ก็ฝันเหมือนกันอีก เสียงบอกว่า ให้เร็ว ๆ
เป็นผู้ทรงศีลเร็ว ๆ แต่ครั้งนี้เสียงไม่เหมือนเดิม เสียงเข้ม (serious) มาก
เสียงบอกว่า ให้เร็ว ๆ หน่อย ให้เป็นผู้ทรงศีล
ถ้าเป็นผู้ทรงศีลแล้วคุณจะพบสิ่งต่อไปนี้
๑. คุณจะพบกรรมแน่นอน
แต่งงานแล้วคุณจะต้องใช้กรรมและมีปัญหามากด้วย พบใครก็ต้องใช้กรรมเขาอีก ไม่เป็นไร
ไม่ต้องกลัวนะ
๒. คุณต้องพบปัญญาใหม่มาก
ๆ ให้อดทน ไม่ต้องกลัว คุณต้องเกิดมหาปัญญาแน่นอน
๓. ในวันข้างหน้าคุณต้องการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อนี้จะไม่พูดมากเพราะยังไม่ถึงเวลา บอกได้อย่างละเอียด คุณจะไม่เชื่อ
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกได้ เพราะอาจมามารมาทำให้เสียหาย
เสียงเน้นค่อย ๆ
ว่า จำได้นะ เร็ว ๆ นะ แล้วเสียงก็ค่อย ๆ
จางหายไป
ฝันมา ๓ ครั้ง
เหมือนกันหมด ตอนนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้ว
แต่ก็ไม่ทราบว่าจะหาที่ปฏิบัติได้ที่ไหน ตั้งแต่นั้นมา ฟางก็พยายามหาอาจารย์เก่ง ๆ
ที่สามารถสอนฟางได้
ฟ้าผ่า
ฟางเคยสัมผัสกับฟ้าผ่าถึง
๒ ครั้ง ครั้งแรกที่ไทเป ไต้หวัน ฟ้าผ่าลงมาข้างหน้าใกล้ตัวมาก มีไฟไหม้ที่พื้น
และมีกลิ่นเหม็นไหม้ด้วย มีแสงสว่างมาก เป็นแสงสีขาว เสียงดังมาก
คิด่าตาคงมองไม่เห็นแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ได้แต่ตกใจ
ครั้งที่สอง
ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ขณะนั้นเวลาประมาณตีสอง กำลังนอนอยู่ที่โรงแรม
รู้สึกเคลิ้ม ๆ ครั้งหลับครั้งฝัน ได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่าฟ้าร้อง มีพายุ
ลมแรงมากเหมือนฝนจะตกหนัก เห็นแสงผ่านมาเหมือนฟ้าผ่าที่หน้าผาก ฟางตกใจ
สะดุ้งตกเตียง นึกว่าฝัน แต่ไม่ใช่ เพราะฟางตกเตียงลงมานอนที่พื้น พอรุ่งเช้าออกไปข้างนอง
เห็นรุ้งกินน้ำบนท้องฟ้าสวยงามมาก และสว่างมา แต่ถามปาป๊าที่อยู่ข้าง ๆ
บอกว่าไม่เห็น
การปฏิบัติธรรม
เรื่องการปฏิบัติธรรมได้รู้มาตั้งแต่
๒๐ ปีที่แล้ว ถ้าพูดถึงธรรมะ ได้รู้จักเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ฟางมีอาจารย์หลายองค์ อาจารย์ทุกองค์เป็นคนเก่งมาก
ฟางได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์องค์หนึ่ง
ท่านเป็นศิษย์รุ่นเดียวกับองค์ดาไลลามะ ชื่อ กุรุเดวะ ริงโพเช่ (Gurudeva
Ringpoche) อายุ ๙๐ กว่าปีแล้ว ท่านเคยอยู่ที่ประเทศธิเบต อินเดีย เนปาล
ขณะนี้อยู่ที่มองโกเลีย ท่านเป็นอาจารย์ที่เก่งมาก ฟางได้มีโอกาสไปฝึกสมาธิกับท่าน
ท่านได้ตั้งชื่อให้ฟางว่า ริงชาน โดมา (Ringchan Doma)
เป็นชื่อที่มีความหมายว่า ให้ทุกคนทีได้พบฟางแล้วจะสบายมาก
ขณะที่ฝึกกับอาจารย์องค์นี้
วันหนึ่งมีเทวดามาพูดด้วย จึงได้ถามไปว่า ฟางจะดีขึ้นได้อย่างไร เขาบอกว่า
คุณมีสมาธิลึกมาก ๆ คุณจะมีจิตสูงมาก และได้ถามเขาไปอีกว่า
ต่อไปข้างหน้าฟางจะช่วยคนได้บ้างไหม เขาตอบว่า ช่วยได้มาก โดยการช่วยที่จิต
ช่วยให้จิตเขาเปลี่ยน ให้คิดเป็น ต้องรู้ว่ากรรมของอยู่ตรงไหน
เขาจะต้องเปลี่ยนชีวิตของเขาเอง ทำให้ชีวิตดีขึ้น
ฟางได้ไปที่ประเทศอินเดีย
พบอาจารย์เก่งมากชื่อ ศิริศิริอานันทะมุทิจี (Siri Siri Ananta Mutigi)
ได้ไปเรียนฝึกสมาธิกับท่าน เมื่อเรียนการฝึกสมาธิจากธิเบตและอินเดีย แล้วรู้สึกว่า
การฝึกสมาธิแบบนี้ไม่ถูกกับอัธยาศัย (Spec.) ของคนจีน
แต่เหมาะสมกับชาวธิเบตและชาวอินเดีย
ฟางมีความรู้สึกว่า
