สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สุทัสสา อ่อนค้อม
๑๐...
บ่ายจัดของวันที่แปดนับแต่วันบวช
ขณะที่พระบัวเฮียวกำลังเดินไปยังกุฏิท่านพระครู เพื่อให้ท่านทดสอบอารมณ์
รถตู้สีครีมใหม่เอี่ยมคันหนึ่งก็แล่นเข้าประตูวัดมา มีรถเก๋งสีฟ้าแล่นตามมาติด ๆ
เมื่อรถสองคันแล่นเข้ามาจอดคู่กันที่ลานวัด บุรุษสองคนกับสตรีสามคนได้ลงมาจากรถ
พระใหม่ไม่ทันได้สังเกตว่า คนไหนลงมาจากคันไหน แต่ที่จำได้แม่นยำคือ
บุรุษที่เดินนำหน้าคนทั้งสี่มานั้น คือครูที่มาจากนครสวรรค์
และเพิ่งออกจากกรรมฐานกลับไปเมื่อสามสี่วันก่อน
คนทั้งห้าเดินตรงไปยังกุฏิท่านพระครูและถึงก่อนหน้าท่านเล็กน้อย
เมื่อท่านไปถึงและทำความเคารพพระอุปัชฌาย์แล้ว ครูใหญ่จึงแนะนำกับคนทั้งสี่ว่า
นี่หลวงพี่บัวเฮียว
อาจารย์สอนกรรมฐานให้พ่อ
แล้วทั้งหมดจึงก้มลงกราบสามครั้ง
พระใหม่รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ คนที่เป็นครูใหญ่ยกย่องให้เกียรติท่านถึงปานนั้น
อีกทั้งหญิงสาวสองคนที่มาด้วยก็สวยหยาดเยิ้มจนท่านรู้สึกขวยเขิน
เจริญพรครูใหญ่
ครูบุญมีกับครูอรุณไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ ท่านพระครูทักทาย
กระบวนจำชื่อคนแม่นไม่มีใครเกินท่านเจ้าอาวาสวัดป่ามะม่วง
ไม่ได้มาครับเพราะโรงเรียนเปิดแล้ว
ตัวผมก็ลางานมา จะพาครอบครัวมากราบหลวงพ่อ แล้วจึงแนะนำสมาชิกทีละคน
คุณผ่องพักตร์แม่บ้านของผม
สามคนเป็นลูกชื่อ ผ่องพรรณ วรรณวิไล ชัยชนะ อายุห่างกันคนละปี เรียนจนได้งานทำกันแล้วครับ
ท่านพระครูกำหนด
เห็นหนอ
พิจารณาคนทั้งสี่ทีละคน แล้วพูดขึ้นว่า นี่คนนี้ฉลาด จะได้เป็นด็อกเตอร์ ท่านชี้ไปที่วรรณวิไล
หญิงสาวยิ้มอาย ๆ ยกมือขึ้น สาธุ พร้อมกล่าวว่า ขอให้สมพรปากเถิดเจ้าค่ะ
พระบวชใหม่แอบชื่นชมในใจว่า
เจ้าประคุณเอ๋ย รูปก็สวย
เสียงก็ใส แถมยังความรู้สูงเสียด้วย ข้างฝ่ายพี่สาวก็สวยไม่แพ้กัน นี่ถ้าให้เราเลือกคงเลือกไม่ถูกกระมังหนอ
มันเข้าทำนอง รักพี่เสียดายน้อง ครั้นจะรักน้องก็เสียดายพี่ จะเอายังไงดีวุ้ย
ท่านพระครูแอบสำรวจความคิดของพระใหม่
เห็นกำลังฟุ้งซ่านหนัก จึงพูดขึ้นว่า
เห็นไหมบัวเฮียว
ที่ฉันบอกเธอว่าครูใหญ่ต้องกลับมาที่วัดนี้อีกภายในเจ็ดวัน ก็กลับมาจริง ๆ
แต่หลวงพ่อบอกว่าจะถูกรางวัลที่หนึ่งด้วยนี่ครับ พระใหม่ทักท้วง
คนเป็นครูใหญ่จึงพูดขึ้นว่า
เป็นความจริงครับ
ผมกำลังจะกราบเรียนหลวงพ่ออยู่พอดี พระอุปัชฌาย์มองหน้าลูกศิษย์เหมือนจะบอกว่า เห็นไหมบัวเฮียว
ที่ฉันพูดไว้น่ะ ผิดเสียที่ไหน
ผมต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ได้เมตตาให้ผมมีโชค
ครูใหญ่พูดพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
