สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - ๗๕
สุทัสสา อ่อนค้อม
ธันวาคม ๒๕๓๗
๗๕...
วันรุ่งขึ้น หลังจากฉันภัตตาหารเช้าแล้ว เจ้าอาวาสวัดป่ามะม่วงก็อธิษฐานจิต เข้าผลสมาบัติเป็นเวลาสามวันสามคืน และจะไปออกในวันอาทิตย์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๙ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๑๗
ที่กุฏิชั้นล่าง บรรดาผู้มีใบหน้าอันเปื้อนทุกข์ เมื่อได้รับการบอกเล่าจากนายขุนทองก็พากันกลับไปด้วยความผิดหวัง บางคนก็ตำหนิท่านในใจว่า ไม่ทำหน้าที่ของพระ ทั้งที่ความจริงแล้วพระก็มิได้มีหน้าที่รับแขกแต่ประการใด ในพระวินัยก็ไม่ได้บัญญัติไว้ว่าพระมีหน้าที่รับแขก
ส่วนคนที่ไม่มีความเกรงใจก็ถึงกับด่าให้นายขุนทองได้ยิน หลานชายท่านพระครูจึงต้องอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด เขาได้เห็น ธาตุแท้ ของคนบางคน ที่พอไม่ได้ดังใจก็แสดงความหยาบคายร้ายกาจออกมา นึกถึงถ้อยคำของหลวงลุงที่มักจะพูดเสมอ ๆ ว่า ผู้หญิงที่น่าเกลียดคือ ผู้หญิงที่ตามใจตัว ผู้ชายที่น่ากลัวคือผู้ชายที่ไม่เกรงใจคน วันนี้เขาต้องผจญกับหญิงชายประเภทนี้หลายราย ถึงกับต้องท่องไว้ในใจว่า อดทน อดกลั้น อดทน อดกลั้น
แต่ก็มิใช่ว่าจะมีแต่คนเลวร้ายไปเสียหมด
เพราะคนดีมีคุณธรรมก็มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งเมื่อพวกเขาได้ทราบเรื่องที่นายขุนทองบอกกล่าวต่างพากันอนุโมทนาสาธุการ
สาธุหลวงพ่อท่านช่างมีเมตตาสูงเหลือเกิน
ขอให้ท่านจงมีอายุยืนยาวเถิด เจ้าประคู้น
วันต่อมานายขุนทองก็ต้องปวดหัวหนักขึ้น เพราะคนที่มาขอพบหลวงลุงคือคุณหญิงปทุมทิพย์ คนที่แอบแช่งในใจว่า ให้แล้วเอาคืน มะรืนนี้ตาย แต่ก็เป็นการแช่งที่ไม่จริงจังอะไร คือมิได้ประกอบด้วยความอาฆาตมาดร้าย เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง คุณหญิงก็น่าจะตายตามคำแช่งของเขาไปแล้ว
นี่เธอ ฉันแอบสืบมาแล้ว ได้เรื่องแล้ว คุณหญิงบอกเขาทันที่ที่พบหน้า
ได้เรื่องว่ายังไงฮะ คนถามอยากรู้
ก็ได้เรื่องว่ามันแอบไปซื้อบ้านให้นังนั่นอยู่ แล้วตอนนี้ ตอนนี้... คนเป็นคุณหญิงร้องไห้สะอึกสะอื้น
ตอนนี้เป็นไงฮะ คนอยากรู้ซัก คุณหญิงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา สั่งน้ำมูกอีกฟูดใหญ่ ๆ จึงตอบว่า
มันออกลูกแล้ว เห็นว่าไปออกที่โรงพยาบาลเอกชน ตอนที่เธอเห็นมันคราวนั้นน่ะ มันท้องได้สามเดือนแล้ว คนเล่าร้องไห้โฮ ๆ อย่างไม่อายผีสางเทวดา
