กรรมใดใครก่อ...กรรมนั้นต้องตอบสนอง
เกวลี
เตรียมแจ้งอรุณ
R9008
เมื่อวันที่ ๑๘
มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ผลจากการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ก้อนหน้าอกด้านซ้ายของสามี
คุณหมออุดม หะริกสูตร ได้เรียกดิฉันและน้องชายสามีที่เป็นหมอ ไปปรึกษาว่า
จากการคาดคะเนคาดว่าจะเป็นมะเร็งกระดูกอ่อนระยะร้ายแรง
ซึ่งถ้าเป็นดังคาดน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน ๖ เดือน และในเช้าวันจันทร์
จะผ่าชิ้นเนื้อพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร
ขณะนั้นดิฉันกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนครึ่ง
ต้องฟุบทั้งยืน ทั้ง ๆ ที่ทำใจรับข่าวร้ายพอนัย ๆ จากทางบ้านบ้างแล้ว เพราะด้วยอายุ
๓๗ ปี เขาจะต้องจากเรา และลูกชายวัย ๕ ขวบเศษไปแล้วหรือ
สามีของดิฉันก็เฝ้าถามด้วยความสงสัย ดิฉันพยายามบ่ายเบี่ยง แต่เหมือนเขารู้ตัว
เอามือมาลูบท้อง บอกลูกเอ๋ยพ่อจะมีวาสนาอยู่กับหนูหรือเปล่า
ด้วยความเสียใจ
สับสน ว้าวุ่นมารุม น้องเขยของดิฉันก็ได้นำ หนังสือกฎแห่งกรรมของหลวงพ่อจรัญ มาให้ดิฉันอ่าน
เป็นเหตุให้ดิฉันต้องนั่งทบทวนว่ากรรมอันใดหนอแต่ในอดีตที่ทำให้เราต้องมาประสบเคราะห์กรรมร้ายแรงสาหัสถึงเพียงนี้
ทำให้ดิฉันระลึกถึงเรื่องราวเมื่อดิฉันไปเที่ยวที่เกาะน้อยรีสอร์ทกับเพื่อน ๆ
ที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้พบกับวิญญาณชายกลางคนผมเกรียนสั้น
หน้าตาหม่นหมองแต่ดูดุดันมีหนวดเล็กน้อย สูงประมาณ ๑๗๐ ซม. รูปร่างสันทัด
ใส่เสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้น ท่าทางดูทรุดโทรม
ได้เข้ามาเยาะเย้ยและพยายามเข้ามาที่ร่าง ดิฉันได้พยายามต่อสู้อย่างเต็มที่
จะมีร่องรอยการต่อสู้ปรากฏให้เห็นเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า
และพอตกกลางคืนเขาก็มาเข้าฝัน และเล่าเรื่องราวในอดีต ที่ดิฉันและสามี สั่งคนรุมทำร้ายเขาจนตาย
ในฝันดิฉันเห็นสามีกับดิฉันและบุตรชายนั่งอยู่ในรถเก๋งสมัยเก่ามากคันหนึ่ง
สั่งให้คนกลุ่มหนึ่งไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงสามส่วนคล้ายกางเกงจีนสีดำ
มีผ้าแดงเป็นเข็มขัดรัดเอว ไม่สวมรองเท้า ดุลักษณะแล้วเหมือนพวกทาสหรือนักโทษ
เป็นผู้รุมประชาทัณฑ์จนเขาตายจมกองเลือด ซึ่งเมื่อตื่นขึ้นมาทำให้ดิฉันมีความหวาดกลัวมาก
และคิดไปว่าคงเป็นเพราะเราทำบุญสุนทานไปให้เขากระมัง เขาถึงได้ตามมาทวงชีวิต
ภายหลังคุณแม่ของดิฉันได้อธิษฐานจิต
ขอชีวิตเขาโดยขอบวชเนกขัมมะปิดวาจาเป็นเวลา ๑ เดือน และดิฉันเองก็ตั้งสัจจะจะกินเจและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ตลอดชีวิต
เมื่อผลการผ่าตัดวิเคราะห์ออกมา ก็ปรากฏว่าสามีของดิฉันไม่ได้เป็นเนื้อร้าย
แต่เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ ทำให้ฉันและคุณแม่น้ำตาไหลด้วยความดีใจ
เมื่อทราบผลแต่ผลกรรมก็ยังทำให้ดิฉันต้องเสียลูกที่อยู่ในท้อง คือดิฉันต้องแท้งลูกของดิฉันไปแทน
