กรรมฐานแก้ไขปัญหาชีวิตได้อย่างไร

โดย  พระราชสุทธิญาณมงคล

วัดอัมพวัน   .พรหมบุรี  .สิงห์บุรี

บรรยาย ณ ศาลาเทวานุกูล  สวนจิตรลดา

วันศุกร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ..๒๕๔๑

K00026

-----------------------------------------

 

           

                  ขอเจริญพรทุก ๆ ท่าน  วันนี้นับว่าเป็นมหามงคลชีวิตอีกประการหนึ่ง  ที่ท่านผู้หญิงมณีรัตน์  บุนนาค  ได้ถือโอกาสสร้างความดีของท่าน  ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน  เพราะท่านซาบซึ้งในธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว  จึงได้จัดให้มีการบรรยายธรรมและมีการสนทนาธรรม  ทุกครั้งที่ผ่านมานับว่าเป็นครั้งที่ ๑๓  ได้ทราบจากคุณฉวีวรรณ  ขจรประศาสน์  ท่านทำประโยชน์ต่อประเทศชาติในฐานะแม่บ้าน  ได้เห็นว่าท่านผู้หญิงมณีรัตน์  บุนนาค  ท่านมีศรัทธาจะอาราธนาพระสงฆ์มาแสดงธรรมะบรรยายสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง  ท่านผู้หญิงก็ได้รับสั่งให้คุณฉวีวรรณจัดพระมาแสดงธรรมะบรรยาย  คุณฉวีวรรณมีอัธยาศัย  มีวิสัยทัศน์กว้างไกล  เห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ  เป็นแม่แบบแม่แปลนที่ดีมาก  จึงอาราธนาอาตมาภาพมาฉลองศรัทธา  และแสดงธรรมะบรรยายในวันนี้  ท่านผู้หญิงมณีรัตน์  บุนนาค  ให้ชื่อเรื่องว่า  กรรมฐานแก้ไขปัญหาชีวิตได้อย่างไร?  ชีวิตนี้แล้งแค้นจะแก้อย่างไร  ขอท่านทั้งหลายได้ติดตามฟังว่าจะแก้ไขปัญหาชีวิตได้อย่างไร  เรามีสติปัญญาด้วยกันทุกคน  แต่เสียดายเวลาที่มีประโยชน์อันมีค่าที่ท่านไม่สามารถแก้ปัญหาชีวิตได้  สร้างแต่ปัญหา  พระพุทธเจ้าสอนให้แก้ปัญหา  แต่ยุคใหม่สมัยนี้กลับไปสร้างปัญหาให้ยุ่งวุ่นวาย  น่าเสียดายเวลาของท่านมากหลาย  คุณฉวีวรรณ  ขจรประศาสน์  จึงได้อาราธนาอาตมาโดยที่ท่านผู้หญิงมณีรัตน์  บุนนาค  ท่านไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นพระภิกษุรูปใดก็ได้ 

                  ทุกคนไม่มีใครว่างงาน  “ถ้าคนอยู่ว่าง  ห่างผู้ใหญ่  จะหลงทางได้ง่าย”  ก็ขอเจริญพรทุกท่านว่าถ้าท่านมีลูก  อย่าให้อยู่ว่าง  อย่าให้ห่างผู้ใหญ่  จะหลงทางได้ง่าย  ไม่จำเป็นต้องลูก  แค่โตๆ ก็หลงทางเยอะ  แต่เด็กหลงทางไม่เป็นไร  ถ้าผู้ใหญ่หลงทางนี่ซิแย่  กลับไม่ถูก  แต่เด็กหลงทาง  กลับถูก  เพราะพ่อแม่ไปตามกลับ  แต่ถ้าผู้ใหญ่หลงทางใครจะไปตาม  ถ้าท่านไม่ช่วยตัวเอง  ถ้าท่านขาดสติปัญญาท่านจะตามกลับไม่ได้  ฝากไว้ให้คิดในวันนี้ด้วย  มาพูดในวันนี้ฝากให้ท่านคิด  ให้ท่านมีสติปัญญาแก้ไขปัญหา  นี่เขาล่ำลือกันจะไปดูดาวตก  แต่ที่จริงดาวมันตกทุกวัน  แต่เพิ่งจะรู้กันหรือ  มงคลตื่นข่าวกันไม่เข้าเรื่องเสียงานเสียการ  ถ้าเป็นราชการต้องลาพักร้อนไปดูดาวตก  เสียงานไหม  ท่านพี่น้องที่รักน่าจะคิดตีความ  วันนี้อาตมาไม่ว่างหรอก  เมื่อคืนต้องแจกหนังสือผู้ที่มาอบรมที่วัดอัมพวัน  บวชมานี่ ๕๐ ปีแล้ว  เราก็ตายไปแล้ว  นี่แหละกรรมฐานมันรู้ความตายโอกาสข้างหน้า  น่าจะตีความตรงนี้  ไม่ใช่กรรมฐานไปสวรรค์นิพพาน  ไปบวชชีพราหมณ์ตามวัด  ทัวร์บุญกัน  น่าจะทัวร์บุญในอารมณ์  สร้างกุศลให้แก่จิต  ในเมื่อคุณฉวีวรรณได้กล่าวร้องขออาราธนาอาตมาก็ดีใจมาก  ได้ทราบว่าท่านผู้หญิงมณีรัตน์  ท่านสนใจกรรมฐาน  ก็อยากจะฉลองศรัทธาให้ท่าน  ขอฝากข้อคิดอีกว่าใครหนอจะอยู่ว่าง  ถ้าคนไหนอยู่ว่าง  คนนั้นใช้ไม่ได้  เลว  คนจะต้องไม่อยู่ว่าง  จะต้องไม่ห่างผู้ใหญ่  จะได้ไม่หลงทางง่าย  ฝากท่านไปสอนลูกด้วย  ถ้าลูกของท่านอยู่ว่าง  จะหลงทาง  รับรองท่านจะแก้ลูกท่านไม่ได้  อาตมาอยู่ว่างไม่ได้  ตี ๓  ตี ๔  ต้องรับโทรศัพท์จากต่างประเทศตลอด  เดี๋ยววันนี้จะต้องรีบกลับชาวฟิลิปปินส์โหนรถเมล์มาเข้ากรรมฐาน  เดือนก่อนก็ทูตกงศุลประเทศเนปาลมาเข้ากรรมฐาน  ขากลับก็เอารถตู้ไปส่งถือสถานทูต  เขาก็ดีใจมาก  เราต้องเอื้อเฟื้อสงเคราะห์เขา  คนเราต้องสงเคราะห์ตัวเองก่อนให้ได้  ถ้าสงเคราะห์ตัวเองไม่ได้  ไปสงเคราะห์คนอื่น  ก็โง่  ก็ฝากพี่น้องทุกคนที่อยู่ในสถานที่มงคลชีวิต  แก้ไขไม่พลาดผิดชีวิตในสังคมที่มีระเบียบแบบแผนมีระบบ  เพราะฉะนั้นขอฝากทุกคนอย่าอยู่ว่าง  คนไหนอยู่ว่าง  คนนั้นจิตใจต่ำ  เหมือนน้ำไหลไปสู่ที่ต่ำฉะนั้น  ต้องมีงานทำ  งานนั้นต้องถูกโฉลกโชคดีมีปัญญา  ทำงานให้มีประโยชน์ต่อตนและครอบครัว  ต่อประเทศชาติ 