ไม่เกี่ยวกับอาตมาหรอกโยม
บางครั้งท่านก็เรียกครูใหญ่ว่า โยม
มันเป็นโชคของโยมเอง
อาตมาเพียงแต่รู้เท่านั้น ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ว่าอาตมาจะรู้หรือไม่โยมก็ต้องถูกอยู่ดี
เพราะโยมทำกรรมมาอย่างนั้น เรื่องของกรรมใครทำใครได้ ทำกรรมดีก็ได้ดี
ทำกรรมชั่วก็ได้ชั่ว ลูกศิษย์ของอาตมาคนหนึ่งเขาไม่เล่นหวย ไม่เคยซื้อ
ไม่ว่าจะเป็นหวยใต้ดินหรือหวยรัฐบาล แต่เมื่อถึงคราวที่กรรมดีมาให้ผล
เขาก็ถูกรางวัลที่ ๑ จนได้
เรื่องมีอยู่ว่าตาขี้เมาคนหนึ่งมาอ้อนวอนขายให้เขา
เพื่อจะเอาเงินไปซื้อเหล้ากิน เขาบอกไม่ซื้อ ๆ ตานั่นก็เซ้าซี้จนเขารำคาญ เลยควักเงินให้ไปสิบบาทแล้วเอาล็อตเตอรี่มา
ตกเย็นล็อตเตอรี่ออก ปรากฏว่าเขาถูกรางวัลที่ ๑ เห็นไหมคนมีชี อยู่ดี ๆ
ก็มีคนเอาเงินมาให้ตั้งห้าแสน
เขาก็สำนึกถึงบุญคุณตาขี้เมา
ตั้งใจจะเอาเงินไปแบ่งให้บ้าง พอไปตามหาถึงได้รู้ว่า หมอนั่นช็อคตายไปแล้ว
แกไปเที่ยวเร่ขายจนจำเลขได้ พอรู้ว่าถูกรางวัลที่ ๑ เกิดความเสียดาย เลยช็อค
ท่านพระครูเล่าจบ
ลูกสาวคนโตของครูใหญ่จึงถามขึ้นว่า
แล้วแบบนี้คนที่ซื้อไปจะบาปไหมคะหลวงพ่อ
ไม่บาปหรอกหนู
เพราะเขาไม่ได้เจตนา แล้วจิตของเขาก็ไม่มีโลภะ แต่ซื้อเพื่อตัดรำคาญ
ผมว่าตาขี้เมาคนนั้นไม่มีโชคมากกว่าใช่ไหมครับหลวงพ่อ ครูใหญ่ถาม
ก็คงเป็นยังงั้นแหละ
เงินมาอยู่ในมือแล้วยังเอามายัดเยียดให้คนอื่น พูดภาษาชาวบ้านก็ว่า
ดวงจะไม่ได้ใช้เงิน
อย่างคนที่ผมรู้จักคนหนึ่งครับหลวงพ่อ
รายนี้ก็ถูกรางวัลที่ ๑ เหมือนกัน แกเอาเงินไปซื้อรถเก๋งแล้วก็ไปแต่งนางงามบ้านหมี่มาเป็นเมียน้อย
ทั้งที่เมียแกยังอยู่ด้วยกัน หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่กับอบายมุข ทั้งสุรา นารี
พาชี กีฬาบัตร ผลที่สุดก็เลยวิบัติ คือ ถูกหวยได้ไม่ถึงเดือนก็ขับรถไปชนกับสิบล้อตายคาที่เลยครับ ชัยชนะเล่า
นั่นแหละเขาเรียกว่าทุกขลาภ
เพราะเขาไม่เข้าใจกฎแห่งกรรม ไม่เข้าใจว่าที่ตนร่ำรวยขึ้นมานั้นกรรมดีมันมาให้ผล
แทนที่จะสร้างกรรมดีเพื่อเติมเชื้อบุญต่อไปอีก กลับไปทำบาปคือประพฤติผิดศีล
ก็เลยต้องพบกับความหายนะทันตาเห็น
แสดงว่าคนที่มีเมียน้อยทุกคน
จะต้องพบกับความหายนะใช่ไหมคะหลวงพ่อ คุณผ่องพักตร์ถามขึ้น
ก็คงงั้นมั้ง หรือ
ครูใหญ่ว่ายังไง
ข้อนั้นผมไม่ทราบครับ
ทราบแต่ว่าแม่บ้านผม เธอเป็นโรคหึงครับ ที่ถามหลวงพ่อเพราะแรงหึง
กลัวว่าผมจะมีเมียน้อย
คนเป็นครูใหญ่ ฟ้อง กราย ๆ
ผู้หญิงเป็นโรคหึงทุกคนแหละโยม
ต่างกันแต่ว่าใครจะมีอาการมากน้อยกว่ากัน
หลวงพ่อไม่ได้เป็นผู้หญิง
แล้วทราบได้อย่างไรคะว่า ผู้หญิงเป็นโรคหึงทุกคน ผ่องพรรณถามขึ้น
ก็หนูไม่ได้เป็นหลวงพ่อ
