สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - ๓๐

 

สุทัสสา อ่อนค้อม

ธันวาคม ๒๕๓๗

S00030

๓๐...

         นายสมชายพาท่านพระครูกลับถึงวัดป่ามะม่วงเมื่อเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาเศษ ที่กุฏิของท่าน พระบัวเฮียวกำลังสอนวิธีเดินจงกรมและนั่งสมาธิให้กับคหบดี และครอบครัว ตามที่ท่านได้มอบหมายหน้าที่ให้

         เมื่อท่านเดินเข้ามา ภิกษุรูปหนึ่งกับฆราวาสห้าคนก็ทำความเคารพด้วยการกราบสามครั้ง

         “เจริญพร โยมมาถึงนานแล้วหรือ” ท่านถามคหบดี

         “ถึงสักบ่ายสองโมงเห็นจะได้ ก็ไปเสียเวลากับการหาซื้อชุดขาวน่ะครับหลวงพ่อ” คหบดีตอบ เขาอยู่ในชุดเสื้อคอกลมสีขาว กางเกงขาก๊วยสีเดียวกัน ภรรยาและลูกชายอีกสามคนก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวดูสะอาดหมดจด

         “หลวงพ่อมาเหนื่อย ๆ นิมนต์พักสรงน้ำก่อนไม่ดีกว่าหรือคะ” นางกิมเอ็งพูดขึ้น เมื่อเห็นท่านเดินมานั่งยังอาสนะ วันนี้หน้าตาเนื้อตัวหล่อนปราศจากทั้งเครื่องสำอางและเครื่องประดับ จึงดูผิดไปจากวันวานราวกับเป็นคนละคน

         “นิมนต์หลวงพ่อสร้งน้ำก่อนดีกว่าครับ” สามีนางกิมเอ็งเห็นพ้องกับภรรยา

         “ไม่เป็นไรหรอกโยม เรื่องนั้นไม่สลักสำคัญอะไร อาตมาสรงน้ำตอนตีสองเกือบทุกวัน”

         “แล้วหลวงตาไม่หนาวแย่หรือครับ หลวงตามีที่ทำน้ำอุ่นหรือเปล่า” ลูกชายคนเล็กของคหบดีถามขึ้น

         “ไม่มีหรอกหนู หนาวก็ต้องทนเอา” ท่านตอบ

         “แล้วหลวงตาหิวไหมครับ หลวงตาไม่ฉันข้าวเย็นไม่หิวแย่หรือ” เด็กหนุ่มถามอีกเพราะตัวเขาเริ่มจะหิว เนื่องจากใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว

         “ไม่หิวหรอกหนู หลวงตาชินแล้ว ถามอย่างนี้แปลว่าหนูหิวแล้วใช่ไหม” ท่านถามอย่างรู้ใจ

         “ใช่ครับ” เด็กหนุ่มตอบตามตรง

         “หิวก็ต้องอดทนนะหนูนะ อดนทมาก ๆ แล้วมันก็จะชินไปเอง” พี่ชายอีกสองคนที่นั่งฟังอยู่ออกผิดหวัง คิดว่าท่านจะอนุญาตให้รับประทานอาหารมื้อเย็นได้

         “หลวงตาครับ ขอทานวันนี้วันเดียวไม่ได้หรือครับ แล้วพรุ่งนี้พวกผมค่อยฝึกอกกัน” คนตัวโตที่สุดต่อรอง

         “ก็ฝึกเสียวันนี้ไม่ดีกว่าหรือ ถ้าเรามัวผัดเป็นพรุ่งนี้ มันก็พรุ่งนี้อยู่เรื่อย การทำความดีไม่ต้องผัดวันประกันพรุ่ง นะหนูนะ”

         “หลวงตาครับ ทำไมการทำความดีต้องอดข้าวด้วยล่ะครับ” อีกคนถามขึ้น

         “เดี๋ยวก่อน หลวงตายังไม่รู้เลยว่าพวกหนูชื่ออะไรกันบ้าง ไหนบอกมาซิจะได้เรียกถูก เอาชื่อเล่นก็ได้

         “คนนี้ชื่อต้อม เป็นคนที่สาม คนที่สองชื่อต่อค่ะ คนเล็กชื่อติ๋ง ส่วนคนโตอยู่อเมริกาชื้อต้นค่ะ” นางกิมเอ็งตอบแทนลูก ๆ เมื่อพูดถึงคนโต นางก็อดร้องไห้ไม่ได้ เด็กหนุ่มสามคนคิดว่ามารดาร้องไห้เพราะคิดถึงลูกชายคนโต ซึ่งเป็นพี่ชายของพวกเขา

         “ทำใจดี ๆ น่ากิมเอ็ง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด คหบดีพูดปลอบใจภรรยา ตัวเขาเองพอจะทำใจได้แล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกชายติดยาเสพย์ติด เขาไม่ต้องการให้ลูกชายอีกสามคนดำเนินรอยตามพี่ชาย จึงสู้อุตส่าห์พามาเข้ากรรมฐานทั้งที่โรงเรียนยังไม่ทันปิดภาค ลูก ๆ ก็เชื่อฟังเป็นอันดี

         “หลวงตายังไม่ตอบผมเลยครับว่าทำไมการทำความดีต้องอดข้าวด้วย” หนุ่มน้อยที่ชื่อต้อมถามอีก

         “เดี๋ยว หนูตอบหลวงตามาก่อนซิว่าคำสอนหลักของพระพุทธศาสนานั้นมีกี่ประการ อะไรบ้าง”

         “ไม่ทราบครับ พวกผมเรียนโรงเรียนคริสต์มาตลอด จึงไม่รู้เรื่องศาสนาพุทธเลย”

         “แล้วสวดมนต์เป็นไหม สวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ น่ะเคยสวดหรือเปล่า” ท่านถามคนชื่อต่อ

         “ไม่เคยสวดเลยครับ เพราะไม่เคยสวด ก็เลยสวดไม่เป็นครับ ครูสอนแต่สวดสรรเสริญพระเจ้า

 

 

 

 

       

มีต่อ........๓๑