แล้วคุณหญิงจะทำยังไงล่ะฮะ นายขุนทองถาม
ฉันก็จะมาถามหลวงพอว่ามันอยู่โรงพยาบาลอะไร คนพูดไม่ได้บอกหรือว่าได้เตรียมขวดน้ำกรดใส่มาในกระเป๋าถือด้วย ถ้ารู้ตำแหน่งแห่งที่จะตามไปเอาน้ำกรดสาดหน้ามันทั้งแม่ทั้งลูกให้สมแค้น
หลวงลุงท่านเข้าผลสมาบัติสามวันครับ ช่วงนี้ห้ามไม่ให้ใครรบกวน มะรืนนี้ตอนเช้าจึงจะออก หลานชายท่านพระครูรายงาน
ให้ฉันพบเดี๋ยวเดียวเอง ฉันจะถามท่านนิดเดียวแล้วก็จะกลับ ไม่อยู่รบกวนนานหรอก คนที่ตามใจตัวเสียจนชินว่า
ไม่ได้หรอกฮะคุณหญิง หลวงลุงสั่งไว้แล้วว่าห้ามเยี่ยม ห้ามประกัน ชายหนุ่มยืนกราน
ทำไมท่านต้องเข้าสมาบัติด้วยล่ะ
เพื่อช่วยเถ้าแก่คนหนึ่งน่ะฮะ เถ้าแก่แกเป็นมะเร็งลำไส้ จะต้องตายภายในสามเดือน หลวงลุงเลยจะช่วยต่ออายุให้
โอ๊ย เหลวไหลไร้สาระสิ้นดี เธอไปตามท่านแล้วกัน
เพราะว่าเรื่องของฉันสำคัญกว่า ไปเรียนท่านว่า คุณหญิงปทุมทิพย์มาขอพบ
ไม่ได้หรอกฮะคุณหญิง ไม่ได้จริง ๆ ฮะ หนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดยังคงปฏิเสธ คุณหญิงจึงเปิดกระเป๋าถือ หยิบธนบัตรใบละร้อยสองใบออกมาจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้ชายหนุ่ม นายขุนทองไม่ยอมรับเพราะกลัวคนให้จะเอาคืนเหมือนคราวที่แล้ว หากก็พูดเสียงอ่อนลงว่า กุญแจไม่ได้อยู่ที่หนูหรอกฮะ
แล้วอยู่ที่ใครล่ะ คุณหญิงถามอย่างหงุดหงิด
อยู่ที่พี่สมชายฮะ
งั้นก็ไปเอามา บอกว่าคุณหญิงปทุมทิพย์สั่ง คนเป็นคุณหญิงบัญชา ลืมไปว่าที่นี่เป็นวัด ไม่ใช่บ้านของเธอเอง
เขาไม่ให้หรอกฮะ ยังไง ๆ ก็ไม่ให้ ชายหนุ่มบอกอย่างรู้นิสัยของ ลูกพี่
ไม่ให้ก็ให้มันรู้ไป มันอยู่ที่ไหนไปตามมาพบฉันหน่อย คนเป็นคุณหญิงแสดงอำนาจ และเรียกศิษย์วัดว่า มัน
หนูตามให้ได้ฮะ แต่เขาจะมาหรือไม่มาหนูไม่ทราบ แล้วก็บังคับเขาไม่ได้ด้วยฮะ ว่าแล้วก็ลุกขึ้นไปตามนายสมชายที่กุฏิพระบัวเฮียว เมื่อเขาลุกออกไป ที่กุฎิท่านพระครูจึงมีคุณหญิงนั่งอยู่เพียงผู้เดียว
ท่านพระครูอยู่หรือเปล่าครับ ชายผู้หนึ่งเข้ามาถาม เขามากับสตรีผู้หนึ่ง อายุประมาณยี่สิบเศษ
อยู่ แต่ท่านไม่ลงรับแขก คุณหญิงบอก รู้สึกขัดเคืองที่ชายหญิงคู่นี้ไม่รู้ว่าเธอเป็นคุณหญิง ความที่อยากจะแสดงตัวจึงถามเขาว่า
เธอสองคนไม่เคยดูทีวีหรือไง หรือว่าที่บ้านไม่มีทีวี ถามอย่างเหยียด ๆ บุรุษที่มากับคู่หมั้นสาวรู้สึกไม่พอใจกับหญิงสูงอายุคนนี้เรียกเขาว่า เธอ ราวกับว่าเขาเป็นคนขับรถของหล่อน ตัวเขาเพิ่งจบด็อกเตอร์มาจากอังกฤษแล้วก็เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัย คู่หมั้นของเขาก็จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่มาหาท่านพระครู ก็เพื่อจะให้ท่านหาฤกษ์แต่งงานให้