                  คุณฉวีวรรณ  ขจรประศาสน์  ตั้งแต่อาตมารู้จักกันมานานแล้ว  ท่านช่วยเหลือวัดวาอารามต่างๆ  ช่วยเหลือครอบครัว  ช่วยเหลือแม่บ้าน  ไม่จำเป็นต้องมีสามีเป็น มท.  ก่อนจะเป็นก็ช่วยมานานแล้ว  ปิดทองหลังพระตามพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ปิดหน้าพระมันหล่นง่าย  ปิดทองหลังพระใครไม่รู้ไม่เป็นไรเรารู้ตัวก็พอใจแล้ว ว่าเราทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ  ศาสน์  กษัตริย์  ไม่มีอื่นใดที่จะซึ้งใจเท่ากับข้อนี้   อาตมาซึ้งใจพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าอีกข้อหนึ่ง  นักบริหารทั้งหลายโปรดทราบ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รับสั่งว่า  “คนกำลังจะจมน้ำตาย  ช่วยก่อนได้ไหม”  เหมือนอย่างเรากำลังจะจมน้ำตาย  ถ้าใครมาช่วยเรารอดพ้นจากความตาย  เราก็ดีใจ  เราจะได้ไปช่วยคนอื่นต่อไป 

                  รับสั่งอีกคำหนึ่งอาตมาก็ชอบใจมาเป็นเวลา ๑๕ ปีแล้ว  ในวันแม่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  อาตมาบันทึกไว้ ๒ หน้ากระดาษ  ท่านรับสั่งว่า 

“พ่อแม่จะสร้างบ้านเมืองให้ยิ่งสุข  ลูกต้องสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่”

                  อาตมาจดจำมา  โยมเป็นพ่อเป็นแม่สร้างบ้านเมืองให้ลูก  ให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุข  ลูกต้องสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่  เรียนหนังสือให้เป็นปริญญาเอก  เป็นรัฐมนตรี  ช่วยเหลือชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 

                  พ่อแม่ต้องสร้างบ้านเมืองให้ยิ่งสุข  หมายความว่า  พ่อแม่ต้องสร้างความดีให้กับลูก  ทำถูกให้กับหลาน  รักให้มันถูกวิธี  ทำความดีให้ลูกดู 

                  ลูกต้องสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่  หมายความว่า  ลูกต้องเรียนหนังสือให้เก่ง  กล้าประหยัด  ไม่ขาดพวกพรรค  รักษาความสะอาด  ฉลาดรอบครอบ  ชอบระวัง  ตั้งใจตรง  ดำรงศีลธรรม  นำทางถูก  ปลูกสติ  ดำริชอบ  ประกอบกุศล  ได้ผลอนันต์เป็นหลักฐานสำคัญ  ชาติคือตัวเรา  ดูชาติก็คือดูลูก  รักลูกจึงคิดปลูกฝัง  ให้ลูกตั้งตนรับฝึกศึกษา  ให้ลูกได้ดีมีปัญญา  ให้ลูกมีวิชาตั้งตนเป็นคนดี  นี่แหละได้จากกรรมฐานทั้งหมด  ถ้าไม่ได้กรรมฐานจะออกมาได้อย่างไร