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ฉันเริ่มสนใจในคำสอนของหลวงพ่อจรัญ
จากากรที่ได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรมจำนวนหลายเล่ม
เพราะสิ่งลี้ลับที่เราไม่สามารถให้คำตอบตัวเองได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ได้เริ่มค้นพบจากคำสอนและประสบการณ์จากชีวิตจริงของหลวงพ่อที่บันทึกไว้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่พวกเรา
ทำให้ดิฉันเริ่มสนใจที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
จนกระทั่งดิฉันตามคุณแม่ไปปิดวาจาที่เกาะมหามงคล
คืนหนึ่งขณะที่ดิฉันนั่งกรรมฐานตามวิธีการที่หลวงพ่อได้ให้ความรู้ไว้ในหนังสือกฎแห่งกรรม
เมื่อดิฉันนั่งกำหนดพองหนอ ยุบหนอ ดิฉันเริ่มปวดขมับเหมือนมีใครเอาเหล็กมาบีบทั้งสองข้าง
จากนั้นเริ่มปวดจากปลายแขน ขา มุ่งเข้าสู่ลำตัว
มันปวดมากทรมานมากเหมือนมีใครมาบีบขมับ ดิฉันตกใจด้วยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ก็พยายามตั้งสติไว้ เพราะหลวงพ่อสอนไว้ว่า ถ้ามีอาการเช่นนี้ขึ้นมาให้ตั้งสติให้ดี
และพยายามสู้กับเวทนา ให้ตายเป็นตาย เพราะถ้าจะตายก็ขอตายด้วยมีสติ
ตายด้วยกรรมฐานถือว่าเป็นบุญ แต่ก็ไม่มีใครตาย
เมื่อจิตตั้งมั่นอยู่กับความเจ็บปวด
ก็เริ่มรู้สึกร้อนเหมือนมีไฟมาเผาเราทั้งตัว ปวดแสบปวดร้อนไปหมด ทั้ง ๆ
ที่อากาศรอบนอกหนาวเย็นจากสายฝน
ในที่สุดเมื่อเหตุการณ์นี้ผ่านไป
รุ่งเช้ารู้สึกเจ็บคอเหมือนมีใครเอามีดมาบาด พูดออกมาก็จะเจ็บปวดทรมาน
จนกระทั่งในช่วงต่อมาขณะกำลังกรรมฐานอยู่ก็ปรากฏเห็นเป็นนิมิตคล้วยกับว่าเรากำลังดูภาพยนตร์อยู่
เห็นเป็นภาพสาวแขกในชุดสีแดงและแขกหนุ่ม กำลังทำฟาร์มปศุสัตว์
ได้นำสัตว์มาใช้แรงงานหนักมาก โดยเฉพาะม้าใหญ่ตัวหนึ่งถูกใช้ให้ทำงานหนัก
ให้วิ่งอยู่กับที่ตลอด แล้วนำแรงงานของมันไปหมุนวงล้อไม้ ที่คล้ายล้อเกวียนแต่เล็กกว่า
เหนือวงล้อเป็นถังไม้สมัยเก่ามีผลไม้บรรจุอยู่เต็ม รู้แต่ว่าเป็นขบวนการนำผลไม้ไปเก็บหรือเอาไปไหนสักแห่ง
ปรากฏภาพว่าพยายามดึงเน้นมาให้เราเห็นที่ คอม้าซึ่งเสียดสีกับเชือกตลอดการทำงานจนเป็นแผลบาดลึก
มีเลือดไหลซิบ ๆ จากบาดแผลทั่วคอ โดยไม่ได้รับการดูแลรักษา จากผลกรรมนี้ ทำให้ดิฉันต้องใช้เวลาในการรักษาตัวเองที่เป็น
ๆ หาย ๆ ทรมานอยู่เกือบ ๒ เดือน
หลังจากที่ได้เห็นภาพในอดีต
ทำให้ดิฉันเริ่มมีการชดใช้กรรม ความสำนึกผิดแห่งการทำดีทำชั่ว
และกฎแห่งกรรมที่ตามมาตอบสนองในชาตินี้ ทำให้เริ่มขยาดการทำชั่ว
และหมั่นหาหนทางปฏิบัติตามสายทางคำสอนของพระพุทธองค์
ต่อมาดิฉันและสามีได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน
โดยปิดกิจการที่ทำอยู่ชั่วคราว โดยสามีของดิฉันไปปฏิบัติ ๓ วัน ส่วนตัวดิฉันปฏิบัติ
๗ วัน
ซึ่งเจ็ดวันแห่งการตั้งใจจริง
ทำให้ดิฉันและครอบครัวเห็นผลทันตา คือในระยะที่เข้าฝึกซึ่งตรงกับวันที่ ๑๐-๑๗
มีนาคม ๒๕๓๘ ดิฉันมีอาการเลือดไหลกะปริบกะปรอยจากการที่ต้องแท้งลูกคนที่สอง