ตนเองยังไม่ซาบซึ้งพอ จึงได้เดินทางศึกษาต่อไปอีกตามประเทศต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า ๑๔
ประเทศ ครูอาจารย์ทั้งหลายที่เคยพบก็รักฟางและชอบใจที่ฟางเป็นลูกศิษย์ที่ดี
นอกจากนี้ท่านยังรู้ว่าฟางอยากเรียนต่อให้ลึกซึ้งอีก ท่านก็ไม่ว่าอะไร
ให้ฟางไปหาอาจารย์เอง
ฟางเดินทางไปตามวัดต่าง
ๆ ได้แต่ทำบุญไหว้พระอย่างเดียว ได้สนทนากับหลวงพ่อ
หลวงพี่ที่วัดก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่จะทำให้เกิดปัญญามาก ไม่มีการปฏิบัติ
ก็มานั่งนึกว่าตนเองยังไม่ก้าวหน้า อยากได้พบครูอาจารย์ที่สอนปฏิบัติ
พบหลวงปู่แหวน
เมื่อ ๒๐
ปีก่อน ฟางมาเมืองไทย เกิดอุบัติเหตุที่เชียงใหม่ต้องเข้าโรงพยาบาล
ตอนนั้นพูดภาษาไทยไม่ได้เลย พูดกันไม่รู้เรื่อง หมอให้ยาทานแล้วก็นอน
รู้สึกว่าไม่หายไม่กล้ากลับไต้หวัน ถามคนที่โรงพยาบาลว่า ที่ไหนมีพระเก่ง ๆ บ้าง
เขาบอกว่ามีหลวงปู่แหวนเก่งมาก หลวงปู่แหวนอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ ไปอย่างไรก็ไม่ทราบ
แต่แท็กซี่ทราบ
ฟางเหมาแท็กซี่ไปตั้งแต่ตีสามตีสี่
ไปถึงวัดตอนเก้าโมงเช้า คนบอกว่ามาได้อย่างไร เป็นผู้หญิงมีอันตรายมาก
ไปหลาหลวงปู่แหวนก็ไม่พบ แต่ไปไหว้รูปหลวงปู่ ฟางนึกในใจว่าต้องพบหลวงปู่ให้ได้
มีคนบอกว่าหลวงปู่อยู่หรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ฟางไม่สนใจ จะพบหลวงปู่อย่างเดียว
ในที่สุดก็ทราบว่าหลวงปู่อยู่
แต่เข้าไม่ให้เข้าไป เพราะหลวงปู่กำลังอาพาธ ตอนเช้าไม่ให้เข้า เขาปิดประตู
จะให้หลวงปู่ฉันอาหาร ฟางเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอก
ที่ฟางไปตอนนั้นเป็นหน้าหนาวกลางเดือน ๑๒ เป็นวันลอยกระทง หนาวมากจริง ๆ ลำบากมาก
ฟางเห็นหลวงปู่แหวนอยู่ห้องนิดเดียว
มีคนคอยดูว่าฟางจะมาทำอะไร เห็นคนสองคนที่นำอาหารมาถวายหลวงปู่ลุกขึ้นมาจากหลวงปู่
เขาจะไปข้างนอก เขาชวนฟางว่าจะไปด้วยกันไหม แต่ฟางบอกว่าไม่ไป
เขาบอกว่าให้รออยู่ข้างนอก
ฟางอธิษฐานขอให้หลวงปู่ช่วยด้วย
ชีวิตไม่มีเดี๋ยวแล้ว ป่วยอย่างนี้กลับไต้หวันไม่ได้เลย
เพราะว่าปาป๊าจะไม่ไปต่างประเทศคนเดียวอีกแล้ว ฟางชอบอิสระมากกว่าเป็นอาจารย์สอน
พอดีคนที่ออกมาจากห้องของหลวงปู่ที่จะไปข้างนอกลืมปิดประตู
ฟางเห็นไม่มีคน ฟางก็เข้าไปข้างในเลย ห้องของหลวงปู่เล็กนิดเดียว มืด ไม่มีไฟ
เช้าแล้วยังมองไม่เห็น ท่านนั่งเฉย ๆ มีอาหารอยู่ตรงหน้า
คิดว่าหลวงปู่คงฉันอาหารแล้ว
ฟางมองหลวงปู่
หลวงปู่ก็มองฟาง มองไปมองมา ๔-๕ นาที ไม่รู้จะพูดอะไร พูดอังกฤษก็พูดได้นิดเดียว
มีความรู้สึกว่าหลวงปู่ถามฟางว่าเป็นใคร มาจากไหน ฟางก็ตอบไปว่า มาจากไต้หวัน
ลูกศิษย์ของหลวงปู่ก็พูดว่ามาจากไต้หวัน ออกเสียงเหมือนกัน
สักครู่หนึ่งมีพระแต้จิ๋วมา ท่านพูดฮกเกี้ยน แต้จิ๋วได้ ก็คุยกันกับฟาง
ท่านถามว่าฟางมาจากไหน
มาทำอะไร ฟางก็บอกว่า ฟางป่วยสาหัสมาก ไปโรงพยาบาลแล้วไม่หาย เจ็บมาก ๆ
หายใจไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ หวังว่าหลวงปู่คงช่วยฟางและให้ฟางกลับไต้หวันได้ ฟางรู้สึกว่าหลวงปู่เก่งมาก
หลวงปู่ช่วยฟางด้วย
พระลูกศิษย์บอกให้หลวงปู่ฉันอาหารก่อน
ให้ออกไปข้างนอกก่อน เมื่ออกมาแล้วตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้พบหลวงปู่อีกเลย
พระลูกศิษย์นำน้ำมนต์มาให้ดื่ม ฟางถามว่าทำไมไม่ให้ฟางเข้าข้างใน ท่านบอกว่า
หลวงปู่ให้อยู่ที่นี่ แล้วก็ให้ดื่มน้ำมนต์อ่างใหญ่ ๆ หนาวก็หนาวมาก
ต้องมาดื่มน้ำมนต์ ก็ดื่มไม่หมด พระท่านจึงนำมาพรมให้ที่ตัว รู้สึกหนาวมาก
