(คำแปล)
ประสบการณ์จากการปฏิบัติธรรม
ตัน เซ็ง หย่ง
R15012
เกี่ยวกับตัวข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเป็นคนธรรมดา
ผู้เคร่งศาสนา ชอบสวดมนต์ไหว้พระ และรักษาศีล ๕ ทุกวัน ข้าพเจ้าเคยทำงานธนาคารประมาณ
๓๐ ปี หลังจากนั้นชีวิตของข้าพเจ้าประสบปัญหาอย่างมาก ข้าพเจ้าตกงาน
เพราะธนาคารที่มาเลเซียมีการรวมกิจการ ข้าพเจ้ากลายเป็นคนตกงาน จิตใจไม่สงบ
ในบ้านของข้าพเจ้ามีของศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนามากมาย
อาทิ พระพุทธรูป พระสารีบุตร พระโมคคัลลาน์ องค์คุลีมาล พระสีวลี พระพรหม และอื่น
ๆ ข้าพเจ้าสวดมนต์ภาวนา อย่างหนัก
และมีความหวังว่าเรื่องอัศจรรย์จะได้เกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้า แต่มันก็ไม่มีประโยชน์
แล้วข้าพเจ้าก็ยังหวังว่า จะมีใครสักคนที่ช่วยหางานให้ข้าพเจ้าทำและช่วยแก้ปัญหาการเงินให้แก่ข้าพเจ้า
แต่ก็ไม่ได้ผลตามที่ข้าพเจ้าเคยอธิษฐานขอไว้
มีวันหนึ่งข้าพเจ้าพบความจริงในทันทีว่าข้าพเจ้าต้องแก้ปัญหาเอง
ไม่ใช่พึ่งคนอื่น แต่ทำอย่างไร ข้าพเจ้าหาวิธีต่าง ๆ แต่ยังไม่ถูกสักอย่างหนึ่ง
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะไปวัดอัมพวัน
เข้าเจ้าเคยศึกษาถึงวิธีปฏิบัติกรรมฐานแล้ว ข้าพเจ้ารู้ว่า
ทุกข์มาจากกรรมของข้าพเจ้าที่ทำมาในอดีตและอดีตชาติ แต่ข้าพเจ้าเคยทำผิดอะไรและภพไหน
ข้าพเจ้าไม่มีคำตอบและแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ไม่ใช่ยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จอย่างเดียว
ยังมีปัญหาหลายอย่างที่ยังไม่มีคำตอบ
ความจริงใจให้แก่ผู้มีชีวิตโดยเฉพาะมนุษย์
จงอย่าเสียเวลาในชีวิตตามหาสิ่งที่ไม่ถูกทาง
และไม่ถูกต้อง
คุณสามารถเป็นมหาเศรษฐีได้
รวยที่สุดในโลกได้ หรือเป็นผู้กุมอำนาจในชีวิตของคนได้ แต่ถามตัวคุณเองว่า
สิ่งเหล่านั้นจะสามารถอยู่คงทนสักเท่าไร และคุณเคยกระทำอะไรบ้างในชีวิต
สิ่งที่คุณควรทำก็แค่เดินทางไปที่วัดอัมพวัน
อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และเตรียมตัวอยู่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดจริงจัง อย่างน้อย ๗
วัน ถ้าคุณมีความพยายามและทำตามทำสั่งสอนอย่างจริงจัง คุณจะได้ผลอย่างแน่นอน
ข้าพเจ้าเดินทางถึงวัดอัมพวัน
อันดับแรก
ข้าพเจ้าอยากขอบคุณ คุณดรุณี หรือ เรียกว่าคุณเอ๊ค ที่อยู่สุไหงโกลก ได้จัดการ
พาพวกเราไป ไม่เช่นนั้นข้าพเจ้าไม่อาจค้นพบสิ่งที่มีค่ามากในชีวิตนี้
สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่สามารถอธิบายปรือประเมินค่าได้
วันที่
๖ เมษายน ๒๕๔๔ คุณเอ๊คเชิญคุณอังและผมไปวัดหนึ่ง ซึ่งคุณเอ๊ครู้ว่าพวกเราอยากไปวัดนี้เพราะว่าวัดนี้มีสำนักปฏิบัติ
แต่ไม่ได้บอกรายละเอียด แต่คุณเอ๊คก็สั่งว่าเราต้องถึงสุไหงโกลกในวันที่ ๗ เมษายน
๒๕๔๔ ตอนเช้า
ตอนที่เราตัดสินใจจะเดินทางเวลาค่ำแล้ว
และเราต้องหาวิธีการเดินทาง รถประจำทางไปกลันตันและเที่ยวบินก็จองเต็มแล้ว
เราตัดสินสินใจแน่วแน่ต้องไปให้ได้ จึงหารถรับจ้าง