แล้วหนูทราบได้อย่างไรล่ะจ๊ะ ว่าหลวงพ่อไม่ทราบ ท่านพระครูถามยิ้ม ๆ
หญิงสาวมิรู้จะตอบประการใด จึงหันไปสบตากับหลวงพี่บัวเฮียว หวังให้ท่านช่วย
คุณโยมคงได้ เห็นหนอ น่ะครับหลวงพ่อ
พระใหม่เอื้อนเอ่ยหมายจะช่วย คุณโยม
ทว่ากลับทำให้เธองุนงงหนักขึ้น ท่านพระครูเห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่
จึงวกกลับเข้ามาเรื่องเดิม
ตกลงครูใหญ่จะใช้ชีวิตแบบที่ลูกชายเล่ามาหรือเปล่าล่ะ
น่าสนุกดีเหมือนกันนะ
ไม่หรอกครับหลวงพ่อ
ผมมันเข้าวัดเข้าวาเสียแล้ว บ้านเรามีห้าคนผมก็เอาห้าหาร ได้กันคนละแสน
ทีนี้ผมก็บอกภรรยาและลูก ๆ ว่าหลวงพ่อรับนิมนต์ไปเทศน์ตามที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ
ถ้ามีรถไว้ใช้สักคันก็จะสะดวกขึ้น ผมเลยบอกจะซื้อรถตู้ถวายหลวงพ่อ
พวกเขาก็ช่วยกันลงขันมาซื้อรถ แล้วยังมีเงินเหลือสำรองเป็นค่าน้ำมันอีกสองหมื่น
พูดจลก็ถวายเงินสดและทะเบียนรถพร้อมลูกกุญแจแด่ท่านเจ้าอาวาส
ท่านพระครูรับประเคนแล้ว ให้ศีลให้พรตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติ
คนทั้งหมดรวมทั้งพระบัวเฮียวต่างพากันอนุโมทนาสาธุการ
หลวงพ่อคงต้องหาคนขับรถสักคนหนึ่งแล้วละครับ ครูใหญ่เสนอแนะ
ก็มีแต่สมชายนี่แหละ
ขับพอเป็นแล้ว แต่ยังไม่มีใบขับขี่
ไม่ยากหรอกครับหลวงพ่อ
ใบขับขี่ต่างจังหวัดทำง่ายกว่าในกรุงเทพฯ เพื่อน ๆ ผมมีใบขับขี่เกือบทุกคน
ทั้งที่บางคนยังขับรถไม่เป็นด้วยซ้ำ ชัยชนะออกความเห็น
แต่แบบนั้นไม่ค่อยดีนะเจ้าคะ
เพราะนอกจากจะไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเองแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นอีกด้วย วรรณวิไลเอ่ยขึ้น
จริงค่ะ
หนูเห็นด้วยกับน้องวรรณ อย่างเพื่อนหนูนะคะ
กำลังยืนพูดโทรศัพท์อยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะซึ่งตั้งอยู่ริมถนน คนที่เขากำลังคุยด้วยก็คือหนูเอง
จู่ ๆ รถเก๋งคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาชนโครม
เพื่อนหนูคอขาดกระเด็นออกมานอกตู้ซึ่งพังยับเยิน กระจกแตก
คนชนก็ถูกอัดก๊อปปี้ตายคาพวงมาลัย
หนูก็แปลกใจว่าเอ....กำลังคุยกันดี
ๆ ก็มีเสียงดังโครมแล้วก็เงียบหายไป เลยขับรถออกตามหา ดีที่เขาบอกชื่อถนนไว้ตอนคุยกัน
พอหนูเห็นเพื่อนหนูแทบช็อคเลยค่ะ
ตำรวจสอบสวนได้ความว่า
ผู้หญิงคนชนนั้นเพิ่งหัดขับรถ แถมวันนั้นแกทะเลาะกับสามีเลยขโมยรถขับไปกินเหล้า
พอเมาก็ประมาทขับเสียเร็วเลยทำให้เพื่อนหนูพลอยเคราะห์ร้ายไปด้วย
ท่าทางคนเล่ายังไม่หายหวาดเสียว
แต่พระใหม่กลับเพลิดเพลินกับเสียงใส ๆ ของคุณโยมจนเผลอสติ จ้องหน้าหล่อนไม่วางตา
ครั้นเมื่อหญิงสาวเล่าจบจึงถามเชย ๆ ออกมาว่า
แล้วอย่างนี้จะเอาผิดกับใครเล่าครับหลวงพ่อ