มีครับ ที่บ้านผมมีทีวีสีด้วย ซื้อมาจากอังกฤษ ด็อกเตอร์หนุ่มถือโอกาสคุยทับ จะมีสักกี่คนกันเชียวที่มีโทรทัศน์สีดู
แล้วพวกเธอไม่เคยเห็นฉันในทีวีหรือไง เธอถามอีก ก็พยายามติดตามรัฐมนตรีไปทุกงานเพื่อจะให้ใคร ๆ ได้รู้จัก โดยเฉพาะเวลาออกทีวี ไม่เคยครับ ผมกับคู่หมั้นเพิ่งกลับจากอังกฤษ เมื่อเร็ว ๆ นี้ แล้วก็กำลังยุ่งเรื่องเตรียมการแต่งงาน เลยไม่มีเวลาดูทีวี
อ๋อ ได้ยินว่าคนคู่นี้เพิ่งกลับจากอังกฤษ คุณหญิงจึงถือโอกาสคุยบ้าง ฉันก็เคยไปอังกฤษหลายครั้ง ไปเยี่ยมลูก เคยได้ยินชื่อคุณหญิงปทุมทิพย์ ภรรยาท่านรัฐมนตรีผดุงเดชหรือเปล่า ฉันนี่แหละ เธอคิดว่าคนทั้งสองจะต้อง ยินดีปรีดาที่ได้รู้จักคุณหญิง หากก็ต้องผิดหวัง เมื่อฝ่ายนั้นพูดว่า
ผมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลยครับ โดยเฉพาะรัฐมนตรีเมืองไทย เราเปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อยเสียจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ฟังแล้วคุณหญิงอยากจะร้องกรี๊ด พอดีกับนายขุนทองเดินเข้ามา
พี่สมชายไม่อยู่หรอกฮะคุณหญิง หลวงพี่บอกว่าไปซื้อของที่ตลาดกับแม่ครัวตั้งแต่เช้า หนูก็ลืมสังเกตว่ารถไม่อยู่
แล้วกุญแจล่ะ มันฝากกุญแจไว้หรือเปล่า
เปล่าครับ เขาเอาไปด้วย
แหม ร้ายจริง ๆ แล้วนี่ฉันจะต้องรออีกกี่ชั่วโมงกันนี่
คุณหญิงค่อยมาวันอื่นดีไหมฮะ มาวันที่ ๑๑ ก็ได้ ท่านกำหนดออกจากสมาบัติวันนั้น
โอ๊ย ฉันรออีกไม่ไหวแล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน เธอรู้จักพระเกจิอาจารย์ดัง ๆ ของจังหวัดนี้หรือเปล่า ฉันจะได้ไปหา ให้ท่านช่วยดูให้ยิ่งเป็นพระอรหันต์ก็ยิ่งดี นายขุนทองแอบเถียงในใจว่า
โอ๊ย ถ้าท่านเป็นพระอรหันต์จริง ท่านก็ไม่มาสนใจเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ อย่างนี้หรอกคุณหญิง แต่ปากเขากลับพูดว่า หนูไม่รู้จักหรอกฮะ
อะไร เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ เธอนี่แย่จริง งั้นฉันไปถามคนขับรถของฉันก็ได้ ไม่น่าเสียเวลามาเลยกู เธอบ่น คนเป็นด็อกเตอร์กับคนจบปริญญาโทรู้สึกสังเวชใจใน กายกรรม และ วจีกรรม ของคนเป็นคุณหญิง หากก็มิได้พูดอะไรออกมา นายขุนทองเสียอีกที่ด่าไล่หลังว่า อีคนเป็นคุณหญิงเพราะผัว แล้วอธิบายให้หญิงชายคู่นั้นฟังว่า