                  ก็ขอเจริญพรต่อไป  พ่อแม่ปลูก  เหมือนปลูกต้นไม้  ปลูกในกระถาง  ขึ้นในกระถาง  ปลูกถี่ขึ้นถี่  ปลูกห่างขึ้นห่าง  ต้นไม้มันโต  แล้วเราจะบอกต้นไม้บ้าอะไรขึ้นไม่มีระเบียบ  ขึ้นไม่เท่ากัน  ห่างบ้าง  สั้นบ้าง  ถ้าต้นไม้พูดได้จะบอกว่าใครเป็นคนปลูก  เดี๋ยวนี้สถาบัน ๓ สถาบันทำลายสังคม  คือ วัด  โรงเรียน  ครอบครัว  พ่อแม่ไม่ได้ดูแลลูก  ลูกจึงติดยาเสพติดกันมากมาย  ถ้าบ้านไหนทำกรรมฐาน  ทั้งโรงเรียนทำกรรมฐาน  รับรองไปรอดแน่  ไม่ใช่กรรมฐานแบบไปสวรรค์นิพพาน  ญาณ ๑๖  อย่างที่เขาพูดกันในกรุงเทพฯ  นี่แหละพ่อแม่ที่เคารพรักของลูก  อาตมาจึงได้พูดกับผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีว่า  กลุ่มบ้าน  กลุ่มวัด  ต้องช่วยกลุ่มเมือง  กลุ่มเมืองต้องเข้ากับกลุ้มวัด  ช่วยกลุ่มบ้านและกลุ่มเมือง  เพราะสามัคคีสร้างความดีร่วมกัน  “รักสามัคคี  สร้างความดีร่วมกัน”  ในหลวงท่านรับสั่งไว้  ไม่มีการรักสามัคคี  สร้างความดีร่วมกันไม่ได้  แตกแยกกันไปหมด  แตกพรรค  แตกพวก  ควรจะรักสามัคคี  สร้างความดีร่วมกัน  อย่าเป็นพลูต่างใบ  ไม่ร่วมใจกัน  นี่แหละความรู้คู่กับความดีมีปัญญา  ไม่ใช่พระพุทธเจ้าสอนให้นั่งหลับตาตามวัด  สถาบันครอบครัวนี้สำคัญ 

                  เช่นที่ศาลเยาวชน  จังหวัดราชบุรี  เด็กและเยาวชนติดยาเสพติด ๘๐๐ คน  บัดนี้กลับสภาพคืนแล้ว  ได้ความว่าพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  แล้วลูกก็ไปติดยาเสพติดอย่างนี้จะแก้อย่างไร  นั่งกรรมฐานถึงจะรู้ว่า  พ่อแม่นี้ช่วยแก้ลูกได้ 

                  สถาบันโรงเรียน  น่าจะช่วยกัน  แต่ครูกลับมาขายยาเสพติด  ครูไร้วิญญาณครูเพราะไม่ได้เจริญพระกรรมฐาน  อาตมาสอนเด็กมาปีนี้เป็นดอกเตอร์ ๘๐ คน  เป็นนายพลอีกหลายคน  สอนตรงนี้  พระที่มาเทศน์ก็จะเทศน์ไปสวรรค์นิพพาน  แต่วิธีปฏิบัติ  เชิงปฏิบัติการ  เรียกว่าวิทยานิพนธ์  ไม่มีใครมาเทศน์  น่าจะเทศน์ข้อปฏิบัติกันบ้าง  วิธีการทำอย่างไร  จะได้ผลสมคาดปรารถนาทุกประการ  ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวย 

                  ) ครอบครัวไม่มีความสุข  ทะเลาะกันทุกวัน 

                  ) ผิดหวังในชีวิต  โดดตึกตาย  เป็นโรคทันสมัย  คือโรคประสาทกันทั้งบ้าน  ทั้งวัด  ทั้งการเมือง  กินไม่ได้  นอนไม่หลับ  ขอให้นั่งกรรมฐานเถิดประเสริฐที่สุดแล้ว  ไม่ต้องการไม่เป็นไร

                  ) ลูกไม่เรียนหนังสือ  จะแก้ได้อย่างไร  ไม่ใช่ไปทำบุญสร้างโบสถ์  สร้างศาลา  น่าจะสร้างคน  พระพุทธเจ้าสร้างคน  อาตมามีโครงการ “ปลุกคนให้ตื่น  เสกคนให้เป็นงาน  แก้ปัญหาชีวิตของประชาชน  ให้เขาอยู่รอดปลอดภัย”  เพราะคนเราเดี่ยวนี้ราคาตก  เศรษฐกิจตก  ทำให้คนราคาตกหมดราคา  น่าจะปลุกเสกตัวเองให้มีราคา  “ชีวิตท่านไม่มีค่า  เวลาของท่านก็จะไม่มีประโยชน์”  ถ้าท่านตีค่าชีวิตของท่านต่ำ  เวลาของท่านก็จะไม่มีประโยชน์  ไปช้อปปิ้งที่โน่น  ไปช้อปปิ้งที่นี่  เวลานาฬิกาเท่ากันหมด  เวลาแม้แต่วินาทีเดียว  จะทำให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่ากว่ากันไม่ได้หรือ  ถ้าท่านตีราคาตรงนี้ถูก  ท่านจะไม่ไปช้อปปิ้ง  ท่านจะไม่ไปเที่ยเสรสรวลหวนฮาเสียงานเสียการ  เสียเวลายังไม่พอ  เสียงานเสียการกิจการในครอบครัว  เสียราชการและหน้าที่  เดี่ยวนี้คนเราขาดกรรมฐานจึงขยันนอกหน้าที่การงาน  ไม่มีขยันในหน้าที่การงานเลย  ถือแฟ้มไปธุระเรื่อย  ไปธุระนั้นไม่ใช่หน้าที่การงาน  แต่ไปขายที่ดิน  ไปช้อปปิ้ง  นี่เรื่องจริง  อาตมาชอบพูดตรง  ไม่มีคนชอบ  ถ้าพูดหลอกลวงจะมีคนชอบมาก 

                  “ออกแขกไม่ดี  บอกเรื่องไม่ดี  ไม่ดีตลอดชีวิต”   ลิเกละครจะต้องออกแขกก่อนว่าจะเล่นเรื่องอะไร  ใครเป็นพระเอกนางเอก  ต้องออกแขกก่อน  เล่นดีหรือไม่ดี  ตัวเองจะไม่รู้หรอกว่าเล่นดีหรือไม่ดี  ต้องดีที่คนดูเขา  คนดูจะบอกเราว่าเล่นไม่ดี  ไม่มีใครดู  ถ้าออกแขกบอกหน้าพากย์ดี  รับรองว่าเล่นดีตลอดจนกระทั้งตาย  ดีทั้งลูก  ดีทั้งหลาน  ดีทั้งการงานจะแจ่มใส 