เพราะคนทำผิดก็ตายไปแล้ว
อ้าว...ก๊อเอาผิดกะพระบัวเฮียวน่ะซี ท่านพระครูตอบหน้าเฉย
ถ้างั้นหลวงพ่อก็ยุ่งแล้วละครับ
เพราะถ้าพระลูกวัดถูกจับ สมภารก็ต้องถูกสอบสวนด้วย คราวนี้คนเชยทำเป็นรู้
งั้นครูใหญ่ช่วยไปประกันตัวให้ด้วยก็แล้วกัน
ไหนว่าเป็นลูกศิษย์เป็นอาจารย์กันไม่ใช่หรือ ท่านพระครูโยนกลองไปที่ครูใหญ่
ครับ ไม่เป็นไร
ผมประกันตัวให้หลวงพี่เอง
ครูสฤษดิ์พลอยเออออห่อหมกด้วย
แหม...คุณก็
หลวงพ่อท่านพูดเล่น ๆ คุณก็เอาเป็นจริงเป็นจังไปได้ คุณผ่องพักตร์ปรามสามี
คุณพ่อก็พูดเล่น ๆ
นะคะคุณแม่ วรรณวิไลแก้แทนบิดา
พระบัวเฮียวมีอันต้องคิดหนัก ว่าพี่น้องสองศรีคู่นี้ใครเสียงหวานกว่ากัน ก็เลยตัดสินใจไม่ได้อีกครั้ง
กรณีของเพื่อนหนู
ก็ต้องโทษว่ากรรมใช่ไหมคะหลวงพ่อ
ผ่องพรรณถาม
แน่นอน
โดยเฉพาะคนขับนั้นเป็นกรรมประเภททิฏฐธรรมเวทนียกรรม คือกรรมที่ให้ผลในชาติปัจจุบันทันตาเห็น
การดื่มสุราถือว่าละเมิดศีลข้อร้ายแรงที่สุดในบรรดาศีลห้า เฉพาะทำให้ขาดสติ เมื่อขาดสติเสียแล้วก็ละเมิดศีลข้ออื่น
ๆ ได้หมด อันนี้แสดงให้เห็นว่าทำชั่วได้ชั่วทันตาเห็น
ส่วนเพื่อนของหนูก็แสดงว่าต้องมีเวรมีกรรมเกี่ยวเนื่องมากับคนที่ชน
คือมันต้องมีเหตุ ถ้าไม่มีเหตุมันก็ไม่มีผล หนูลองคิดง่าย ๆ ก็ได้ว่า
ทำไมถึงต้องเป็นเพื่อนของหนู ทำไมไม่เป็นคนอื่น เพราะคนใช้โทรศัพท์เครื่องนี้ วัน
ๆ มีมากมาย แต่ทำไมเขาไม่ถูกชน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่ได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมา จริงไหมล่ะจ๊ะ ท่านหันไปถามวรรณวิไล
จริงเจ้าค่ะ
เหมือนอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ ก็คงเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาใช่ไหมเจ้าคะหลวงพ่อ
หญิงสาวถามหมายจะยั่วบิดาและมารดา
แน่นอนจ้ะ
ไม่เฉพาะคุณพ่อคุณแม่หรอก ถึงหนูเองก็เถอะ
หลวงพ่อเห็นหมดแล้วว่าหนูจะต้องใช้เวรใช้กรรมกับคูกของหนูมากกว่านี้อีกหลายเท่า
ถึงดวงการศึกษาหนูจะดี แต่ดวงคู่ครองค่อนข้างจะแย่ หนูต้องอดทนมาก ๆ
ถึงจะอยู่กันได้ คู่ของหนูเข้าเป็นคนเจ้าทิฏฐิ ใจร้อน พูดก็ไม่เพราะ
คือไม่เพราะแต่กับหนู แต่กับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ เขาพูดเพราะมากเชียวละ
หนูก็เลยเป็นโรคหึง แล้วโรคนี้มันจะทรมานจิตใจหนูมากทีเดียว
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหนูก็ไม่แต่งกับเขาซีเจ้าคะหลวงพ่อ
ไม่แต่งได้แหละดี
ดีมาก ๆ เชียวละ แต่ถึงเวลานั้นจริง ๆ หนูจะไม่คิดอย่างนี้ ไม่พูดอย่างนี้ หนูจะมาหาหลวงพ่อแล้วพูดว่า...หลวงพ่อเจ้าคะ
หนูไม่ได้รักเค้าหรอกเจ้าคะ แต่หนูสงสารเค้าถึงได้ยอมแต่งงานด้วย จริง ๆ
นะเจ้าคะ....