พี่รู้ไหม ยายคุณหญิงนี่อาศัยบารมีผัวถึงได้เป็นคุณหญิง ถ้าผัวไม่เป็นรัฐมนตรีมีหรือจะได้เป็น จริงไหมพี่ คนฟังเพียงแต่ยิ้ม ๆ หากไม่ยอมออกความเห็น คนพูดจึงเปลี่ยนเรื่องถาม
พี่มีธุระมาหาหลวงลุงหรือฮะ
ครับ ผมจะมาขอให้ท่านหาฤกษ์แต่งงาน ฝ่ายชายบอก
ท่านงดรับแขกสามวันฮะ วันที่ ๑๑ พี่มาใหม่ก็แล้วกัน คนพูดคาดว่าคงจะได้รับการต่อว่าต่อขานอีก เช่นเดียวกับรายอื่น ๆ หากก็ต้องผิดคาดเพราะเขาพูดว่า
งั้นวันที่ ๑๑ ผมจะมาใหม่นะครับ พูดจบก็ลุกออกไป ไม่ถามเสียด้วยซ้ำว่าเหตุใดท่านพระครูจึงไม่ลงรับแขก
สาธุ ขอให้คนที่มาหาหลวงลุงน่ารักเหมือนคนคู่นี้ทุก ๆ คนเถิด เจ้าประคู้น นายขุนทองแอบตั้งจิตอธิษฐาน
ครู่หนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงร้องกรี๊ด ๆ ดังมาจากลานจอดรถ เสียงนั้นแหลมลึกอย่างประหลาด ชายหนุ่มจึงวิ่งไปยังที่มาของเสียง แล้วก็พบคุณหญิงปทุมทิพย์ยืนเต้นเร่า ๆ ส่งเสียงกรี๊ด ๆ อยู่ข้างรถเบ๊นซ์ ชายวัยกลางคนแต่งชุดทหารยศพันตรียืนงงงันอยู่
เกิดอะไรขึ้นหรือฮะ เขาถามนายทหาร
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เห็นคุณหญิงท่านเดินผ่านต้นปีบมา ผมก็เตรียมลงมาเปิดประตูให้ท่าน แล้วท่านก็มายืนร้องกรี๊ด ๆ อย่างที่คุณเห็นนี่แหละ
คุณหญิงฮะ คุณหญิง ผู้ชายที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง เข้าไปจับตัวคุณหญิงเขย่าแรง ๆ หมายจะให้เธอรู้สึกตัว
ว้าย อย่ามาถูกต้องตัวข้านะ เสียงแหลมกรี๊ดใส่ นายขุนทองรู้ทันทีว่านั่นมิใช่คุณหญิง แต่จะเป็นใครนั้นต้องถาม
ข้าน่ะใครล่ะ แกเป็นใคร
เป็นใครก็ช่างข้า อยากรู้จริง ๆ ก็ไม่ถามหลวงพ่อซี วิญญาณ ในร่างของคุณหญิงปทุมทิพย์ตอบ
บอกเดี๋ยวนี้ไม่ได้หรือ ทำไมจะต้องถามหลวงพ่อ ท่านกำลังอยู่ในสมาบัติ จะถามได้ยังไง
ก็เพราะอย่างนี้ซี ข้าถึงมาเข้านังคุณหญิง หมั่นไส้มันตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ที่ไม่กล้าทำอะไรเพราะเกรงใจหลวงพ่อ แขกเหรื่อที่ตั้งใจจะมาหาท่านพระครู เมื่อเดินผ่านลานจอดรถจึงพากันหยุดดู รวมทั้งด็อกเตอร์กับคู่หมั้นซึ่งกำลังจะเดินไปที่รถของตน ประเดี๋ยวหนึ่ง บรรดาแม่ครัวก็ยกขบวนกันมานำหน้าด้วยนางบุญพา นางสาวนางบุญรับ
อะไรกันวะขุนทอง นางถามหลานชายท่านพระครู
ไม่รู้เหมือนกัน ป้าดูเอาเองสิ ชายหนุ่มบอก นางบุญพาจึงเข้าไปเขย่าตัวคุณหญิง พลางถามเสียงอ่อนหวาน