                  เดี่ยวนี้เศรษฐกิจตก  แก้ได้เยอะแยะ  ต้องช่วยกันทุกคน  อย่าให้กำลังใจตก  เศรษฐกิจตกแต่ราคาคนอย่าให้ตก  แต่ถ้ากำลังใจเราสูงขึ้นมา  พยายามปลูกศรัทธา  ถ้าญาติโยมปลูกศรัทธาตั้งใจให้มั่น  ด้วยการตั้งใจทำงาน  ทำด้วยความตั้งใจ  ทำด้วยความเคารพ  อย่าเดี๋ยว  ถ้าท่านทั้งหลายไม่มีเดี๋ยว  รับรองงานเสร็จแน่  อย่าทิ้งคำพูด  พูดแล้วต้องทำ  เคารพวาจาที่เราพูด  เคารพสถานที่  เคารพกติกานัดหมาย  เคารพกฎหมายบ้านเมืองเขา  ถ้าเราไปกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส  ก็ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมืองเขา  จะเอากฎหมายบ้านเมืองเราไปบังคับเขาไม่ได้  ทำอะไรทำด้วยความสงบ  จิตอย่าวุ่นวาย  ราคาท่านจะราคาดี  ทำอะไรทำด้วยความถูกต้องท่านจะมีราคาขึ้น  คนที่มีราคามีคุณค่าของชีวิต  คนนั้นจะต้องรู้จักตีราคาตัวเอง  อย่าตีราคาให้มันต่ำ  จะเสียหายอย่างน่าใจหาย  มีคนไปถามที่วัด  ก็บอกว่าถ้าทุกคนช่วยกันไปรอด  ทุกคนไม่เอา  ต่างคนต่างดึง  แบ่งพรรค  แบ่งพวก  มีแต่ขี้เกียจ  ขี้โกง  ขี้อิจฉาริษยากัน  ถ้าต่างคนต่างรักสามัคคี  สร้างความดีร่วมกันแล้ว  ไปรอดแน่  ด้วยการเจริญกรรมฐานแก้ปัญหาชีวิตนี้ให้ได้ 

                  ขอเจริญพรที่อาตมาไปเจอหลวงพ่อในป่าที่จังหวัดขอนแก่น  ที่เราจะไปลาสึกกับหลวงพ่อเดิม  วัดหนองโพธิ์  ท่านบอกสึกไม่ได้  จะให้คาถาคชสารวิชาช้าง  ปู่ย่าตาทวดต่อช้างถวายพระมหากษัตริย์  กรุงศรีอยุธยาราชธานี  ไม่มีใครเรียน  เราก็บอกว่าผมไม่เรียนหรอกครับ  ผมจะสึก  ขอคาถามหานิยมให้ผู้หญิงรักสักบทหนึ่งเท่านี้ก็พอ  ท่านก็ให้  “หนึ่งอย่าเป็นสอง”  พูดแล้วต้องทำ  อย่าเดี่ยว  มีคนนิยมชมชอบ  ไม่เฉพาะผู้หญิง  ผู้ชายก็ชอบ  อาตมาใช้อยู่ทุกวันนี้  พูดแล้วอย่าทิ้งคำพูด  อย่าเดี๋ยว  ไม่เสร็จอย่ากินข้าว  ไม่เสร็จอย่านอน  ทำได้มีคนนิยมชมชอบแน่นอน  สรุปใจความว่าได้เรียนวิชาคชสาร  จึงได้ไปเจอหลวงพ่อในป่าที่จังหวัดขอนแก่น  ท่านให้ปัญหามา  “อยากเรียนรู้ถามหญิงคันหูก  อยากทำถูกถามเด็กเลี้ยงควาย  คนสามบ้านอย่ากินน้ำบ่อเดียวกัน  เดินทางอย่าเหยียบรอยกัน  นะอยู่หัวสามตัวอย่าละ  นะอยู่ที่ไหนตามไปเอามาให้ได้”  ถ้าใครตอบได้  แสดงว่าคนนั้นได้กรรมฐาน  อาตมาถามพระอาจารย์มา ๕๐–๖๐ องค์  ท่านตอบไม่ได้  อาตมาดีใจมากที่ได้ช่วยเหลือประเทศชาติได้มาก  ตำรวจเข้ามาอบรมพันกว่าคนแล้ว  สามปีใช้เงินไปแล้ว ๒๕ ล้านบาท  ไม่เคยเบียดเบียนใครเลย  เด็กติดยาเสพติด ๑๑ จังหวัดในภาคอีสาน  หายหมดแล้ว  พ่อแม่ก็ดีใจกันมากมาย  นี่แหละกฎแห่งกรรมแก้ปัญหาชีวิตได้  อาตมาจึงได้ไปเจอท่านดังที่กล่าวแล้ว  ท่านบอกให้เจริญสติปัฏฐาน ๔