ท่านพูดเลียนเสียงวรรณวิไล
ทำให้คนอื่น ๆ พากันหัวเราะทั้งหญิงสาวที่ชื่อวรรณวิไลด้วย
แล้วเขาเจ้าชู้ไหมเจ้าคะหลวงพ่อ หล่อนถามอีก
จะว่าเจ้าชู้ก็ไม่เชิง
แต่ผู้ชายที่พูดหวาน ๆ น่ะผู้หญิงชอบใช่ไหม นี่แหละสาวแก่แม่หมายตอมกันหึ่งเชียวละ
แหม หนูชักใจไม่ดีแล้วซีเจ้าคะ
หนูเชื่อว่าสิ่งที่หลวงพ่อพูดจะต้องเกิดขึ้นกับหนูจริง ๆ
เห็นคุณพ่อบอกว่าหลวงพ่อได้ทิพยจักษุกับเจโตปริยญาณ
ประโยคหลังหล่อนพูดตามหลักวิชาที่เคยเรียน
จริงหรือไม่จริง
หนูคอยดูไปก็แล้วกัน อีกแปดปีก็จะรู้ ถ้าไม่จริงมาต่อว่าหลวงพ่อได้
พระบัวเฮียวแอบคิดในใจว่า เอ...เนื้อคู่ของคุณโยมจะใช่เราหรือเปล่าหนอ
ก็พอดีกับหญิงสาวถามขึ้น
แล้วตอนนี้เจอกันหรือยังเจ้าคะ
พระใหม่ตั้งใจฟังเต็มที่ หากก็ต้องผิดหวังเมื่อท่านพระครูตอบว่า
เดินผ่านกันไปผ่านกันมาหลายครั้งแล้วที่มหาวิทยาลัย
แต่ยังไม่เคยพูดกัน เขาไม่สนใจหนูหรอกเพราะเขามีคู่รักอยู่แล้ว
ต้องชดใช้กรรมกับคนนั้นก่อนแล้วถึงจะมาเจอกับหนู
แล้วตอนนี้เขาแต่งงานกันหรือยังเจ้าคะ
ยัง อีกสองปีถึงจะแต่ง
แต่งแล้วก็หย่ากันในปีนั้น ผู้หญิงเขาใจเด็ดทิ้งลูกทิ้งผัวไปอยู่กับชายอื่น
คู่ของหนูก็เลยเป็นพ่อหม้ายลูกติด
ก็ดีซีเจ้าคะหนูจะได้ไม่ต้องมีลูกของตัวเอง
ลูกเขาก็เหมือนลูกเราจริงไหมคะพี่ผ่อง หล่อนหันไปถามพี่สาว
พอถึงเวลานั้นจริง ๆ
มันไม่เป็นอย่างที่หนูหวังไว้หรอกจ้ะ จำคำพูดของหลวงพ่อไว้นะจ๊ะคุณด็อกเตอร์
ว่าหนูน่ะจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าเพราะสามี
หญิงสาวกลับมีอารมณ์ขันเพราะไม่เคยจริงจังกับชีวิต
แต่เล็กจนโต หล่อนได้รับความรักความอบอุ่นมาโดยตลอด
ทั้งคนในครอบครัวทั้งเพื่อนฝูงต่างรักใคร่หล่อนกันทุกคน ชีวิตของวรรณวิไลจึงยังไม่รู้จักคำว่าทุกข์
ทั้งไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับมัน
หล่อนมิรู้ดอกว่า
ความร่าเริงน่ารักและมองโลกในแง่ดีอันเป็นคุณสมบัติประจำตัวหล่อนนั้น
อีกแปดปีมันจะไม่มีหลงเหลืออยู่เลย
นอกจากจะไม่เหลือแล้วมันยังเปลี่ยนเป็นคุณสมบัติที่ตรงข้าม...ตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
อีกแปดปีหล่อนจะต้องมานั่งร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าพระภิกษุรูปนี้ หล่อไม่รู้
แต่ท่านพระครูท่านรู้
ก็แล้วแต่จังหวะจ้ะ
หัวเข่าหนูน่ะแน่ ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนโชคร้ายหน่อยก็จะเป็นหัวเข่าเขา
ทำหัวเราะไปเถอะแล้วหลวงพ่อจะคอยดู
ถึงขนาดนั้นเชียวหรือคะหลวงพ่อ