คุณหญิงเจ้าขา เป็นอะไรไปเจ้าคะ ร่าง ของคุณหญิงสะบัดอย่างแสนจะรังเกียจสัมผัสของฝ่ายนั้น
อย่ามาจับข้านะ นังคนสกปรก
อิฉันอาบน้ำแล้วเจ้าค่ะ อาบเสร็จก็มานี่แหละ นางบุญพาตอบ ครั้นสบตากับคุณหญิง ก็ถึงกับขนลุกซู่ เพราะคุณหญิงจ้องนางตาไม่กระพริบ รู้ได้ทันที่ว่านั่นมิใช่คุณหญิงแต่เป็น ผี จึงก้มกราบปะหลก ๆ โอ๊ยกลัว...กลัวแล้วจ้ะ อย่าถือสาหาความอะไรกะฉันเลย ไปที่ชอบ ๆ เถอะ
ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่ช่วยหลวงพ่อดูแลวัด แกนังคนสกปรก คนอย่างแกต่อให้อาบน้ำอีกสักสิบตุ่มก็ไม่สะอาด เพราความสกปรกมันอยู่ที่ใจแก มันแนบเนื่องอยู่ในกาย ในใจของแก ข้ารู้ข้าเห็นมานานแล้ว แต่ที่ไม่ทำอะไรเพราะเกรงใจหลวงพ่อ ขอให้รู้ไว้ว่าข้ารอโอกาสนี้มานานแล้ว
ได้โปรดเถอะจ้ะ อย่าทำฉันเลย ฉันไม่เคยทำผิดคิดร้ายใคร คราวนี้ วิญญาณ ในร่างคุณหญิงเท้าสะเอวด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาชี้หน้าคนที่กำลังก้มกราบปะหลก ๆ กราบจนหยุดไม่ได้
หนอยแน่ะ พูดออกมาได้ว่าไม่เคยทำผิดคิดร้าย คนอย่างแกมันชั่วแล้วก็ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองชั่ว ชั่วทั้งกาย วาจา ใจ นึกว่าข้าไม่รู้หรือ แกมาทำครัวช่วยหลวงพ่อน่ะ แกบริสุทธ์ใจหรือก็เปล่า เวลาพวกแม่ครัวเขาเผลอ แกก็แอบเอาหอมกระเทียมบ้าง มีดบ้าง หมูบ้าง ปลาเค็มบ้าง ใส่พกกลับไปบ้าน ถึงคนอื่น ๆ จะไม่เห็น แต่ข้าก็เห็น บรรดาแม่ครัวพากันจ้องหน้านางบุญพา แล้วถามเป็นเสียงเดียวกัน
จริงหรือ นางกำลังจะปฏิเสธ คุณหญิง ก็ขู่ว่า
ถ้าพูดไม่จริง แม่จะหักคอทิ้งเดี๋ยวนี้แหละ
โอ๊ย กลัวแล้วจ้ะกลัวแล้ว อย่าทำลูกช้างเลย หลวงพ่อช่วยลูกช้างด้วย นางบุญพาร้องเสียงหลง นายสมชายกลับจากจ่ายตลาดกับหัวหน้าแม่ครัว เห็นคนยืนมุงอยู่ที่ลานจอดรถ จึงพูดกับหัวหน้าแม่คร้วว่า
เกิดอะไรขึ้นไม่รู้นะป้านะ หลวงพ่อท่านก็มาตัดสินให้ไม่ได้เสียด้วย ยังไง ๆ ผมก็ต้องรักษาคำมั่นสัญญาจนถึงที่สุด เขานำรถเข้ามาจอดใกล้ ๆ แล้วชวนหัวหน้าแม่ครัวลงไปดู นายขุนทองรีบวิ่งมารายงาน
คุณหญิงถูกวิญญาณเข้าสิงแน่ะพี่ ด่ายายบุญพาใหญ่เลย ศิษย์วัดดูประเดี๋ยวเดียวก็รู้ว่า นายขุนทองไม่ได้พูดเล่น จากประสบการณ์ที่เคยตามท่านพระครูไป จับผี หลายครั้ง จึงรู้ว่าผีที่มาเข้าคุณหญิงไม่ใช่ผีปลอม
ไปตามหลวงพี่บัวเฮียวมาด่วน นายขุนทองรีบวิ่งไปยังกุฏิของพระบัวเฮียว เห็นท่านกำลังเดินจงกรมอยู่จึงว่า
ขออภัยนะฮะหลวงพี่ คุณหญิงถูกผีเข้าฮะ หลวงพี่ช่วยไปดูหน่อย ภิกษุวัยเลยเบญจเพสพักการปฏิบัติไว้ชั่วคราว แล้วตามนายขุนทองไป
