ความมหัศจรรย์ของการสวดพุทธคุณ

โดย... นางชลธิชา   ชาญวิชา

R17012

            ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอัมพวัน  ด้วยเมตตาบารมีของหลวงพ่อ  ดลบันดาลให้ครอบครัวของข้าพเจ้า ต้องมาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน

            ข้าพเจ้าชื่อ  นางชลธิชา  ชาญวิชา  สามีของข้าพเจ้า ชื่อ นายสมศักดิ์  ชาญวิชา  สามีของข้าพเจ้าทำงานอยู่การรถไฟแห่งประเทศไทย  ตำแหน่งผู้ช่วยนายสถานีรถไฟลพบุรี

            มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับครอบครัวของข้าพเจ้าหลังจากก้าวแรก ที่ข้าพเจ้าเดินเข้ามาในวัดอัมพวัน เป็นเวลาเกือบ    ปี  ที่แล้ว  ซึ่งตอนนั้นสามีของข้าพเจ้ายังไม่ได้ย้ายมารับตำแหน่งผู้ช่วยนายสถานีลพบุรี  ข้าพเจ้าและครอบครัวได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมวัดอัมพวัน  โดยบังเอิญแต่ไม่ได้เจอหลวงพ่อ เพียงแต่ได้เดินชมรอบๆ  วัด และไปเจอร้านหนังสือเห็นรูปหลวงพ่อจรัญ  และหนังสือ สวดมนต์เล่มเล็กๆ  เขียนไว้ว่า  “อานิสงส์ ของการสวดพระพุทธคุณ”  สามีของข้าพเจ้าก็หยิบติดมือมาประมาณ  ๓-๔ เล่ม  หลังจากนั้นสามีของข้าพเจ้าก็นำมาเปิดอ่านและปฏิบัติตามหนังสือก่อนนอน และตอนเช้าก่อนไปทำงานทุกวัน สำหรับข้าพเจ้าก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแต่รับรู้ว่าสามีของข้าพเจ้าบ่นพึมพำอะไรทุกๆ เช้า  เป็นภาษาบาลี  ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่เข้าใจ และต่อมาก็ได้มีโอกาส ไปวัดอัมพวัน อีกหลายๆ ครั้ง  แต่ไม่เคยพบหลวงพ่อ เพียงแต่ได้ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์  ในวัดอัมพวันเท่านั้น  แต่ทั้งสองแห่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ไปกราบ คือ องค์พระประธานในโบสถ์  และหลวงพ่อเทพนิมิต  ซึ่งข้าพเจ้าเดินไม่ทั่วและไม่ทราบว่าองค์หลวงพ่อเทพนิมิต  ประดิษฐานอยู่ที่ไหน  สำหรับองค์พระประธานในโบสถ์ นั้น  ข้าพเจ้าเข้ามาในวัดอัมพวันทีไร เผอิญ โบสถ์ไม่เปิดสักครั้งเลย ไม่มีโอกาสเข้าไปกราบพระองค์ท่าน   นี่คือเรื่องราว และแรงบันดาลใจที่ข้าพเจ้าต้องเขียนมาลงในธรรมปฏิบัติ