พระท่านให้บุหรี่ของหลวงปู่ด้วย
ฟางก็ไม่รับ เพราะฟางไม่สูบบุหรี่ แล้วก็บอกว่าสูบบุหรี่ไม่ดีนะ
ตอนนั้นฟางไม่ทราบว่าหลวงปู่สูบบุหรี่ พระท่านบอกว่า หลวงปู่ให้สูบบุหรี่จะได้หายเร็ว
ๆ ฟางก็ไม่สูบ ท่านบอกว่า หลวงปู่ให้คุณ ถ้าไม่สูบก็เก็บใส่กระเป๋าไว้ เป็นของดี
ตอนนี้ฟางรู้แล้ว ไม่ใช่ของเล่นแล้ว ท่านไม่ได้ให้ทุกคน คนมาขอ
อยากได้ท่านก็ไม่ให้ ถ้ามีอะไรท่านให้จุดเทียนอธิษฐานถึงหลวงปู่ ท่านคงทราบ
หลังจากนั้นฟางก็หายจริง ๆ และกลับไต้หวันได้
หลังจากหลวงปู่มรณภาพแล้ว
ก็ไม่ได้มาเมืองไทยอีกเลย เพิ่งจะมาเมื่อสามปีก่อน ได้กลับมาเมืองไทยอีก
ได้ไปเชียงใหม่ ไปดูวัดดอยแม่ปั๋ง นึกถึงบุญคุณของหลวงปู่ที่ได้ช่วยชีวิตฟางไว้
ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อก่อนไม่ได้เป็นอย่างนี้
ฟางสังเกตตัวเองว่า
ทำไมต้องกลับมาเมืองไทยอีก ต้องมีอะไรที่เมืองไทย แต่ฟางไม่ทราบ มาเมืองไทย
ไปเชียงใหม่ กลับไต้หวัน แต่ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ เมื่อ ๒ ปีก่อน เลยไปกรุงเทพฯ
ดูบ้าง
พบหลวงพ่อจรัญ
วันหนึ่งได้ไปเที่ยวที่ริเวอร์แคว
จังหวัดกาญจนบุรี ไปทำบุญที่วัด พบหลวงพี่นั่งอยู่ก็เข้าไปถามว่า
มีใครสอนปฏิบัติเก่งบ้าง หลวงพี่บอกว่า หลวงพ่อจรัญ
ได้สอบถามว่าหลวงพ่อจรัญเป็นใคร อยู่ที่ไหน ก็ไม่ทราบ
ไปทำบุญอีกวัดหนึ่งจึงได้ทราบว่า หลวงพ่อจรัญอยู่ที่สิงห์บุรี
ถึงเวลาแล้วฟางก็มาที่สิงห์บุรี
มาครั้งแรกไม่ได้พบหลวงพ่อ เมื่อ ๓ ปีก่อนได้มาอีกเป็นครั้งที่สองจึงได้พบ
แต่ไม่เห็นมีคนปฏิบัติ เพราะที่วัดเงียบมาก ไม่ได้เดินเข้าไปดูข้างใน
และไม่มีใครพูดถึงด้วย ฟางก็พูดภาษาไทยไม่ได้ หลวงพ่อก็ไม่ได้พูด
ต่อมาอีก ๑
ปี ฟางมาอีกเป็นครั้งที่สาม มาเพื่อทำบุญกับหลวงพ่อ หลวงพ่อถามฟางว่า เมื่อไหร่จะมาเรียนปฏิบัติ ฟางตกใจ
ทำไมหลวงพ่อรู้ ถามหลวงพ่อว่า สอนปฏิบัติด้วยหรือ สอนที่ไหน ทำไมวัดจึงเงียบมาก
ท่านบอกว่าให้มาปฏิบัติ ๑๕ วัน ฟางไม่กล้าสัญญากับหลวงพ่อ เพราะทำธุรกิจมาก
ได้เรียนท่านไปว่า จะมาปฏิบัติในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
หลวงพ่อบอกว่าเพิ่งพบกัน
เรียนมาเยอะ อย่าเอาแต่เรียน เรียน เรียน อยู่ที่นี่ให้ปฏิบัติอย่างเดียว
เก็บที่เคยเรียนมาแล้วไว้ก่อน ฟางก็ไม่สงสัยว่า ทำไมหลวงพ่อให้ปฏิบัติอย่างเดียว
เพราะฟางเรียนมามากแล้ว
หลวงพ่อถามว่า
มาที่นี่ทำไม ทำไมรู้จักที่นี่ ฟางก็บอกว่า ไม่ทราบ เมื่อก่อนฟางพูดภาษาไทยไม่ได้เลย
หลวงพ่อบอกว่า มาที่นี่ให้พูดภาษาไทยให้ได้ ถ้าฟางพูดภาษาไทยได้ ฟังได้จะดีมาก
การเรียนที่วัดอัมพวัน
ได้ฝึกปฏิบัติกับอาจารย์ซูง้อ พระธเนศ สอนพูดภาษาไทยและสนทนาธรรมบ้าง
พระประกาศิตสอนอ่านบาลี สวดมนต์เป็นภาษาบาลี บางครั้งฟางพูดภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
ท่านก็ตั้งใจสอนให้ ฟางสามารถอ่านออกเสียงภาษาบาลีเป็นภาษาไทยได้ไม่เพี้ยน
ผลจากการปฏิบัติ
การฝึกปฏิบัติ
ถ้าตั้งใจจริง ๆ ต้องมีปัญญาเกิด เป็นปัญญาธรรมดา ยังไม่ถึงมหาปัญญา
แต่ก็ดีกว่าฉลาด
มหาปัญญา
คือ ปัญญาที่รู้ทันความคิด ทำอะไรก็ไม่ผิดแน่นอน ทำให้คนนั้นมีบุญวาสนา
ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว ถ้ามหาปัญญาเกิดจะช่วยใครก็ช่วยได้จริง
ตอนนี้เริ่มเข้าใจคำพูดของเจ้าแม่กวนอิมที่มาครั้งที่สามว่า
ปฏิบัติแล้วจะเกิดปัญญา ขณะนี้รู้ด้วยตนเองแล้ว มหาปัญญาทำอะไรก็ไม่ต้องกลัวแล้ว