คุณผ่องพักตร์รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวคนเล็ก
ก็เขาทำกรรมมาอย่างนั้นนี่โยม ท่านพระครูตอบ
คนมีการศึกษาเขาจะทำกันถึงขนาดนั้นเชียวหรือคะหลวงพ่อ เธอคัดค้าน
การศึกษาไม่เกี่ยวหรอกโยม
ที่อาตมาเห็น ๆ มาน่ะ ขนาดจบปริญญาโท ปริญญาเอก
ยังเตะกันตกบ้านไม่รู้กี่คู่ต่อกี่คู่ คราวนี้มารดาของวรรณวิไลนั่งเงียบกริบ
นึกสงสารบุตรสาวที่จะต้องมารับกรรมทั้งที่อะไร ๆ ก็ดีมาโดยตลอด
ท่านพระครูรู้จึงพูดปลอบว่า
ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกโยม
ขอให้ถือว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม อาตมาเองก็ชดใช้กรรมมามากต่อมาก
หนักกว่าลูกสาวโยมหลายเท่านัก คิดเสียว่าใช้ ๆ กันเสียให้หมด จะได้ไม่ต้องมีเวรมีกรรมต่อกันอีก
ดิฉันห่วงลูกสาวน่ะค่ะ
ห่วงเขาทำไมกันเล่า กรรมใครใครก็ใช้
แต่ไม่นานหรอกโยม เก้าปีหลังจากแต่งงานเขาก็จะสบาย
คู่ของเขานั้นโดยเนื้อแท้ก็เป็นคนดี แต่ต้องมีเรื่องระหองระแหงกันจนหาความสุขไม่ได้ก็เพราะกรรมเก่า
ก็ทำกับเขวไว้มากนี่นา
ท่านหันไปทางวรรณวิไล
เห็นกฎแห่งกรรมของหล่อนอย่างถ้วนทั่ว ทว่าเจ้าตัวกลับไม่รู้ไม่เห็นกรรมของตัวเอง
ฟังเขาคุยกันแล้วพระบัวเฮียวจึงรู้ว่า
คู่ของวรรณวิไลไม่ใช่ท่าน ภิกษุหนุ่มจึงย้ายความหวังไปไว้ที่คนเป็นพี่สาวของหล่อน
พอดีที่ผ่องพรรณถามขึ้นว่า
หลวงพ่อคะ
แล้วหนูพบเนื้อคู่หรือยังคะ
พระใหม่ใจเต้นระริกด้วยหวังจะได้ยินคำตอบว่า พบแล้วจ้ะ
ตอนนี้ยังบวชเป็นพระอยู่ ใจแทบหยุดเต้นเมื่อท่านพระครูตอบว่า
จะมีเนื้อคู่สักกี่คนกันล่ะจ๊ะ
ก็เพิ่งแต่งงานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง รถคันที่ขับมาก็ไม่ใช่ที่สามีเขาซื้อให้หรือจ๊ะ
พระบัวเฮียวหน้าซีดลงทันใด
รู้สึกวาบหวิวคล้ายจะเป็นลม เพราะต้องพบกับความผิดหวังถึงสองครั้งสองคราติด ๆ กัน
ใจหนึ่งท่านพระครูอยากจะสมน้ำหน้า แต่อีกใจก็นึกสงสาร จึงพูดเป็นเชิงปลอบโยนว่า
แต่บางคนก็โชคดีที่เกิดมาไม่มีเนื้อคู่
ไม่ต้องไปใช้เวรใช้กรรมกับใคร อย่างพระบัวเฮียวนี้ ดวงจะต้องบวชตลอดชีวิต
และจะมีความสุขกว่าคนครองชีวิตคู่
ผมขออนุโมทนาด้วยครับ ครูใหญ่ยกมือขึ้น สาธุ แล้วพูดต่ออีกว่า บุญของท่านเหลือเกินที่ไม่ต้องมารับผิดชอบชีวิตใคร
ๆ ผมเข็ดแล้ว กว่าลูกจะโต จะเรียนจบ ผมลำบากแทบเลือดตากระเด็น
ถ้ากลับไปเป็นโสดได้อีกครั้ง ผมจะขอบวชไปจนตลอดชีวิต
ภิกษุหนุ่มฟัง
ศิษย์อาวุโส
ของท่านพูดแล้วก็มีกำลังใจขึ้น พระอุปัชฌาย์รู้จึงเสริมอีกว่า
ถ้าชีวิตการครองเรือนให้ความสุขได้จริง