                                ) ระลึกชาติได้

                                ) รู้กฎแห่งกรรม

                                ) แก้ปัญหาชีวิตได้

                  ถ้าใครตอบอย่างที่อาตมาว่าแล้ว  แสดงว่าท่านเจริญกรรมฐานได้ 

                  “อยากเรียนรู้ถามหญิงคันหูก  อยากทำถูกถามเด็กเลี้ยงควาย  คนสามบ้านอย่ากินน้ำบ่อเดียวกัน  เดินทางอย่าเหยียบรอยกัน  นะอยู่หัวสามตัวอย่าละ  นะอยู่ที่ไหนตามไปเอามาให้ได้”  อาตมากว่าจะทำได้ใช้เวลาตั้ง ๑๐ กว่าปี  ทำได้เจอกับท่านที่เขาภูคา  จังหวัดน่าน  แล้วก็ไปเจอท่านเมื่ออายุ ๔๕ ปี  เดินธุดงค์เข้าเบกองพม่ารามัญจึงได้มีโอกาสใช้คาถาคชสาร  ช้างตกน้ำมันทำอย่างไร  ช้างหูทิพย์เป็นอย่างไร  เมื่อ ๕ ปีที่เขาใหญ่  พระธุดงค์ถูกช้างเหยียบตาย  ไม่รู้จักแผ่เมตตาให้เทวดาช้าง  คนที่เรียนคชสารต้องเพ่งกสิณได้  อาตมาประสบปัญหามากมายจึงแก้ปัญหาได้  เสียงประหลาดบอกว่า  นะโมได้หรือยัง  ยังไม่ได้อย่าสึก  พุทธคุณ  ธรรมคุณ  สังฆคุณ  ไม่ได้อย่าสึก  รู้แล้วว่าเมื่อก่อนนี้อาตมาปากกล้าขาแข็ง  เถียงพ่อเถียงแม่คำไม่ตกฟาก  นี่ไม่มีนะโม  อาตมาถามพวกนครศรีธรรมราษฎร์ที่ไปที่วัดอัมพวันตอบไม่ได้สักคนเดียว  กระทั้งที่อยู่ใกล้เกลือกินด่าง  พระอรหันต์ ๒ องค์จากศรีลังการเข้าสู่นครศรีธรรมราษฎร์  องค์หนึ่งให้เรียนวิชาการ  องค์หนึ่งให้เรียนวิปัสสนา  ทำให้พวกนครศรีธรรมราษฎร์  จากชาวประมงเหี้ยมโหดฆ่าสัตว์  หันมาเรียนธรรมะนั่งกรรมฐาน  จึงเกิดปัญญา  จึงทำเครื่องถมลายทอง  แหวนนะโม  ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน  เจอผู้ใหญ่ต้องยกมือไหว้   สอนเด็กนักเรียนเมื่อคืนนี้  “หนูไปโรงเรียนไหว้พ่อแม่ ๓ หน  เจอผู้สูงอายุเลี่ยงทางยกมือไหว้  เจอพระนมัสการ”  เดี๋ยวนี้จะเหยียบหัวคนเฒ่าคนแก่  ไม่มีอ่อนน้อมถ่อมตน  กระทั่งเป็นหนุ่มเป็นสาวยืนพูดกับคนแก่คนเฒ่า  เจอพระก็จะชน  ี่พระพุทธเจ้าสอนตรงนี้  ระเบียบแบบแผนประเพณีไทย  ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย  เจอผู้สูงอายุต้องคลาน  เพราะฉะนั้นเราทำอะไรก็ต้อง  นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต   สัมมาสัมพุทธัสสะ  อ่อนน้อม  ถ่อมตน  ปากหวาน  ตัวอ่อน  มือเป็นหงอน  โปรดกรุณานำไปสอนลูกหลาน 

“อดทนเป็นสมบัติของนักต่อสู้                        ความรู้เป็นสมบัติของนักปราชญ์

   ความสามารถเป็นคุณสมบัติของนักประกอบกิจ    ความมีระเบียบทุกชนิดเป็นสมบัติของผู้ดี”

                  คนขาดระเบียบ  ไม่เพียบด้วยวินัย  เป็นผู้ดีไม่ได้

“ยืนลุก  ยืนรับ  ยืนคำนับ  ผู้บังคับบัญชา”

                  แสดงถึงฐานะของผู้ใหญ่  ทำไมเป็นผู้น้อยนิ่งดูดาย  อยู่ในพระไตรปิฎก  การไหว้เบญจางคประดิษฐ์  นี่เป็นคำสอนของประเพณีไทยตั้งแต่สุโขทัยราชธานี  คนสุโขทัยได้รับศาสนามาจากนครศรีธรรมราษฎร์  คนที่มีธรรมะ  มีกรรมฐาน  จะมีปัญญา  ความนี้รู้ถึงพระราชาแห่งกรุงสุโขทัย  จึงมีสารนิมนต์พระขึ้นสู่กรุงสุโขทัยราชธานี  พระราชาทรงผนวชทันที  สถูปเจดีย์ที่สุโขทัยจึงเหมือนประเทศศรีลังกา  เพราะพระสงฆ์มาจาศรีลังกามาประการศาสนา  แล้วเราก็เอาคืนไปสู่ประเทศศรีลังกา  จากกรุงศรีอยุธยา  คืออุบาลี  โดยเฉพาะสมเด็จพนรัตน์วัดป่าแก้ว  ที่เราได้บทพาหุงมหากาฯ  ไม่มีใครสวดกัน  ไปสวดชินบัญชรของสมเด็จโต  สมเด็จโตท่านสวดบูชาพระอรหันต์ของท่าน  บูชาพระธาตุ  ไม่ใช่เรามาสวด  แต่เราน่าจะสวดพาหุงมหากาฯ  มารผจญเราแล้ว  ขอฝากให้ทุกคนสวดให้เท่าอายุเกิน ๑  มารแพ้หมด  มารไม่มีบารมีไม่เกิด  ความพยามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น  อุปสรรคเป็นครู  ศัตรูเป็นยากำลัง  อุปสรรคขัดข้องอย่าเอาไปทิ้ง  เอามาแก้ปัญหานี่แหละครูของเรา  ศัตรูเป็นยากำลังเพิ่มบารมีให้เราดี  ชีวิตนี้จะเกิดประโยชน์  อย่างเราต้นไม้ใหญ่ลมบนมันแรง  อย่างต้นไม้เล็ก ๆ นี้มันไม่มีลมมาพัด  อดทนต่อไป  ชีวิตจะไม่แล้งแค้น  จะมีแปลนและแผนผังอย่างดี  บางแห่งประเพณีนอนไหว้  คนจีนกราบสามสามเก้า คนไทยกราบเบญจางคประดิษฐ์  ทิเบตนอนกราบ  อินเดียบางแห่งนอนกราบ  องค์ดาไลลามะนอนกราบ  มิใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าเลย  แต่เป็นประเพณีของแต่ละประเทศ  พม่าก็กราบคนละอย่าง  แต่พระพุทธเจ้าสอนอะไร  ผู้ใหญ่มาให้ยืน  ยืนลุก  ยืนรับ  ยืนคำนับ  ผู้บังคับบัญชา  แสดงฐานะผู้ใหญ่  ทำไมผู้น้อยนิ่งดูดาย  อยู่ที่พระไตรปิฎก  ฝรั่งเอาไปใช้หมด  ส่วนคนไทยไม่สนใจ  ถ้าเราไม่มีการเคารพผู้ใหญ่จะไม่มีระเบียบวินัย  ประเพณีไทยก็หมดไปแล้วไม่มีการเคารพผู้ใหญ่ ในเมื่อขาดการเคารพผู้ใหญ่ประเพณีไทยหมด  แต่ทำไมเด็กเสียหาย  เพราะไม่เคารพผู้ใหญ่  เถียงพ่อเถียงแม่คำไม่ตกฟาก  เสียหายตรงนี้  ก็ขอฝากญาติพี่น้องไว้ในโอกาสนี้ 