ทำอะไรก็ไม่ห่วง คิดอะไรก็สว่าง
ถ้าจะถามฟางว่ามีปัญญาเกิดไหม
ต้องไปถามหลวงพ่อ ฟางพูดไม่ได้ จะเป็นการโฆษณาตัวเอง เหมือนเช่นน้ำในขวด
ถ้าน้ำไม่เต็มขวด เมื่อเขย่าแล้วจะมีเสียงดัง แต่ถ้าน้ำเต็มขวดแล้ว
เขย่าขวดเท่าไรก็ไม่เกิดเสียง จะพูดว่าตัวเองมีปัญญาเกิดก็ไม่ดี
คนมีปัญญาเหมือนมีน้ำเต็ม
เขย่าแล้วไม่มีเสียงดัง น้ำใจต้องบริสุทธิ์ คิดอะไรก็เป็นจริง ช่วยทุก ๆ คนได้
รู้จักว่าทุก ๆ คน มีนิสัยไม่เหมือนกัน การช่วยคนช่วยไม่เหมือนกัน บางคนควรพูดดี ๆ
ให้เขาฟัง บางคนต้องพูดมีเหตุผล ไม่ต้องทำอะไรใช้เหตุผลอย่างเดียว
บางคนนิสัยแข็งต้องพูดแข็ง ๆ ให้ฟัง ถ้าจะช่วยคนต้องรู้ว่าคนนั้นมีกรรมที่ไหน
จะได้ช่วยให้เขาใช้กรรมนั้น เขาจะได้มีวาสนา และชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี
เช่นบางคนลำบากมาก เขามีกรรมมาจากปากร้าย ปากเสีย ฟางรู้ก็ช่วยให้เขาพูดดี ๆ
คิดก่อนที่จะพูด ทำให้มีวาสนา
บางคนมีกรรมจากแค้นไม่มีเหตุผล
ฟางจะให้เขาใจเย็น ๆ ฟังเหตุผล ไม่เคียดแค้น บางคนมีกรรมมาจากความอยากได้
คนแบบนี้มาขอของกี่ครั้งต้องไม่ให้ เพราะถ้าให้ก็อยากได้อีก
ต้องสอนให้เขารู้จักเกรงใจ สอนให้เขาไปทำบุญไปช่วยเหลือคนอื่นนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้
จะทำให้จิตเขาเปลี่ยนไป ชีวิตเขาก็จะเปลี่ยนไปด้วย ถ้าปฏิบัติถูกจะเห็นว่าเราทำกรรมอะไรไว้
แล้วแผ่เมตตาให้ และทำบุญให้ด้วย
หลวงพ่อพูดให้ฟางสงสารตัวเอง
ทำบุญให้ตัวเอง ทำบุญที่ดีที่สุดคือทำบุญให้ตัวเอง ได้แก่การปฏิบัติเข้าข้างใน
ไปต้องไปทำข้างนอกแล้ว ฟางจึงได้หยุดเดินทางไปศึกษาหาความรู้ เมื่อ ๓
ปีที่แล้วไปที่ไหน ๆ ก็ทำบุญ ทำจนเป็นธรรมดาไปแล้ว
แต่ตนเองยังจะต้องปฏิบัติให้จิตสูงขึ้นไปอีก ยังไม่ถึงจุดที่ตนเองพอใจ
เมื่อก่อนนี้ฟางทำบุญ
และเป็นผู้ทรงศีลด้วย แต่ไม่ได้พูดกับใครว่าเป็นผู้ทรงศีล ทำงานก็ทำงาน
ทำบุญก็ทำบุญ และก็เรียน เรียน เรียน และปฏิบัติด้วย อาจารย์บอกฟางว่า ไปที่ไหนก็ไปคนเดียวได้เลย
จะเป็นอาจารย์ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ฟางไม่อยากเป็น คิดว่าตัวเองยังรู้ไม่พอ
ตอนนี้กำลังศึกษาหาทางที่เหมาะสำหรับคนปัจจุบันที่จะปฏิบัติได้
จากการที่ฟางได้ปฏิบัติมาทำให้ทราบว่าคนไหนมีนิสัยเป็นอย่างไร
คนนั้นชอบโกหกแต่จะไม่พูดให้เขารู้ ใครโกหกเรา ใครจะทำร้ายเรา
หรือใครไม่จริงใจกับเรา สามารถจะรู้ได้ แต่ไม่เคยไปพูดว่า คนนี้ไม่ดี
เข้ากันไม่ได้ ไม่เคยพูดอย่างนี้
ขณะที่ทราบว่าเขาจะทำร้ายเราหรือไม่จริงใจกับเรา
เราก็ยังสามารถเข้าใกล้เขาได้ ถ้ามีโอกาสจะพูดให้เขาฟัง พูดให้เขาเข้าใจ
สอนให้เขารู้ว่า ไม่ทำร้าย ไม่โกหก เป็นผลดีอย่างไร มีโอกาสจะสอนเขา
เปิดเผยให้เขาปรับตัวได้
ฟางเป็นคนต่างชาติ
เห็นว่าหลวงพ่อเป็นผู้ที่อดทนที่สุดแล้ว พระผู้ทรงศีลเดี๋ยวนี้หายาก
ฟางหวังว่าถ้าคนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะทำให้หลวงพ่ออยู่สอนคนต่อไปได้อีกนาน คนที่ทำให้หลวงพ่อไม่สบายใจจะทำให้หลวงพ่ออยู่ที่นี่ไม่ได้นาน
หลวงพ่ออาจจะอายุยืนนานได้ แต่พวกเราต้องทำดี ๆ ถวายหลวงพ่อ เช่น พูดดี คิดดี ทำดี
ไม่ใส่ร้าย ไม่นินทา คอยอนุโมทนาบุญกับเขา เห็นใครทำดีก็อนุโมทนาบุญกับเขา
ไม่อิจฉาเขา โดยเฉพาะผู้หญิงสำคัญมาก ชอบอิจฉา อยากได้ ทำให้เป็นผู้ทรงศีลได้ยาก
ปฏิบัติก็ยาก ถ้าตัดอิจฉา ตัดใส่ร้ายได้แล้ว ผู้หญิงจะเป็นผู้ทรงศีลได้ดีมาก
ถ้าเป็นผู้ทรงศีลจริง