            หลังจากที่สามีของข้าพเจ้าสวดพาหุงมหากา พร้อมด้วยอิติปิโส  เท่าอายุ บวกหนึ่ง  มาตลอด เช้า-เย็น  ตลอดระยะเวลาเกือบ    ปี  อานิสงส์ ของการสวดพาหุงมหากา ก็ดลบันดาล ให้สามีของข้าพเจ้าได้เลื่อนตำแหน่ง และย้ายที่ทำงานมาเป็นผู้ช่วยนายสถานีรถไฟ ลพบุรี  หลังจากนั้นอีกไม่ถึงปี  มีแต่ความเจริญในหน้าที่การงานเป็นที่รัก และไว้ใจของผู้บังคับบัญชา  ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับ ๗  ผ่านการพิจารณาเงินเดือน ขั้นครึ่ง และสิ่งที่ครอบครัวเราภูมิใจที่สุด คือ สามีของข้าพเจ้า ได้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงานดีเด่น(ชมเชย)  ของการรถไฟแห่งประเทศไทย  เป็นเพราะอานิสงส์แห่งการสวดพระพุทธคุณพาหุงมหากา และเมตตาบารมี ของหลวงพ่อจรัญโดยแน่แท้  ที่ทำให้สามีของข้าพเจ้ามีแต่ความเจริญ  ในหน้าที่การงาน  ทำให้ข้าพเจ้า ซึ่งไม่เคยสวดมนต์เลย  ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะต้องสวดพาหุงมหากาให้ได้   จนวันหนึ่งประสบความสำเร็จ  ข้าพเจ้าจำบทสวดมนต์ได้ โดยที่ไม่ต้องดูหนังสือเลย และก็สวดเรื่อยมาพร้อมทั้งสามี ของข้าพเจ้าและนอกจากนั้น ก็ยังได้สอนให้ลูกสาวของข้าพเจ้าซึ่งอายุเพียง ๘  ขวบ  สวดพาหุงมหากา ได้อย่างแม่นยำ  และต่อมาข้าพเจ้า ก็ได้มีโอกาสได้ไปวัดอัมพวันอีกครั้ง  วันนี้รู้สึกเป็นบุญของข้าพเจ้าอย่างสุดซึ้งที่ได้มีโอกาสได้ทราบหลวงพ่อข้าพเจ้าเดินเข้าไปโดยบังเอิญ  เห็นท่านกำลังเทศน์ให้ญาติโยมฟังอยู่ที่กุฏิหลังเก่าท่านเงยหน้าขึ้นมามองข้าพเจ้าเล็กน้อย แต่ความรู้สึกที่ข้าพเจ้าได้รับมีความรู้สึกปลื้มปิติ  เยือกเย็น และอิ่มบุญอย่างบอกไม่ถูก

            หลังจากนั้นข้าพเจ้าจะมาวัดอัมพวันบ่อยๆ  ถ้ามีเวลาและโอกาส พร้อมทั้งไม่ลืมสวดมนต์ถ้ามีเวลาพอ

            มีอยู่คืนหนึ่งตรงกับวันที่ ๑๔ สิงหาคม  พ.ศ.๒๕๔๕   ซึ่งรุ่งเช้าจะเป็นวันเกิดของหลวงพ่อ หลังจากที่ข้าพเจ้าไหว้พระสวดมนต์เสร็จแล้วข้าพเจ้ามีอาการนอนไม่หลับกระสับกระส่าย และในขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้น  ในมโนภาพของข้าพเจ้าเหมือนไม่ได้ฝัน แต่นอนหลับตาในความมืด  ข้าพเจ้าได้นิมิตเห็นพระประธานในโบสถ์ วัดอัมพวัน สีเหลืองอร่าม ตรงกลางองค์พระมีแสงสว่างส่องมาที่ตัวของข้าพเจ้า ในขณะเดียวกันก็มีภาพพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายทำด้วยศิลาสมัยโบราณมีแต่เศียร ผุดขึ้นมาจากองค์พระประธานที่มีแสงสว่างมาที่ตัวของข้าพเจ้า รู้สึกเย็นวาบและต่อมาข้าพเจ้าเห็นบทสวดมนต์พาหุงมหากาลอยขึ้นมาตรงหน้าพร้อมภาพของ    หลวงพ่อจรัญ  แล้วพลันหายไป ตื่นขึ้นมาถามตัวเองว่าหลับไปหรือเปล่า