เมื่อท่านไปถึง คนที่มุงดูอยู่พากันหลีกทางให้ท่านเข้าไปในวง คุณหญิง ก้มลงกราบสามครั้ง กราบอย่างสวยงามที่สุดเท่าที่นายสมชายเคยเห็น ผีกราบพระก็เป็นด้วย กราบได้สวยกว่าคนเสียอีกแน่ะ ศิษย์วัดคิดในใจ กราบพระบัวเฮียวแล้ว คุณหญิง ก็รายงานด้วยเสียงที่แสนจะไพเราะ
ดิฉันต้องขอกราบประทานโทษพระคุณเจ้านะเจ้าคะที่บังอาจมาก้าวก่ายเรื่องของมนุษย์ ดิฉันทนไม่ไหวจริง ๆ เจ้าค่ะ
โยมมาจากไหนล่ะ ภิกษุเชื้อสายญวนถาม
ดิฉันมากับเสานั่นเจ้าค่ะ
เสาสีดำที่พิงอยู่ใต้ต้นปีบ
การมาของโยมมีจุดประสงค์อะไรหรือ
ดิฉันจะมาช่วยหลวงพ่อเจ้าค่ะ มาช่วยดูแลทำความสะอาดวัด
แล้วทำไมต้องมาเข้าคุณหญิงเขาด้วยล่ะ ไม่น่าจะทำอย่างนี้ ภิกษุหนุ่มพูดเสียงตำหนิ
ก็อยากจะสั่งสอนเจ้าค่ะ สั่งสอนทั้งคุณหญิงและยายบุญพา
แล้วสั่งสอนเสร็จหรือยัง
เสร็จแล้วเจ้าค่ะ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ พูดจบก็ก้มลงกราบสามครั้ง แต่ครั้งที่สามไม่ยอมเงย คุณหญิงปทุมทิพย์ฟุบอยู่ตรงนั้นในท่ากราบ
เอ้าโยมแม่ครัวช่วยนำคุณหญิงไปกุฏิหลวงพ่อหน่อย บรรดาแม่ครัวยกเว้นนางบุญพา ต่างช่วยกันหามคุณหญิงด้วยความทุลักทุเล เพราะคนถูกหามคงจะน้ำหนักเจ็ดสิบกิโลกรัมเป็นอย่างน้อย!
ช่วยกันเยียวยาอยู่สักครู่ คุณหญิงก็รู้สึกตัว
นี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นายทหารผู้ทำหน้าที่ขับรถพามา จึงเล่าเหตุการณ์ให้เธอฟัง เล่าจบผู้ที่นั่ง ณ ที่นั้น ต่างพากันเหลียวหาทางบุญพา หากไม่มีผู้ใด ได้เห็นแม้แต่เงาของนาง! ผู้หญิงคนนั้นหนีไปแล้ว นางจะไม่กลับมาที่วัดนี้อีก
เห็นหน้านายสมชาย คุณหญิงก็เริ่มแสดงอำนาจบารมี
นี่เธอ ช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อย ฉันจะขึ้นไปพบหลวงพ่อ เธอออกคำสั่ง
ไม่ได้หรอกครับคุณหญิง ท่านสั่งผมไว้เลยว่าห้ามเยี่ยม ห้ามประกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
นั่นเพราะท่านไม่ทราบว่าฉันจะมาน่ะซี เอาเถอะไม่ต้องพูดมาก เปิดประตูให้ฉันก็แล้วกัน อะไรเกิดขึ้นฉันขอรับผิดชอบเอง
ไม่ได้หรอกครับคุณหญิง ยังไง ๆ ผมก็เปิดให้ไม่ได้ ชายหนุ่มยืนกราน
นี่เธอลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นใคร คุณหญิงปทุมทิพย์พูดเสียงกร้าว
ผมไม่ลืมหรอกครับ
ไม่ลืมว่าคุณหญิงเป็นภรรยาของท่านรัฐมนตรีผดุงเดช ในใจนั้นอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย อดีตภรรยา