ปฏิบัติจริง น้ำใจจะนิ่ง ที่เห็นโน่นเห็นนี่เป็นเรื่องธรรมดา
การระลึกชาติรู้โน่นรู้นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่ใจของเราจะต้องสูงขึ้นด้วย
จิตต้องประกอบด้วยเมตตา การส่งสารคนสำคัญมาก
วาสนาที่สั่งสมมาได้มาจากการช่วยเหลือผู้อื่น เห็นคนอื่นทรมานก็เหมือนเราทรมานด้วย
ไม่ใช่ว่าเราไม่เกี่ยว คิดว่าเขาใช้กรรมของเขาอันนี้ไม่ถูกต้อง
ถ้าคิดคิดอย่างนี้จิตใจจะสูงขึ้นได้ยากมาก ถ้านิสัยไม่ประกอบด้วยเมตตามาก
จะทำให้จิตสูงขึ้นยาก
การเป็นผู้ทรงศีลต้องถูกทดสอบอารมณ์หลาย
ๆ อย่าง ไม่ใช่ว่าได้ตาทิพย์ ระลึกชาติได้ จะเรียกว่าปฏิบัติได้แล้ว ยังไม่ใช่
ขั้นนี้เป็นขั้นทดสอบ ต้องทำต่อไป จะพบการทดสอบอีกหลายอย่าง
เราต้องดูตัวเองทุกวันว่า วันนี้ได้พูดอะไรให้คนไม่สบายใจไหม
ไม่ใช่พูดเชือดเฉือนให้คนเจ็บใจเหมือนมีดบาด วันนี้เห็นคนอื่นเก่งกว่าตัวแล้วอิจฉาเขาไหม
ถ้ามีเกิดขึ้นนิดหน่อยก็ไม่ได้ เป็นการจองหอง
ต้องคอยระวังจิตตัวเองให้นึกอนุโมทนากับเขา ข้อนี้สำคัญมาก
จะทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีเมตตามาก
คนที่เป็นผู้ทรงศีลนั้น
พูดอะไรไปแล้วคนฟังจะสบายใจมาก คนอื่นเห็นก็สบายใจ ใครเข้าใกล้จะเปลี่ยนตนเองไปในทางที่ดี
ผู้ทรงศีลเปรียบเหมือนดอกบัวที่เกิดจากโคลนตมที่สกปรก
แต่เมื่อตัวเองโตเต็มที่แล้วจะสะอาดมาก ไม่ใช่ว่าจะเกิดมาจากที่สะอาด
ถ้าคิดว่าตัวเองมาจากที่ดีที่สูง ดูถูกคนนั้นดูถูกคนนี้ จะมาเปรียบเทียบกับฉันไม่ได้
ไม่ช่วยอะไรคนอื่นเลยก็ไม่ได้ ถ้าใครเป็นอย่างนี้ไม่ใช่ผู้ทรงศีล เป็นการขาดสติ
มีโทษด้วยโดยที่ตัวเองไม่ทราบ
ผู้ทรงศีลจะไม่เลือกใส่ใจว่าใครทำบุญมาก
ใครทำบุญน้อย แต่จะดูว่าเขามีกรรมอะไรจึงได้ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น
ต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยให้เขามีจิตใจสูงขึ้น
และคิดว่าจะสอนเขาอย่างไรจึงจะทำให้ชีวิตต่อไปข้างหน้าของเขาดีขึ้น
และทำบุญให้กว้างขวางขึ้น ไม่เฉพาะเจาะจงทำกับผู้ที่ตนเองเห็นว่าเก่ง
ในเรื่องนี้มรรคมีองค์แปดกล่าวไว้ชัดแจ้งแล้วว่าทำอย่างไรจึงจะทำไม่ผิด
ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ที่คอยแต่จะพึ่งหลวงพ่อ ก็จะทำบุญกับหลวงพ่อมาก ๆ เผื่อวันข้างหน้าตนมีปัญหา
หลวงพ่อจะได้ช่วยได้ แต่ตนเองจิตไม่ก้าวหน้าเลย การทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิด ในเมืองไทยมีคนคิดอย่างนี้มาก
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างนี้ คิดอะไรจึงจะไม่มีกรรม
พระพุทธเจ้าได้สอนไว้แล้วในมรรคมีองค์แปด ข้อนี้สำคัญมาก
ผู้ทรงศีลนั้นถ้าเห็นคนทำผิดจะสงสารเขา
มีโอกาสจะบอกให้เขาทราบว่าเขาผิดที่ไหน ไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยวกับฉัน
และไม่กล้าพูดต่อหน้า แต่พูดลับหลัง ตัวเราเองนั้นแม้ผิดนิดหน่อยก็ไม่ได้
คนเราคอยแต่จะขอบารมีจากคนอื่น
ขอจากครูอาจารย์ที่มีบารมีมาก ทำไม่ไม่สร้างบารมีของตนเอง
ทำให้ตนเองเป็นหนี้บุญคุณเขาอีก ทำไมตัวเองไม่ปฏิบัติให้มีบารมีสูงขึ้น
ทำอะไรก็คิดก่อน สร้างพลังของตนเองด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น
และมักจะคิดว่าตัวเองเก่งที่ขอบารมีจากครูอาจารย์หรือพระพุทธเจ้าได้
ไม่ใช่คิดว่าครูอาจารย์เก่งหรือพระพุทธเจ้าเก่ง เป็นความคิดที่ผิด
ฟางไม่เคยพูดว่าตนเองเป็นผู้ทรงศีล
ไม่เคยพูดอย่างนั้น จะถูกหาว่าขี้โอ่ ทำอะไรก็แปลกมาก คิดอะไรก็แปลกมาก