เจ้าชายสิทธัตถะก็คงไม่สละราชสมบัติออกผนวชหรอก อยากรู้ไหมว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
เดี๋ยวอาตมาจะหาหลักฐานมายืนยัน
ท่านลุกขึ้นเดินไปที่ตู้พระไตรปิฎก
หยิบเล่มที่ต้องการออกมาแล้ว จึงกลับมานั่งที่เดิม
นี่
พระพุทธองค์ทรงแสดงโทษของกามไว้ในเล่มนี้ พูดพลางส่งคัมภีร์เล่มใหญ่ และบอกให้เปิดไปหน้า ๓๖๐
ไหนลองอ่าน ซัคควิสณสุตตนเทศ
ตั้งแต่ข้อ๗๖๔
๗๖๖ ให้พรรคพวกฟังซิ ครูสฤษดิ์จึงต้องอ่านด้วยเสียงที่ทุกคนได้ยินกันทั่วกันว่า
...ข้อ ๗๖๔
กามนี้เป็นเครื่องข้องมีความสุขน้อย มีทุกข์มาก บุคคลผู้มีปัญญารู้ว่ากามนี้เป็นดังฝี
ดังนั้น แล้วพึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรดฉะนั้น
ข้อ
๗๖๕ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุขโสมนัสใด อาศัยกามคุณ ๕ ประการนี้เกิดขึ้น สุขโสมนัสนั้นแลเรากล่าวว่า
กามสุข กามสุขชุดนี้ กามสุขนี้เลว กามสุขนี้ลามก กามสุขนี้ให้เกิดทุกข์ กามนี้เป็นเครื่องช้อง
มีความสุขน้อย
ข้อ
๗๖๖...คำว่ากามนี้มีความยินดีน้อย มีความทุกข์ยาก กามทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคตรัสว่ามีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก มีโทษมาก
กามทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส เหมือนโครงกระดูก...เหมือนชิ้นเนื้อ...เหมือนคบเพลิง...เหมือนหลุมถ่านเพลิง...เหมือนความฝัน...เหมือนของที่ยืมเขามา...เหมือนผลไม้...เหมือนดาบ
และสุนัขไล่เนื้อ...เหมือนหอกและหลาว...เหมือนศีรษะงูเห่า...มีทุกข์มาก
มีความยินดีน้อย มีความคับแค้นมาก มีโทษมาก เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า
กามนี้มีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก...
เป็นยังไง
ซาบซึ้งหรือยัง เห็นแล้วใช่ไหมว่าเป็นพระนั้นได้เปรียบกว่าเป็นฆราวาสเป็นไหน ๆ
แหม...หนูชักอิจฉาหลวงพ่อกับหลวงพี่แล้วซีเจ้าคะ
ถ้าหนูเป็นผู้ชายคงต้องขอบวชแน่ ๆ เลย วรรณวิไลพูดขึ้น หล่อนเป็นคนอ่อนไหวง่าย
จึงซาบซึ้งและซึมซับอะไร ๆ ได้รวดเร็วกว่าคนอื่น ๆ
เป็นผู้หญิงก็บวชได้
คือบวชใจยังไงล่ะ บางคนกายบวชแต่ใจไม่ได้บวช เช่น พวกที่อาศัยผ้าเหลืองหากิน
คนพวกนี้เขาเรียกว่า ตัวเป็นพระแต่ใจเป็นมาร
บวชใจทำอย่างไรคะหลวงพ่อ ถามอย่างสนใจ
ก็เจริญสติปัฏฐาน ๔
เหมือนที่คุณพ่อหนูเขาปฏิบัตินั่นยังไงล่ะ
ถ้าเช่นนั้น
ปิดเทอมหน้าหนูจะมาอยู่วัดสักเจ็ดวันนะคะคุณพ่อ หล่อนบอกบิดา
ดีแล้วลูก
เผื่อกรรมมันจะได้เบาบางลง
ครูใหญ่สนับสนุน
หลวงพ่อคะ