                  พระพุทธเจ้าเน้นวิชาการ  พระพุทธเจ้าก่อนจะไปบวชนั้นท่านสำเร็จ ๑๘ ดอกเตอร์  (เพราะฉะนั้นขอฝากพี่น้องไว้ว่ามีลูกมีหลานขอให้เรียนเก่งเร่งก้าวหน้า)  ทำไมพระพุทธเจ้าต้องออกบวชด้วย  เพราะต้องการไปหาวิชาแก้ปัญหาชีวิต  วิชานี้ไม่มีใครสอน  จะไปหาที่ไหนได้ต้องไปฝึกเอง  จึงได้เสด็จบรรพชา  ต้องการจะไปหาวิชานี้ให้ได้  แก้ปัญหาชีวิตอย่างไร  ทุกคนต้องแก้ปัญหาเอง  ไม่ใช่ไปหาหมอดู  คนไปหาหมอดูนี่โง่ที่สุด  อย่าไปหาผีเจ้าเข้าทรง  โง่ที่สุด  ผีแก้ปัญหาไม่ได้  หมอดูจะแก้ได้หรือ  มีลูกสาวจะแต่งงาน  ไปหาหมอดูวันได้เดือนถึงแล้วค่อยแต่ง  นั่นแหละโง่ที่สุด  วิธีแก้ทำอย่างไร  ดูจิตใจเข้ากันได้ไหม  นิสัยใกล้เคียงกันไหม  ดูกันนานหรือเปล่า  หรือว่าดูเช้าได้เย็น  ได้เย็นทิ้งเช้าอย่างนั้นหรือ  แม่เดี่ยวนี้ก็ใช้ไม่ได้  ชอบไปหาหมอดู  วัดในกรุงเทพฯ มีเยอะ  น่าจะใช้วิธีการว่า  จิตใจเข้ากันได้ไหม  ไม่ใช่ปลัดอำเภอแล้วไปได้ภรรยาเป็นนางเอกลิเก  ตัวอย่างที่สิงห์บุรี  เมื่อปี พ..๒๕๐๐ มีลูกศิษย์อยู่คนหึ่งเป็นปลัดอำเภอ  จบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา  ไปแต่งงานกับนางลิเกคณะรำพึง อยุธยา  บอกว่านี่ปลัดมันถูกสเป็คเดียวกันไหม  โอ๊ย หลวงพ่อไม่รู้เรื่อง  ผมชอบของผม  พอปีเดียวก็เลิกกัน  นี่เสียเวลาไหม  เรียนมาสูง  กลับโง่ลง  พอเลิกกันแล้วก็มากราบขอโทษ  นางเอกลิเกก็ต้องไปแต่งงานกับพระเอกลิเกซิ  ปลัดอำเภอก็ต้องไปแต่งงานกับดอกเตอร์ซิ  พอเลิกกันแล้วก็เสกให้มาบวชแล้วนั่งกรรมฐาน  พอนั่งกรรมฐานก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด  แล้วก็ไปเป็นปลัดกระทรวง  ไปเป็นปลัดกระทรวงอื่น  น่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย  แต่กรรมฐานแก้ไขปัญหาที่หลงผิดจากนางเอกลิเก  เลยมาได้นางเอกเป็นดอกเตอร์  มีลูก ๒ คนก็เป็นดอกเตอร์  รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้  อย่างฝรั่งจะแต่งงานมานั่งกรรมฐาน  รู้ว่าจะต้องได้กับคนง่อยเปลี้ยเสียขา  อย่างนี้เป็นต้น 

                  เพราะฉะนั้นขอสรุปใจความให้สั้นว่า พระพุทธเจ้าเน้นวิชาการ  พี่น้องทั้งหลายมีลูกขอให้รวยสวยเก่งเรียนหนังสือให้ได้  เพราะเรียนหนังสือนี้ติดตัวลูกไปได้  ญาติโยมมีสมบัติมากมายก่ายกองก็ไม่สามารถเอาไปได้แน่  มีวิชาตายไปแล้วยังติดตัวไปชาติหน้าได้  มีตัวอย่างเยอะ