ถ้าคนไหนมีกรรมแล้วมาพบฟาง จะออกมา ๒ อย่าง ถ้าเข้าไม่ก้าวหน้าก็ต้องเลว
แต่ถ้าเขาทำดีก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าคนไหนไม่พัฒนาตนเอง เขาจะเลวลงกว่าเก่าอีก
ฟางรู้สึกแปลกมาก
มีอยู่คนหนึ่ง
เขารู้สึกว่าเขาไม่มีกรรมอะไร แต่พอมาพบกับฟางแล้ว คนนั้นมีกรรมแสดงออกมาเอง
ให้เขารู้ว่าเขามีกรรมอะไร เปรียบเทียบให้ฟังนะ คนนี้ดีแสนดี แต่พอกรรมออกมาแล้ว
โอ้โฮเห็นแก่ตัวมาก อันนี้เป็นโลภะ อยากได้ กรรมก็เลยมา
อาจารย์ปลอมก็เหมือนกัน
กรรมเกิดขึ้นมาอีกอย่างไวมาก ถ้าท่านทำไม่ดีกับฟาง ครั้งสุดท้ายไม่ดีมาก ๆ
ถ้าหากใครตั้งใจจะทำร้ายฟาง ครั้งสุดท้ายก็เลวมาก ไม่ดีขึ้นจริง ๆ
เมื่อก่นนี้เคยเห็นหลายเรื่องเกิดขึ้นมาแล้ว เช่นเกิดอุบัติเหตุ หรือเป็นโรคมะเร็ง
ถ้าไม่เป็นมะเร็งชีวิตจะลำบากมาก
การใส่ร้ายสำคัญมาก
คนที่คิดใส่ร้ายเขา ข้อความที่ไม่จริง พูดออกมาว่าจริง จะทำให้ชีวิตลำบากมาก
คนที่พูดโกหก อยากได้เงิน พูดว่าร้าย เพ้อเจ้อ คนนั้นถ้าแต่งงานครอบครัวจะไม่ดี
สามีไม่ดี โกหกเป็นกรรม ทำงานก็จะไม่มีคนช่วย ชีวิตจะลำบากมาก
มีอยู่ครั้งหนึ่ง
ฟางเคยโมโห เมื่อกลับถึงบ้านจะเปิดประตู ประตูเปิดออกเองเลย ไฟก็ดับ
เหยียบพื้นพื้นก็แตก แปลกมาก เวลาโมโหมันเกิดแรงออกมา จึงได้ถามอาจารย์ว่าที่เกิดเป็นอย่างนี้เพราะอะไร
อาจารย์ก็บอกว่า เมื่อก่อนอาจารย์ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน
เวลาโมโหจะมีพลังแสดงออกมา ตอนนี้ท่านรู้แล้ว และให้ฟางเก็บพลังไว้ข้างในให้หมด
คือไม่ให้แสดงความโกรธออกมา
ที่ประเทศอินเดีย
อาจารย์ศิริศิริอานันทะมุทิจี ท่านเป็นอาจารย์ที่เก่งมาก
เมื่อก่อนเคยมีผู้ทำร้ายอาจารย์องค์นี้ แต่ท่านให้อภัยเขาได้ ท่านบอกว่า
เราอภัยให้เขาได้ แต่กฎแห่งกรรมไม่ให้อภัย ต้องใช้กรรม
ต่อมาอีกไม่นานเขาก็ถูกฆ่าตาย คนที่ฆ่าก็เป็นลูกน้องของเขาเอง
ทั้งตระกูลของเขาก็ถูกฆ่าตายหมด
ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างในการทำที่ดี
ถ้าทำไม่ดีจะตกถึงลูกหลานเจ็ดชั่วโคตร มันเกี่ยวข้องกัน ผู้ใหญ่ถ้าทำดี คิดดี
มีคุณ ลูกหลานก็ดีหมด เป็นความรู้ที่เกิดขึ้น นี่คือปัญญาธรรมดา ไม่ใช่มหาปัญญา
ความรู้สึกที่มีต่อหลวงพ่อจรัญ
ฟางรู้สึกว่า
หลวงพ่อจรัญท่านเก่ง ท่านเป็นคนจริง จิตท่านสูงแล้ว แต่หลายคนที่อยู่ใกล้หลวงพ่อไม่ทราบ
ไม่รู้ว่าท่านถึงไหน แต่ท่านมีกรรม ท่านยอมใช้กรรม
ยอมให้คนที่ใกล้ชิดใช้กรรมกับท่าน
บางคนที่เข้ามาวัดก็มาใช้กรรม
หรือหลวงพ่อกำลังใช้กรรมกับเขา แต่บางคนไม่ใช่ เขามาเพื่ออยากได้
อยากได้แล้วก็อยากได้อีก ไม่รู้จักพอ เพราะไม่เชื่อกรรมหรือบุญบาปมีจริง
กล้าทำเลวแล้วยังกล้าทำอีก ก็จะเลวลงไปอีก ต่อไปจะเลวมาก
หลวงพ่ออยู่ที่นี่
ทุกคนมีอาหารทาน มีเสื้อผ้าใส่ มีเงินใช้ ทุกคนมากราบหลวงพ่อ ขอหลวงพ่อ
หลวงพ่อก็ให้ แต่คนนั้นไม่ช่วยหลวงพ่อ ถ้าทำให้หลวงพ่อเสียใจมาก
แล้วหลวงพ่อไม่อยู่ที่นี่ จะมีแต่กรรมอย่างเดียว ฟางทราบแต่พูดไม่ออก
ต่างชาติเห็นหลวงพ่อไม่ใช่พระธรรมดาแล้ว แต่บางคนยังไม่เห็น คนที่มาปฏิบัติ
บอกว่าจะปฏิบัติแต่ไม่ปฏิบัติ เป็นการโกหก
ฟางเดินทางไปทั่วโลก
แต่สุดท้ายก็ต้องมาที่นี่ มาแล้วก็ตั้งใจปฏิบัติอย่างเดียว
เมื่อก่อนเคยเรียนมาก็เก็บไว้ข้างใน เรียนปฏิบัติตามหลวงพ่ออย่างเดียว
ทำไมเป็นอย่างนี้ ต้องมีที่มา ต้องมีเหตุผล ต้องมาที่นี่ ที่ไหนก็ไม่ไปแล้ว อันนี้แปลกมาก
ฟางมาบ่อย ๆ มาแล้วมาอีก ต้องมีอะไร ทำไมคนอื่นจึงมองไม่เห็น
ฟางทำธุรกิจหลายอย่าง