            รุ่งเช้าตรงกับวันที่  ๑๕  สิงหาคม  ๒๕๔๕   ซึ่งตรงกับวันเกิดของหลวงพ่อ ตอนเช้าข้าพเจ้าติดธุระจึงไม่มีโอกาส ไปร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ  มาถึงที่วัด ก็บ่ายสามโมง  ซึ่งไม่เจอหลวงพ่อแล้ว  จึงได้มีโอกาสเข้าไปกราบองค์พระประธานในโบสถ์ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้า หรือไม่องค์พระประธานในโบสถ์นั้น  ใช่เลย  เหมือนที่ข้าพเจ้านิมิตเห็นเมื่อคืน  ทั้งๆ  ที่เข้ามาในวัดหลายครั้งแต่ไม่มีโอกาสเข้ามากราบองค์ท่าน  ความปลื้มปิติเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเป็นบุญเหลือเกินเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อจรัญโดยแท้ที่นำพาลูกมาเจอพระพุทธศาสนา  ปาวารนาตนว่าจะชนะคนด้วยความดี  และเดินไปในทางที่ถูกต้องสิ่งไหนที่เคยทำผิดพลาดมาอาจจะรู้บ้างไม่รู้บ้างข้าพเจ้าอยากชดใช้กรรม และจะทำแต่ความดีต่อไป

            เช้าวันรุ่งขึ้นข้าพเจ้ามาวัดอัมพวัน  แต่เช้าตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ได้พบหลวงพ่อและได้มีโอกาสเล่าความฝันให้หลวงพ่อฟังว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าพบเจอมานั้น คืออะไร เป็นจริง ดั่งความตั้งใจ  ข้าพเจ้าได้มีโอกาส กราบนมัสการอยู่เบื้องหน้าหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด และเล่าความฝันให้ท่านฟัง  ท่านมีเมตตาตอบว่า  ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าฟุ้งซ่านไป เพราะความเมตตาที่เรามีและอานิสงส์ของการสวดพาหุงมหากา  บ้านไหนที่มีแต่เมตตาแสงสว่างแห่งปัญญาก็จะไปลงที่บ้านนั้น  เป็นความซาบซึ้งใจอย่างเหลือเกิน หลวงพ่อให้ข้อคิดทางธรรมไว้หลายเรื่องพร้อมทั้งแนะนำให้ข้าพเจ้ามารับพระกรรมฐาน แล้วชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง  ข้าพเจ้ารับคำพร้อมนำมาปฏิบัติ  หลังจากนั้นอีก    อาทิตย์  ข้าพเจ้าตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ตัดทุกสิ่งทุกอย่างจากทางบ้านเพื่อมาขอรับพระกรรมฐานในวันที่  ๓๑  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๔๕

            ในขณะปฏิบัติธรรมเป็นเวลา    วัน  ข้าพเจ้าได้บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดพร้อมทั้งแม่ใหญ่ และเทพกาหลง และบารมีของหลวงพ่อจงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าซึ่งมีความศรัทธา และตั้งมั่น เอาพระศรีรัตนตรัยเป็นที่ยึดเหนี่ยวขอให้ข้าพเจ้าจงมีสติและเกิดแสงสว่างทางปัญญาด้วยเถิด

            อานิสงส์ของความตั้งใจจริงข้าพเจ้าปฏิบัติธรรมได้  อยู่ได้   ไม่เหนื่อย  ไม่หิว  ไม่ง่วง  ทั้งๆ  ที่ไม่เคยอดข้าวเย็น   ไม่เคยนอนตื่นเช้า  ยิ่งกว่านั้น    คืนข้าพเจ้าไม่ได้หลับเลยเพราะอาจจะแปลกที่ทำให้นอนไม่หลับ  แต่ก็แปลก ที่ไม่มีอาการเหนื่อย  หรือ ง่วงแม้แต่เพียงนิดเดียว  เป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอัมพวัน เป็นแน่แท้ ที่ทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์ พระกรรมฐานของหลวงพ่อจรัญ คนหนึ่งได้โดยที่ไม่มีอุปสรรคอันใดเลย

            ผลของการปฏิบัติธรรมข้าพเจ้า ไม่หวังอะไรมากไปกว่าการเป็นคนดีมีศีลธรรม  คือ การทำบุญอันยิ่งใหญ่  ซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถนำมาเอ่ย ในที่นี้ได้  เพราะ “รู้ได้เฉพาะตน”ของผู้ปฏิบัติดี และปฏิบัติชอบเท่านั้น ข้าพเจ้ารู้เพียงว่าออกจากวัดในครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะพยายามทำแต่ความดีเท่านั้น