และได้รถรับจ้างที่ไม่ถูกกฎหมายโก่งราคาค่าโดยสารเป็น ๒ เท่า
เราเริ่มเดินทางเวลาประมาณ
๒๓.๒๐ น. และเดินทางตลอดทั้งคืน
ในสภาพอันแท้จริงเราไม่ได้นอนและร่างกายก็เมื่อยล้า
แล้วเดินทางต่อจากสุไหงโกลกวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๔๔ เวลา ๑๐.๓๐ น. ถึงกรุงเทพฯ เวลาตี
๓ ในวันรุ่งขึ้น
เราถึงวัดอัมพวันในวันที่
๘ เมษายน ๒๕๔๔ ตอนบ่าย
ประสบการณ์ระหว่างปฏิบัติ
วันที่ ๑ (๘ เมษายน ๒๕๔๔)
เราได้รับการอธิบายวิธีปฏิบัติในวัดอัมพวันอย่างย่อ
ๆ ตอนกลางคืน
วันที่ ๒ (๙ เมษายน ๒๕๔๔)
ระหว่างปฏิบัติอยู่ข้าพเจ้าได้ประสบการณ์คือ
การปวดในร่างกาย
ช่วงขณะปฏิบัติตอนเช้า
ข้าพเจ้ามีนิมิตเห็นคุณเอ๊ค เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่มีผ้าพันแผลที่แขนขวา
ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่แน่ใจวาอันนี้คือจริงหรือฝัน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงออกจากนิมิต
ช่วงพักข้าพเจ้าเล่าสิ่งที่ได้เห็นในนิมิตให้คุณเอ๊คฟัง
และคุณเอ๊คยืนยันว่าที่ข้าพเจ้าเห็นในนิมิตนี้เป็นจริง จากการยืนยันนี้
ข้าพเจ้ามองเห็นว่าวิธีการปฏิบัติอันนี้ที่สอนที่นี่คือบางสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังตามหาอยู่ในชีวิต
ที่สอนเราให้ได้ประสบการณ์ในตัวเองในโลก ถ้าขาดสติเราจะกระทำผิดพลาดเยอะ
การสั่งสอนในสำนักนี้คือสอนให้เราเตรียมวิธีการแก้ทุกข์
และจะหมดทุกข์ที่เราเคยทำผิดมาก่อน ที่นี่สอนเราว่าทำอะไรให้มีสติ
วิธีการสอนที่นี่คือใช้ได้จริง และสอนให้เราแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ไม่ใช่คอยให้คนอื่นมาแก้ให้เรา
เมื่อมีปัญหาในชีวิต
คนทั่วไปชอบขอความช่วยเหลือและรอปาฏิหาริย์จากภายนอก
ในที่สุดกลับมีปัญหามากขึ้นหรือเกิดความไม่พอใจขึ้น เมื่อนั้นจิตเราจะกลายเป็นหมดหวังหรือไม่สงบ
และอาจจะผิดพลาดต่อไปอีกโดยไม่รู้ตัว ปกติคนเราชอบเข้าข้างตัวเองและปฏิเสธการรับรู้เหตุผลทุกชนิด
ซึ่งความคิดเหล่านั้นผิดและเป็นอันตราย
โปรดอย่าหลอดตัวเองต่อไปอีกเลย
และจงไปปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนในวัดอัมพวันโดยไม่เสียเวลาต่อไป
ข้าพเจ้าถือโอกาสนี้แสดงความระลึกถึงพระคุณหลวงพ่อที่มีความเมตตาสั่งสอนพระธรรมอันยิ่งใหญ่แก่คนทั้งหลาย
วันที่ ๓ (๑๐ เมษายน ๒๕๔๔)
ระหว่างปฏิบัติช่วงเช้า
ข้าพเจ้ามองเห็นว่าจิตซึ่งเคลื่อนที่เกิดดับเกิดดับไวมาก ตลอดช่วยปฏิบัติอยู่
ถ้าหากว่าไม่มีสติช่วยควบคุมจิตจะเป็นอันตรายมาก
ข้าพเจ้าก็มองเห็นว่าเราสามารถควบคุมจิตได้ด้วยการตั้งสติ
แล้วจิตเราจะมีบ้านที่อยู่ได้อย่างสงบ และขัดเกลาจิตได้
เมื่อนาฬิกาบอกหมดเวลา
จริง ๆ แล้วข้าพเจ้ายังไม่อยากออกจากศาลาปฏิบัติธรรมเลย
ช่วงเวลาปฏิบัติจากบ่ายถึงค่ำ
ข้าพเจ้าได้ประสบการณ์มีเวทนาปวดมากมาย และมีอารมณ์ที่รบกวนจิตใจข้าพเจ้ามาก
จนข้าพเจ้าเกือบยอมแพ้ เวลาที่กำหนดเวทนาปวดอยู่
ข้าพเจ้าระลึกได้ถึงบางสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในอดีต ทำให้ทรมานและอาจจะสิ้นชีวิต