ส่วนภรรยาคนปัจจุบันเป็นเด็กอายุสิบหก
ก็ในเมื่อรู้แล้วทำไมจึงกล้าขัดคำสั่งของฉัน นายสมชายรู้สึกสมเพชคนเป็นคุณหญิงเสียนัก ผู้หญิงที่หลงยึดหลงติดกับหัวโขน! ชายหนุ่มระงับความขัดข้องหมองใจเอาไว้ แล้วพูดด้วยเสียงที่เป็นปกติว่า
ขอประทานโทษนะครับคุณหญิง ผมเปิดให้ไม่ได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภรรยารัฐมนตรีหรือ แม้กระทั่งภรรยานายกรัฐมนตรี ผมก็ไม่สามารถเปิดให้ได้ คุณหญิงค่อยมาวันอื่นเถิดครับ คนเป็นคุณหญิงอยากจะร้องกรี๊ด หากก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถจะทำให้ชายหนุ่มยินยอมได้ คุณหญิงจึงคิดจะขอยืมมือนายทหารวัยกลางคน จึงพูดขึ้นว่า
อันที่จริงฉันไม่น่าลดตัวลงมาพูดกับเธอหรอกนะ ควรจะเป็นหน้าที่ของคนขับรถของฉันมากกว่า บุญช่วยเธอจัดการให้ฉันที จัดการให้เขาทำตามคำสั่งของฉันด้วย แม้จะต้องใช้กำลังเธอก็ต้องทำ เธอยื่นคำขาด
จะเอาผมไปฆ่าไปแกง ผมก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งของคุณหญิง ถ้าผู้พันอยากได้ลูกกุญแจก็ข้ามศพผมไปก่อน ศิษย์วัดพูดอย่างเด็ดเดี่ยว พันตรีบุญช่วยรู้สึกลำบากใจ เขายอมมาทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้คุณหญิงก็เพราะหวังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพันโท พันเอก กระทั่งถึงนายพล นี่ก็ไต่เต้ามาตั้งแต่เป็นนายสิบ อุตส่าห์ตามใจผู้หญิงอ้วนที่เอาแต่ใจตัวเองไปเสียทุกเรื่อง เบื่อจนสุดเบื่อหน่ายจนสุดหน่าย คิดว่าไปรับอาสาเป็นคนขับรถให้เมียร้อยรัฐมนตรียังจะดีเสียกว่า มีทางก้าวหน้ามากกว่านี้แยะ เด็กสาวคนนั้นคงจะไม่จู้จี้ขี้บ่นเหมือนยายแก่หมูตอนคนนี้
นั่งเซ่ออยู่ทำไม จัดการตามที่ฉันสั่งเดี๋ยวนี้
ถ้าผมไม่ทำล่ะครับ คนไต่เต้ามาจากนายสิบตัดสินใจแล้ว เป็นไงเป็นกัน
หา เธอพูดอะไรนะ คุณหญิงแผดเสียงลั่นกุฏิ ดีที่ว่าพวกแม่ครัวพากันลุกออกไปทำหน้าที่ของตนแล้ว หลังจากที่มองหานางบุญพาไม่เห็น
คุณหญิงฟังไม่ถนัดหรือครับ ถ้างั้นฟังอีกครั้งนะครับ ผมจะพูดช้า ๆ ชัด ๆ เขารวบรวมความกล้าอีกครั้ง แล้วพูดด้วยเสียงที่สั่นนิด ๆ ว่า ผมไม่สามารถทำตามคำที่คุณหญิงสั่งได้หรอกครับ
ดีละ งั้นฉันจะถอดยศเธอกลับไปเป็นนายสิบอย่างเก่า คุณหญิงปทุมทิพย์ขู่
ถอดก็ถอดซีครับ แล้วผมจะไปขอให้ท่านรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ใหม่ก็ได้ ไปรับอาสาขับรถให้เมียน้อยของท่าน ขี้คร้านจะได้เป็นถึงนายพล!
มีต่อ........๗๖