โดยคุณหมอบอกว่าน่าจะมีเศษรกติดอยู่นิดหน่อย คุณหมอนัดให้ไปหา
แต่ดิฉันมาขอทำกรรมฐานเพื่อแก้กรรมก่อน
คืนนั้นหลังจากสวดมนต์ตามปกติ
เวลาดึกเท่าไรไม่ทราบแน่ ดิฉันฝันเห็นลูกชายคนที่เพิ่งเสียชีวิตไปจากการแท้ง
ดิฉันฝันเห็นเขารูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าปกติที่เคยเห็นเขาในความฝันเมื่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ในท้อง
เขาเดินเข้ามาหาดิฉันและพาเพื่อน ๆ เป็นเด็กหญิงเด็กชายหลายคน แต่สภาพของแต่ละคนผอมแห้งซูบเซียวเหมือนคนอดอยาก
แต่งตัวมอมแมม ซึ่งผิดกับเขาที่อ้วนท้วนสมบูรณ์มีของกินอยู่ในมือ
และแต่งกายสะอาดสะอ้าน เขาพาเพื่อนมาอวดว่านี่แหละคือคุณแม่และคุณพ่อของเขา
และตอนนี้คุณแม่คุณพ่อมานั่งกรรมฐานทำให้เข้าได้รับส่วนบุญส่วนกุศลด้วย
และขอให้เขาและเพื่อน ๆ นั่งรถไปกับพ่อแม่ ในฝันดิฉันก็อนุญาตเขาไป
หลังจากนั้น ๓
วัน ประจำเดือนได้ทำให้เศษรกที่ติดค้างหลุดออกมาหมด ร่างกายก็กลับคืนสภาพสู่ความปกติ
ทำให้ดิฉันคิดไปว่า ลูกเขาคงให้อภัย ถึงทำให้เลือดที่ไหลมาเดือนกว่าหายไป
เพราะไม่เช่นนั้นดิฉันคงต้องไปเจ็บตัวกับการขูดมดลูกตามที่คุณหมอนัดไว้
ดิฉันปฏิบัติอย่างหนักจนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนลากลับบ้าน
ดิฉันก็รู้สึกปวดที่ข้อต่อระหว่างสะโพกกับขาท่อนบนเหมือนโดนหักขาขวา
ตลอดการทำกรรมฐานดิฉันต้องทุกข์ทรมานกับการเดินลากขามาก ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นเพราะการนั่งสมาธินานเกินไป
แต่มาคิดดูอีกทีก็ไม่ใช่เพราะดิฉันนั่งอยู่ที่บ้านเป็นปกติวันละ ๑ ชั่วโมงอยู่แล้ว
เมื่อดิฉันกลับมาบ้านก็คงปฏิบัติกรรมฐานเป็นปกติจนกระทั่งคืนที่สอง
ดิฉันก็เห็นนิมิตไปว่าเห็นผู้ชายลักษณะคล้ายนักโทษหรือทาส
ใส่กางเกงสามส่วนคล้ายกางเกงจีน คาดเอวด้วยผ้าแดงไม่ใส่เสื้อ ผู้ชายคนนี้ถูกมัดด้วยโซ่ตรวนอันใหญ่
เดินลากขากระเผลก ๆ เข้ามาหา ตอนนั้นดิฉันตกใจมาก กลัวเขามาทำร้าย
และเขาก็ให้เห็นภาพว่าเขามาจากสถานที่ที่ตัวเองเคยไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ
ที่เกาะน้อยรีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี
ทำให้ดิฉันคาดคะเนได้ว่าคงเป็นวิญญาณที่อาฆาตดิฉันอยู่ ดิฉันจึงแผ่เมตตาให้เขาไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องบางส่วนจากประสบการณ์ในชีวิตของดิฉัน
ซึ่งบางส่วนดิฉันไม่สามารถนำมาลงได้ เพราะมีเหตุผลสำคัญบางประการ
และเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
ดิฉันขอให้กุศลผลบุญที่จะได้จากการนำเรื่องนี้พิมพ์ลงเพื่อเผยแผ่เป็นวิทยาทาน
สอนคนให้รู้ในเรื่องของกฎความจริงที่ไม่มีใครหนีพ้น คือเรื่องของผลกรรมที่ตามสนอง
ดิฉันขอให้ท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด ที่ดิฉันได้ล่วงเกินเขาไว้
จงรับบุญกุศลนี้และจงอโหสิกรรมให้กับครอบครัวดิฉัน
และจงอนุโมทนาบุญกุศลนี้ด้วยเทอญ
----------
จบ ----------