ข้าพเจ้าก็ระลึกได้ คุณพ่อของข้าพเจ้าเคยปวดมากก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
ข้าพเจ้าเคยร้องไห้เวลาที่เห็นคุณพ่อปวดแบบทรมานมาก เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยท่านอย่างไร
ถ้าหากว่าข้าพเจ้าเคยเรียนวิชาปฏิบัติจากหลวงพ่อจรัญ
ข้าพเจ้าอาจจะช่วยให้คุณพ่อคลายความปวดให้เบาลงได้หรือไม่ก็หายปวดได้ทันที
ข้าพเจ้าอยากกล่าวว่าที่ข้าพเจ้าได้ประสบการณ์ในตอนเช้ากับตอนเย็นช่วงปฏิบัติธรรมอยู่นั้นแตกต่างกันอย่าง
วันที่ ๔ (๑๑ เมษายน ๒๕๔๔)
ระหว่างนั่งสมาธิอยู่ข้าพเจ้ามีนิมิตเห็นสัตว์ตัวหนึ่ง
อ้าปากขออาหารจากข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าแนะนำให้สัตว์ตัวนี้ให้กินสิ่งที่ไม่มีชีวิตเป็นอาหาร
สัตว์ตัวนี้กลับรู้สึกโกรธและต่อว่าข้าพเจ้า ขอกว่าข้าพเจ้ารู้จักแต่สั่งสอนแต่ไม่ปฏิบัติเอง
แล้วมีอะไรบางอย่างที่บอกว่า สัตว์ตัวนี้คือข้าพเจ้าในอดีต
ที่เคยฆ่าชีวิตมากมายเป็นอาหาร ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีว่าข้าพเจ้าต้องให้อภัยคนอื่น
ไม่ว่าเขาจะเคยทำร้ายอะไรเรา สิ่งที่เคยเกิดขึ้นแก่ตนเอง เช่นอดีตข้าพเจ้าเคยฆ่าสัตว์มีชีวิตเป็นอาหาร
แต่สัตว์มีชีวิตนี้ยังอภัยให้แก่ข้าพเจ้าได้ ขณะนั้นข้าพเจ้าปฏิญาณว่า
ข้าพเจ้าจะเผยแพร่คำสั่งสอนของหลวงพ่อจรัญทันทีที่ทำได้
ข้าพเจ้าขอแสดงความกตัญญูและเคารพอย่างสูงต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อจรัญ
และลูกศิษย์ที่ช่วยเผยแพร่ธรรมคำสั่งสอนที่มีค่ามาก
วันที่ ๕ (๑๒ เมษายน ๒๕๔๔)
ได้ปฏิบัติช่วงเช้าเท่านั้น
เพราะเราต้องเตรียมตัวเดินทางกลับตอนบ่าย
ตอนที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งสมาธิ
มีวิญญาณมามากและยังมีอยู่ในศาลาปฏิบัติธรรมอีกเยอะ ข้าพเจ้าได้แผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้แก่เขาทั้งหลาย
หลังจากนั่งสมาธิ ข้าพเจ้าเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายนี้ยังอยากเรียนกรรมฐานด้วย
ระหว่างปฏิบัติอยู่นั้นข้าพเจ้าประจักษ์ว่า
ตัณหาเป็นอันตรายมากหากเราขาดสติ
ถ้าเราแพ้ตัณหาเราจะทำผิดและทำชั่วโดยไม่เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริง
อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือสร้างความทุกข์แก่ผู้อื่นได้
จากการทำตามความต้องการของเรา
เพียงเท่านี้จากข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอร้องท่านทั้งหลายสักอีกครั้งว่า
โปรดอย่าเสียเวลาด้วยการกระทำสิ่งที่ไม่ได้ทำให้พ้นทุกข์และไม่อาจสำเร็จมรรคผล
นอกจากท่านจะชอบสนุกอยู่กับความทุกข์ในโลกนี้
กรุณาไปวัดอัมพวัน
สิงห์บุรี และใช้เวลาฝึกวิธีการปฏิบัติกรรมฐานที่ใช้ได้จริงและมีค่ามาก
ซึ่งท่านจะพบว่ามีคุณค่าจริง
วัดอยู่ไม่ไกลเลย
เดินทางไปได้โดยสะดวก โดยเฉพาะคนที่อยู่ใกล้หรืออยู่ในประเทศไทยเอง
ขอให้ท่านทั้งหลายจงมีความสุข
พ้นจากความทุกข์ และสามารถป้องกันตนจากอันตรายใด ๆ
ขอให้ปราศจากศัตรูและการมุ่งร้ายเถิด
ผู้แปล แม่ชีซูง้อ
แซ่เอ็ง
ธานินทร์
มหาธนประทีป