ต้องเดินทางไปหลายแห่ง ถ้ามีธุรกิจเร่งด่วนก็ไปไหนไม่ได้ แต่เมื่อหลวงพ่อพูดว่า
ให้ฟางมาอยู่ที่วัด ๗ วัน ฟางก็สัญญากับหลวงพ่อว่าจะมา และก็มาอีก
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมฟางต้องมา ถ้าไม่มีเหตุผลทำไมฟางจึงต้องเชื่อฟังหลวงพ่อ
แต่ถ้าจะว่าหลวงพ่อเป็นบุคคลพิเศษ ทุกคนก็พิเศษเหมือนกัน
แต่หลวงพ่อเป็นบุคคลพิเศษมากที่สุด เมื่อได้ใกล้ชิดหลวงพ่อเขาไม่เข้าใจ
เพราะเขาเห็นแต่สังขารข้างนอกเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป เขาจึงไม่ได้แสดงความเคารพนับถือ
แต่ชาวต่างชาติมองเห็นความแตกต่าง ถ้าเขาคิดเหมือนฟางนี้จะไม่มีปัญหา
สิ่งที่สำคัญมาก
ๆ คือ ขอให้หลวงพ่ออยู่นานที่สุดเท่าที่จะอยู่ได้ในชีวิตนี้
ฟางจะได้มีโอกาสเรียนกับหลวงพ่อมากขึ้น หลวงพ่อมีเมตตาสูง หลวงพ่อมีวาสนา
หลวงพ่อมีอายุยืนจะได้เรียนกับท่านมาก ๆ ถ้าหลวงพ่อไม่อยู่ที่นี่
มีใครคิดบ้างว่าจะไม่มีอะไรบ้าง มีแต่กรรมอย่างเดียว ไม่มีใครทราบ
อันตรายก็ไม่ทราบ ชีวิตดีไหมก็ไม่ทราบ ชีวิตนี้ใช้ได้ไหมก็ไม่ทราบ
หลวงพ่อท่านมีจิตสูงแล้ว จะเห็นว่าพูดอะไรหลวงพ่อก็ไม่ถือ คนที่มีกรรมก็ไปว่าท่าน
คิดว่าตนเองฉลาดกว่าหลวงพ่อ หลวงพ่อไม่รู้หรือ ฟางเองยังรู้ทำไมหลวงพ่อจึงจะไม่รู้
น่าสงสารจริง ๆ เขาเหมือนคนที่ตายทั้งเป็น เป็นกรรมของเขาเอง
และเมื่อตายแล้วก็จะไปที่ที่ไม่ดี
การปฏิบัติที่ผ่านมากับการปฏิบัติที่วัดอัมพวัน
เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ที่วัดอัมพวันแตกต่างจากที่อื่นคือ
ฟรีหมด ๓ อย่าง ได้แก่ ที่อยู่ฟรี เสื้อผ้าฟรี และอาหารฟรี ที่อื่นไม่มีอย่างนี้
ต่างประเทศก็ไม่มี การเดินจงกรมแบบที่หลวงพ่อสอนทำให้เกิดสติได้ดีมาก
และเกิดปัญญาเร็ว การปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้เป็นสิ่งที่ดี เช่นการรักษาศีล ๘
ให้เคร่งครัดจะทำให้จิตก้าวหน้าได้เร็วมาก การอยู่ในที่สงัดเป็นสิ่งที่ดี
ควรปิดเครื่องมือสื่อสาร อยู่เงียบ ๆ ไม่คุยกัน ถ้าที่พักอยู่หลายคนก็ไม่เป็นไร
อยู่รวมกันแต่ไม่คุยกัน ถ้ามีปัญหาก็ปรึกษากับอาจารย์ได้
ที่เมืองไทยมีหลายที่ที่สอนปฏิบัติ
ไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่ ฟรีทุกอย่าง ให้ตั้งใจปฏิบัติอย่างเดียว
ไม่ต้องห่วงเรื่องนอนที่ไหน รับประทานอาหารที่ไหน เสื้อผ้าก็ฟรี
ที่ต่างชาติไม่มีอย่างนี้ เราต้องรักหลวงพ่อ สงสารหลวงพ่อ และช่วยให้สถานที่ปฏิบัตินี้คงอยู่นาน
ๆ
พระที่เมืองไทยเก่งกว่าหลวงพ่อก็มี
แต่แปลกมากที่ไปแล้วไม่ใช่ที่เราต้องการ ความรู้สึกไม่มีการเชื่อมโยง (connect)
เพียงแต่ไปเพียงแต่เห็นแต่ไม่มีอะไร แต่เราต้องก้าวหน้าต้องมีพิเศษกว่าปฏิบัติ
หลวงพ่อท่านสอนพระเณรให้ปฏิบัติเป็นธรรมชาติตามแบบที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
สูงกว่าที่สอนกันแบบธรรมดา ไม่มีพูดว่าเห็นโน่นเห็นนี่
ไม่เปลี่ยนอย่างโน้นอย่างนี้ เปลี่ยนหลาย ๆ อย่าง ถ้าพูดบ่อย ๆ เป็นการขาดสติ
คนเดี๋ยวนี้ไม่ทราบ
ฟางเรียนมาหลาย
ๆ อย่าง แต่ข้างในความรู้สึกบอกว่า ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ
อาจารย์บอกฟางปฏิบัติได้แล้ว แต่ฟางคิดว่าเราต้องก้าวหน้ากว่านี้ ฟางปฏิบัติได้
แต่บางคนไม่ได้ (ฟางพูดไม่ได้) วิธีเรียนแบบนี้ไม่มีใครนำไปสอน
ไม่มีใครอยากเรียนเพราะต้องใช้เวลาใช้เงินทองมาก แต่หลวงพ่อสอนเป็นไปตามธรรมชาติ
การปฏิบัติที่มีอานิสงส์ทำให้มีทรัพย์ไม่ขาดกระเป๋า