แล้วชีวิตครอบครัวของหนูจะดีไหมคะ ผ่องพรรณถามขึ้นบ้าง ฟังเรื่องราวของน้องสาวแล้วหล่อนพลอยใจไม่ดีไปด้วย
วรรณวิไลทั้งสวยทั้งเก่ง ไม่น่าจะต้องมีกรรมอะไรหนักหนา
ดีจ้ะ ตอนนี้ดีเพราะกำลังข้าวใหม่ปลามัน
แต่ต่อไปแย่หน่อย เพราะสามีเขาจะเลี้ยงหนูด้วยลำแข้งชนิดซี่โครงเหน็บข้างฝาเชียวละ
รู้สึกจะหนักกว่ารายน้องสาวด้วยซ้ำ เพราะสามีหนูเขาเจ้าชู้ พอไปเจอคนใหม่ก็เบื่อคนเก่า
ท่านพระครูบอกไปตามที่ได้เห็นกฎแห่งกรรมของสองพี่น้อง
ลูกสาวดิฉันโชคร้ายทั้งสองคนเลยหรือคะหลวงพ่อ คุณผ่องพักตร์ถาม
รู้สึกหดหู่เศร้าหมองด้วยสงสารลูก
อย่าไปคิดอะไรมากเลยโยม
ทุกคนมีกรรมเป็นของตน เรื่องของกรรมเก่าก็ต้องชดใช้กันไป อย่าไปสร้างกรรมใหม่ขึ้นมาอีกแล้วกัน
ชีวิตการครองเรือนก็เป็นอย่างนี้ สุขบ้างทุกข์บ้างปะปนกันไป
หลวงพ่อคะ
แล้วหนูพอจะมีทางทำให้กรรมเบาบางลงบ้างไหมคะ ผ่องพรรณถาม
หล่อนเริ่มวิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
จะกังวลล่วงหน้าไปทำไมเล่าหนู
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราต้องกล้าเผชิญกับความจริง
การจะให้กรรมเบาบางลงมีวิธีเดียวคือมาเข้ากรรมฐานที่วัดนี้สักเจ็ดวันเป็นอย่างน้อย
สามีหนูไม่ยอมให้มาแน่
ๆ ค่ะ ตั้งเจ็ดวัน นี่หนูขอมาหาคุณพ่อคุณแม่วันเดียวเขายังไม่ค่อยพอใจ
ใช่ซีจ๊ะ
ก็กำลังรักอยู่นี่ เขาไม่อยากให้คลาดสายตาสักเวลานาทีเอาเถอะ แล้วหนูจะได้มาอยู่วัดตอนที่เขาเบื่อหนูแล้ว
ถึงเวลานั้นหลวงพ่อคงจะช่วยแนะนำได้บ้าง
หนูต้องกราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
พูดจบจึงก้มกราบสามครั้ง เป็นการฝากเนื้อฝากตัว คุยกันอีกพักใหญ่ ๆ
คนทั้งห้าจึงลากลับ ท่านพระครูย้ำเตือนสตรีทั้งสองว่า
อย่าลืมมาเข้ากรรมฐานนะหนูนะ
แล้วก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ ที่หลวงพ่อบอกก็เพื่อจะให้หนูตั้งสติได้เมื่อพบกับเหตุการณ์อย่างนั้น
จะได้ไม่ตกใจเกินไป อย่าลืมว่าใช้ ๆ ให้หมดกันไปเสียแล้วก็อย่างไปสร้างกรรมใหม่
ท่านจำเป็นต้องบอกต้องพูด
เพราะคนส่วนมากเมื่อประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ต่างผลุนผลัน พากันฆ่าตัวตายบ้าง
ฆ่าคนที่ทำให้ตัวเองเจ็บช้ำบ้าง ด้วยคิดว่าเป็นทางหนีทุกข์
แต่ข้อเท็จจริงนั้นนอกจากจะหนีทุกข์ไปไม่ได้แล้วยังทำให้เพิ่มทุกข์ผูกเวรกันหนักขึ้นไปอีก
จำไว้นะหนูนะ ท่านย้ำเตือนอีกครั้ง
เจ้าคะ
ค่ะ
สตรีทั้งสองรับคำพร้อมกับก้มลงกราบท่านพระครูและหลวงพี่บัวเฮียว
แล้วจึงเดินไปยังลานจอดรถที่บิดามารดาและน้องชายรออยู่
มีต่อ........๑๑