                  ต่อไปนั้นกรรมฐานแก้ปัญหาชีวิตได้อย่างไร  การกำหนดจิต  เป็นการแก้ปัญหาชีวิต  แต่พวกเราไม่ค่อยสนใจกัน  บางทีไปนั่งกรรมฐานกลับมาแล้วทิ้งเลย เลิกไปเลย  แก้ไม่ได้  การตั้งสติสัมปชัญญะเป็นการแก้ปัญหาชีวิต  จะได้รู้ว่าเรามีปัญหาอะไร  เช่นอาตมาไปพบหลวงพ่อในป่า  องค์นี้อยู่ในป่า  หลวงพ่อในป่าองค์นี้เป็นผู้ให้กรรมฐานพระเจ้าตากสิน  องค์ที่สองเรา  และองค์ที่สามพระบัวเฮียว  ตอนนี้ยังอยู่ในป่า  แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นพระอยู่แบบนี้  อาตมาถึงได้ไปสร้างศูนย์เวฬุวันจังหวัดขอนแก่น  โดยมีพญานาคมาช่วย  ถ้ำมันอยู่ที่ศูนย์เวฬุวันไปโผล่ที่แม่น้ำโขง  จังหัดหนองาย  ถ้าทำดีจะร้อนถึงจักรินทร์เทวราช  ร้อนถึงพญานาคามาช่วย ถ้าทำชั่วจะร้อนถึงยมพระบาล  จะเอาโซ่ตรวนมาลากไปเมื่อไรใครจะรู้ได้  ที่พระพุทธเจ้าทรงบรรพชา  ไปหาตำราแก้ไขปัญหามาให้พวกเรา  แต่พวกเราเอาไปทิ้งกันหมด  สร้างวัตถุกันมากมาย  แต่สร้างคนด้วยวิชาแก้ปัญหาคือกรรมฐาน  แก้ปัญหาชีวิตได้  “อยากเรียนรู้ถามหญิงคันหูก”  คือยืนหนอ ๕ ครั้ง  ในเมื่อยืนหนอ ๕ ครั้งได้แล้ว  โดยยืนกลับไปกลับมา  มองเห็นคนอื่นนิสัยไม่ดีจะบอกออกมาเอง  อ่านตัวออก  บอกตัวได้  ใช้ตัวเป็น  จะได้เห็นตัวตาย  จะได้คลายทิฏฐิ  จะได้ดำริชอบ  ประกอบกุศลได้ผลอนันต์เป็นหลักฐานสำคัญ  ถ้าเราอ่านตัวเองไม่ออกอย่าไปอ่านคนอื่น  ยืนหนอ ๕ ครั้ง  ตั้งแต่จากศีรษะลงปลายเท้า  ก็คือตจปัญจกรรมฐาน  ถ้าใครเคยบวชมาจะรู้  อุปัชฌาย์จะให้ผ้ากาสาวพัสตร์จะต้องให้เรียนกรรมฐานก่อน  เกสา  โลมา  นะขา  ทันตา  ตะโจ  ตะโจ  ทันตา  นะขา  โลมา  เกสา  ๕ ครั้ง  จะรู้วาระจิตของคน  อย่างอาตมานี่ทำมา ๑๐ ปีกว่าจะได้  แล้วมาสอนที่วัดอัมพวัน  ขอให้พี่น้องเราเอาไปทำกันให้ได้  พอเห็นคนเดินมาจะย้อนมาหาเราว่าคนนี้นิสัยไม่ดีคบไม่ได้  มันจะออกมาจากดวงใจของเราเองว่า 

                        คบพาล  จะได้ผิด                            คบบัณฑิต  จะได้ผล 

                        คบคนชั่ว  ทำตัวให้อับจน               คบคนดี  ให้ผลจนวันตาย

                        เมาเพสก็หมดค่า                              เมาสุรา  หมดความสำคัญ

                        เมาการพนัน  หมดตัว                     เมาเพื่อนชั่ว  หมดดี

            เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ไปหาวิชานี้  ที่ไม่มีครูสอน  เรียกว่าวิชากรรมฐาน  แก้ปัญหาชีวิตได้  แล้วนำมาสอนพวกเรา  ได้แก่  ศีล  สมาธิ  ปัญญา

            ศีล  แปลว่า  ปกติ  ไม่จำเป็นต้องมารับกับพระ  คนจะปกติได้ต้องมีสติสัมปชัญญะ  ถ้ามีสติสัมปชัญญะไม่ได้เป็นคนปกติไม่ได้ 

            สมาธิ  คือ  จับงานอย่าทิ้งงาน  ปรับปรุงตัวเอง  เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางที่ดี

            ปัญญา  แปลว่า  แก้ปัญหาได้แล้ว

            สรุปคือ  สติตัวต้น  สติตัวกลาง  สติตัวปลาย,  สติตัวต้น  จะทำอะไรก็รู้ก่อน  คิดหนอที่ลิ้นปี่นี่  คิดหนอ…  หายใจยาว  หายใจตั้งแต่จมูกถึงสะดือ คิดออกมาแล้วก็จดไว้  สติตัวกลางก็คือสัมปชัญญะ  ตัวสมาธิ  ตัวรู้  ตัวเข้าใจ