            หลังจากที่ข้าพเจ้ารับพระกรรมฐาน วันหนึ่งข้าพเจ้าเผอิญ ได้มีโอกาสเข้าไปร้าน “วรทัศน์” ที่ลพบุรี เพื่อที่จะไปซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น สำหรับบ้านหลังใหม่ที่เราสองคนสร้างมาด้วยแรงกาย และแรงใจ ด้วยอานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม ทำให้เราเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมีหลักฐานที่มั่นคง มีความเข้มแข็งทางด้านจิตใจ ทำให้เรามีพลังที่ต่อสู้กับปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ข้าพเจ้าได้เจอกับคุณลุง นิพนธ์   นันทพงษ์ ซึ่งเป็นเข้าของร้าน ข้าพเจ้าเหลือบไปเห็น หนังสือสวดมนต์พาหุง มหากาที่โต๊ะก็เลยถามคุณลุงว่าเป็นศิษย์ของหลวงพ่อจรัญ หรือ คุณลุงตอบว่าใช่ ข้าพเจ้าก็เลยถือโอกาสคุย เรื่องข้าพเจ้าได้เข้าไปปฏิบัติธรรม  และฝันเห็นหลวงพ่อพระพุทธรูปที่มีแต่เศียร  คุณลุงจึงเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟังว่า คุณลุงเคยไปสร้างหลวงพ่อเทพนิมิตไว้ที่วัดอัมพวัน  คุณลุงนิพนธ์จึงได้แนะนำภรรยาของคุณลุง คือ คุณป้าอุ่นเรือน ให้ได้รู้จัก และหลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณป้า อุ่นเรือน  มีความรู้สึกว่า อบอุ่นมาก  คุณป้าจะคุยเรื่องหลวงพ่อให้ฟัง  ซึ่งข้าพเจ้าก็ชอบฟัง ไม่มีวันเบื่อ  และศรัทธาในตัวของหลวงพ่อยิ่งๆ  ขึ้นไป  และพร้อมกันนี้คุณป้ายังแนะนำให้ข้าพเจ้ารู้จักญาติทางธรรมอีกคนหนึ่งชื่อ คุณป้าเสนอ  ซึ่งคุณป้าเสนอจะเป็นคนใจดีมาก ทุกครั้งที่เจอคุณป้าเสนอ  คุณป้าจะแนะนำในทางที่ดีๆ  และให้ความสะดวกทุกอย่าง ในขณะที่ข้าพเจ้ามาภายในวัด ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นใจอย่างสุดซึ้งที่เจอกับกัลยาณมิตรที่ดีๆ  ที่เป็นเพราะเมตตาบารมีของหลวงพ่อจรัญ ดลบันดาลมาให้เจอ  นี่คือผลของการปฏิบัติธรรมจะพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ  ในชีวิต ประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงาน เจอกัลยาณมิตรที่ดีๆ

            สุดท้ายนี้ลูกขออาราธนา คุณพระศรีรัตนตรัย จงปกป้อง คุ้มครองหลวงพ่อจรัญ  ให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้มีอายุยืนยาวนาน อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชน  ทั้งทางโลก และทางธรรมทั้งหลาย  ตลอดกาลนาน

            ลูกซาบซึ้งในความมีเมตตาบารมีทานของหลวงพ่ออย่าง สุดซึ้งให้ลูกชนะคนด้วยความดี เดินไปในทางที่ถูกต้องตามที่ลูกเคยตั้งจิตอธิษฐาน  และนำพาให้ลูกมาเจอพระพุทธศาสนา และเกิดแสงสว่าง แห่งปัญญาจนไม่สามารถจะลืมเลือนได้  เลยในชาตินี้...

 

นางชลธิชา   ชาญวิชา