จากการที่ได้ปฏิบัติธรรม
ฟางสังเกตเห็นว่า คนเราเดือดร้อนก็เพราะกรรมที่ตนเองได้ทำไว้แล้วทั้งนั้น
และเป็นกรรมโดยที่ตัวเองไม่ทราบ ถ้าจะให้ชีวิตของเขาดีขึ้นต้องชี้ให้เขาเห็นโทษของการทำกรรมนั้น
เขาจะได้เปลี่ยนพฤติกรรม ชีวิตจะได้ดีขึ้น
ทุกคนเดือดร้อนเหมือนกันประการหนึ่งคือ
การขาดแคลนทรัพย์ สิ่งนี้เป็นผลมาจากการกระทำของเขาเอง
ฟางพบว่าสาเหตุที่ทำให้มีทรัพย์ไว้จับจ่ายใช้สอยไม่ขาดกระเป๋า ต้องปฏิบัติตาม ๕
ประการต่อไปนี้
๑. ไม่ทำร้ายทุก
ๆ อย่าง เช่น ไม่ฆ่าคน ไม่ฆ่าสัตว์ทุกชนิด
๒. มีสัจจะ
พูดจาน่าเชื่อถือ ไม่หลอกลวงทุกอย่าง
๓. ไม่เห็นแก่ตัว
๔. ทำบุญทุกที่
แม้เพียงเล็กน้อยก็ทำ ไม่เลือกศาสนา ไปต่างชาติก็ทำบุญ ช่วยเขาเราก็ได้บุญ
๕. เป็นพุทธศาสนิกชนจริง
ไม่ใช่ปลอม ปฏิบัติตามมรรคมีองค์แปด ข้อนี้สำคัญมาก
ถ้าปฏิบัติได้ ๕
ประการนี้จะทำให้ใจว่าง คิดอะไรก็จริง พูดอะไรก็จริง เปรียบเทียบกับการขายของ
คนอื่นขายไม่ได้ แต่ฟางขายได้ คนอื่นไม่เข้าใจ ไม่ใช่เงินลอยมาจากฟ้า
ไม่ใช่นั่งเฉย ๆ ถ้าใครปฏิบัติได้จะเกิดอานิสงส์
สร้างกุศลถวายหลวงพ่อจรัญ
ทำบุญเลี้ยงเพล
เมื่อวันที่
๑๘ เมษายน ๒๕๔๔ ฟางได้ทำบุญเลี้ยงเพลพระ สวดธรรมจักร ที่วัดอัมพวัน
มีจุดประสงค์เพื่อทำบุญถวายหลวงพ่อ ให้หลวงพ่อมีร่างกายแข็งแรงอายุยืน ๆ
ให้คนมีโอกาสมาเรียนปฏิบัติกับหลวงพ่อ และตั้งใจเรียน
และหวังว่าศาสนาพุทธจะได้สืบทอดต่อไปอีกนาน ๆ ถ้าศาสนาพุทธอายุสั้นอันตรายมาก
ถ้าเป็นผู้ทรงศีลต้องไม่ตายเร็ว ควรอยู่จรรโลงศาสนาต่อไปอีก
ฟางทำบุญถวายหลวงพ่อ
ทำไมไม่ทำถวายองค์อื่น เพราะการปฏิบัติสำคัญมาก
ปฏิบัติไม่ใช่เพื่อให้ทุกคนเสียเงิน ปฏิบัติเพื่อให้ทุกคนปัญญาเกิด
เกิดปัญญาธรรมดาก็ได้ ก็ยังดีกว่าฉลาด มองข้างนอกหลวงพ่อเป็นคนไทยธรรมดา
แต่ข้างในมีตาเห็นไหม ตาไม่เห็นไม่รู้ว่าธรรมดาไหม ไม่ธรรมดาทำไมไม่รักษา
สำหรับฟางปฏิบัติสำคัญมาก
ฟางทำบุญให้หลวงพ่ออายุยืน
ๆ แผ่เมตตาให้หลวงพ่อมีร่างกายแข็งแรง ให้คนมาปฏิบัติกันมากและตั้งใจเรียนด้วย
คนไหนที่ทำไม่ดีกับหลวงพ่อให้มีโอกาสกลับใจให้ละอายใจ ทำไมฟางทำอย่างนี้
ถ้าคนไหนมีใจเป็นกุศลจะเข้าใจ คนที่มีใจเป็นอกุศลจะไม่เข้าใจ
สร้างพระหยกที่พม่า
ฟางกำลังสร้างพระพุทธรูปทำด้วยหยกที่ประเทศพม่า
ต้องเดินทางไปประเทศพม่าบ่อย ๆ เพื่อดูว่าพระสร้างเสร็จหรือยัง
สร้างเสร็จแล้วจะอัญเชิญมาถวายหลวงพ่อจรัญ เพื่อนำไปประดิษฐานที่สวนเวฬุวัน
จังหวัดขอนแก่น
ทำไมฟางต้องทำอย่างนี้
เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน ราคาสร้างก็แพง ค่าขนส่งจากพม่ามาสิงห์บุรีก็ไม่ใช่ถูก
ไม่ใช่ทำกันได้ง่าย ๆ ที่เมืองไทยมีพระเก่งกว่าหลวงพ่อและนับถือมากเหือนกัน
แต่ปฏิบัติสำคัญมาก หลวงพ่อจรัญสอนปฏิบัติ
ก็เป็นที่แน่นอนว่าขอให้หลวงพ่อจรัญอายุยืน ๆ
แต่งเพลงถวาย
ฟางเคยแกะสลักหินถวายหลวงพ่อ
แต่งเนื้อเพลงถวายหลวงพ่อ ต้องการให้เทวดารักษาพระพุทธศาสนา
และรักษาหลวงพ่อให้อยู่ดี ขอให้หลวงพ่อสบายใจ
ให้เจ้ากรรมนายเวรของหลวงพ่ออโหสิกรรม มีโอกาสสอนคนปฏิบัติ
และให้โอกาสชาวต่างชาติมาปฏิบัติที่วัดอัมพวันนี้เร็ว ๆ
คุณแอ๊ด
คาราบาว เป็นคนที่ตรงมาก พูดอะไรก็กล้าพูดจริง ฟางต้องการคุยกับแอ๊ด คาราบาว
ให้แต่งเนื้อเพลงให้หลวงพ่ออายุยืน ให้ธรรมะสืบทอดคงอยู่ต่อไป ต้องการพบจะได้คุยกัน
เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์ Fang Jei
โดย ซูง้อ แซ่เอ็ง
และ สมพร แมลงภู่
๑๘ เมษายน ๒๕๔๔