สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่วัดอัมพวัน

สำเริง องอาจ

R7021

 

        เมื่อวันที่ ๑๐ – ๑๗ ตุลาคม ๒๕๓๕ ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้ากรรมฐานที่วัดอัมพวัน พระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ) ท่านเป็นเจ้าอาวาส มีผู้ร่วมเข้าพิธีในครั้งนี้ประมาณ ๒๐๐ คน เพราะวันที่ ๑๔ ตุลาคม ของทุก ๆ ปี จะครบรอบวันมรณภาพของหลวงพ่อเมื่อคราวที่รถคว่ำคอหัก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ก็จะมีผู้มาร่วมปฏิบัติธรรมกันระหว่างวันสำคัญนี้มาก ดิฉันได้อยู่ที่วัดอัมพวัน ๗ คืน สำหรับตัวดิฉันเองได้พยายามปฏิบัติตัวเคร่งครัดต่อข้อห้ามและกฎระเบียบของวัดตลอดจนปฏิบัติกรรมฐาน เพราะดิฉันระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่ออยู่เสมอ รับประทานอาหารทุกมื้อ อาบน้ำทุกครั้งก็นึกถึงพระคุณของพระราชสุทธิญาณมงคล

            ที่หอประชุม จะมีรูปหล่อท่านพ่อ ร.๕ เวลาเดินผ่านทุกคนทำความเคารพด้วยการไหว้ วันแรก ๆ ที่ดิฉันไปถึง ดิฉันก็จะไหว้หมดทุกที่ อยู่มาได้ ๓-๔ วัน มีเพื่อนร่วมปฏิบัติด้วยกันพูดให้ฟังว่า ช้างที่พวกเราไหว้กันนั้นทำมาจากโฟม เมื่อดิฉันทราบว่าทำมาจากโฟมเลยไม่ค่อยจะศรัทธา เวลาเดินผ่านก็ไม่ได้ไหว้เหมือนวันแรก ๆ พอตกคืนวันนั้นดิฉันได้ลงมาปฏิบัติธรรมเช่นทุก ๆ วัน ที่หอประชุมภาวนา-กรศรีทิพา พร้อมกับผู้ปฏิบัติธรรทั้งหมด ตั้งแต่ตีสี่ ถึงหกโมงเช้า เริ่มจากเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง และต่อด้วยการนั่งสมาธิ ๑ ชั่วโมง ขณะที่ดิฉันนั่งอยู่นั้น พอจิตสงบเป็นสมาธิก็เกิดนิมิตเห็นช้างตัวใหญ่ในโรงช้างนั้น วิ่งเหยาะ ๆ ออกมาจากโรงช้างวิ่งมาข้างโบสถ์ พร้อมกับมีลูกช้างอีก ๒ ตัววิ่งคลอเคลียมาด้วยแล้วเลี้ยวตรงมุมโบสถ์ที่ใกล้กับหอประชุมภาวนา-กรศรีทิพา ในนิมิตนั้นดิฉันเห็นชัดเจนมากจนเหมือนจริง ดิฉันยังเหลียวซ้ายมองตามไปจนลับตา ดิฉันก็รู้ตัวทันทีว่าช้างตัวที่ดิฉันนึกไม่ศรัทธาในวันก่อนนั้นได้มาแสดงปาฏิหาริย์ให้ดิฉันเห็นทันทีที่ดิฉันไม่ได้ทำความเคารพเวลาเดินผ่านเหมือนเช่นวันก่อน ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดิฉันได้เข้าไปกราบไหว้เมื่อมีโอกาส เวลาเดินผ่านก็จะไหว้ทุกครั้ง ด้วยความสนิทใจและศรัทธาอย่างแรงกล้า เชื่อแน่ว่าต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ในช้างนั้นอย่างแน่นอน

รอดตายปาฏิหาริย์

            เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ ข้าพเจ้าและคณะรวม ๑๑ คนได้ไปธุระที่วัดท่าซุง ขากลับได้แวะนมัสการหลวงพ่อที่วัดอัมพวัน ปรากฏว่าท่านไม่อยู่ พวกเราก็นั่งรอจนสองทุ่มท่านจึงกลับ ดูท่าทางท่านเหนื่อยและไอมาก พวกเราไม่ต้องการรบกวนท่าน จึงพากันลากลับ แต่ท่านได้ชักชวนคุยเหมือนจะประวิงเวลาไว้ และยังได้บอกให้ค้างที่วัด ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำยาหม่องมาแจกให้ทุกคน และบอกว่าเป็นยาหม่องที่ท่านเสกแล้ว

            ปรากฏว่าเมื่อรถวิ่งมาเกือบถึง อ.สามโคก ก็พลิกคว่ำลงข้างถนนเพราะถนนลื่น รถเสียหายมาก แต่คนในรถไม่มีใครเจ็บมาก นอกจากปวด บวม เคล็ดขัดยอกไปตาม ๆ กัน รถสิบล้อที่วิ่งตามมาได้ลงมาช่วยเหลือ คนขับรถสิบล้อบอกว่าเห็นรถเราวิ่งส่ายไปส่ายมาแต่ไกลแล้ว จึงได้จอดลงมาช่วยได้ทันที เมื่อทุกคนขึ้นนั่งบนรถสิบล้อ ต่างก็นึกถึงยาหม่องของหลวงพ่อ และเข้าใจว่าเหตุใดท่านพยายามหน่วงเหนี่ยวพวกเรา และขอให้นอนค้างเสียที่วัด

            ต่อมาตำรวจอำเภอสามโคก ไปดูสถานที่เกิดเหตุ เห็นสภาพรถแล้วไม่ยอมเชื่อว่าไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ เป็นเพราะหลวงพ่อท่านมีเมตตากับพวกเรามาก จึงได้พากันรอดตายอย่างปาฏิหาริย์

ที่อยู่ ๖๑/๒ หมู่ ๖ ต.เกาะเกร็ด

อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

 

----------- จบ -----------