            เห็นหนอ…  ส่งกระแสจิตออกจากหน้าผาก  ขอให้ผู้ปฏิบัติสนใจนำไปปฏิบัติ  อุนาโลมาปัชชายะเต  ออกไปนี่  เห็นจากศีรษะลงปลายเท้า  ปลายเท้าขึ้นศีรษะ เดี๋ยวจะย้อนกลับมาบอก  คนนี้นิสัยไม่ดี  กำลังมีชู้  ตัวอย่างโดยที่อดีตที่ผ่านมาท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี  นายประมวล  รุจนเสรี  ท่านนำข้าราชการไปอบรมที่วัดอัมพวัน  ถึง ๑๓ รุ่น  แก้ไขปัญหาไปได้เยอะ  ครูคนหนึ่งมีชู้แล้ว  อาตมาก็เห็นหนอ…  แล้วก็บรรยายออกไป  พอนั่งกรรมฐานผ่านไปก็เลิกได้  ครูคนหนึ่งอยู่อำเภอสระแก้ว  ไม่มีลูก  มา ๑๐ ปี  ครูผู้หญิงนี้ก็กลับไปแล้วมีลูก  ก็บอกว่ามีลูกที่วัดอัมพวัน  สามีก็อยากมีลูกผู้ชายต่ออีก  จนในที่สุดมีลูก ๓ คน  อาตมาก็ตั้งใจบอกผู้ว่าฯ ไว้ว่าอยากจะเปลี่ยนอำเภอเป็นจังหวัด  เพราะว่าอาตมาเคยไปบรรยายชายแดนแต่ละอำเภออยู่ห่างกันเป็นร้อยกิโลเมตร  จนปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นจังหวัดสระแก้ว  อาตมาก็ดีใจมากข้าราชการจังหวัดปราจีนบุรีมาที่วัดอัมพวันเป็นประจำ  ทำให้ได้ข้าวสารจากปราจีนบุรีมาเยอะ  ท่านไปเป็นเจ้าเมืองที่แม่ฮ่องสอน  พวกกะเหรี่ยงพวกพม่ามาปล้น  ท่านก็โทรศัพท์มาให้กองทัพภาคที่ ๓ มาช่วย  นึกได้ก็จุดธูปบูชาพระนเรศวร  แล้วพระนเรศวรก็ลอยอยู่กลางอากาศ  เครื่องบินกองทัพภาคที่ ๓ ต้องกลับฝนก็ตก  พม่ากับกะเหรี่ยงไปก็ไม่ได้อะไรไปเพราะพระนเรศวรมาช่วย 

            ลมหายใจคนเรานั้นไม่เหมือนกัน  แก้ที่ลมหายใจ  คนที่มีโลภะ  หายใจไซเกิลนี้  กลิ่นตัวแบบนี้  กลิ่นตัวเหม็นอย่างนี้  คนที่มีโทสะอิจฉาคนเก่ง  หายใจไซเกิลนี้  กลิ่นตัวแบบนี้  คนที่มีโมหะจริต  หายใจไซเกิลนี้  กลิ่นตัวอย่างนี้  แก้ได้  คนที่มีโลภะหายใจสั้นๆ ยาว  หายใจนี่เป็นตัวหนังสือได้  อย่างเด็กลูกเสือตีธงเป็นตัวหนังสือได้  แล้วลมหายใจก็เป็นตัวหนังสือได้       ถ้าท่านโมโหร้ายท่านจะหายใจสั้น  ขอให้ท่านหายใจยาวๆ ตั้งสติไว้ที่ลิ้นปี่  รับรองว่าท่านจะอารมณ์ดีทัน  อย่าฝากอารมณ์ค้างไว้  ถ้าท่านไปรับราชการจะลำบาก  ท่านจะค้าขายไม่ได้อะไร  ถ้าเป็นแม่ค้าขายอาหารคลื่นไส้  คนกินก็คลื่นไส้หมด  เพราะอารมณ์ไม่ดี  เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาด้วยการเจริญกรรมฐานไม่ยากเลย  เข้าวัดให้มันได้ ๓ วัด  ไม่ใช่วัดอัมพวัน

            . วัตถุธรรม  ถ้าธรรมะท่านมีอยู่ในจิตใจ  วัตถุสะอาด  ที่กินสะอาด  ที่ถ่ายสะดวก  กินของร้อน  นอนในมุ้ง  ทุ่งในส้วม  สวมรองเท้า 

            . วัดอารมณ์  อย่าให้อารมณ์เสีย  ตั้งสติไว้ที่ลิ้นปี่นี่  คิดออกหมด  โกรธก็จะหายโกรธทันที 

            . วัดจิตวัดใจ

                  ก็ขอสรุปใจความว่า  ถ้าท่านจะแก้ปัญหา  ให้สวดมนต์ก่อน  “สวดมนต์เป็นยาทา  วิปัสสนาเป็นยากิน”  สวดพาหุงมหากาฯ  เป็นบทสวดที่สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว  สวดถวายพระพรสมเด็จพระนเรศวรไม่เคยแพ้ทัพ  แต่เราไม่เคยไปสวด  ไปสวดบทอะไรต่อมิอะไรไม่เป็นเรื่องเป็นราว  ถวายพระพรนำมาสวดตอนที่ตักบาตร  ใส่บาตรก็สวดบทนี้  รับรองสวดบทนี้ไม่ต้องกลัวอดข้าว  ถ้าใครยากจนสวดบทนี้เข้าไว้  เดี่ยวเงินไหลนอง  ทองไหลมา  รวยแน่  การแก้ไขปัญหาในกิจประจำวัน  ได้ยินเสียงตั้งสติไว้ที่หูไว้ให้ได้  อ๋อ ! เสียงนี้เขาพูดโกหก  สติมีไหม  สติมีจะรู้ว่าคนนี้โกหกเชื่อไม่ได้  อ๋อ ! เสียงคนนี้เชื่อได้  มีประโยชน์ในการแก้ปัญหาในชีวิตกิจประจำวัน  เห็นหนอ…  เห็นด้วยปัญญา  เห็นหัวขาด  จดไว้ได้เลยต้องตายแน่  เพราะอาตมาบันทึกหลักฐานไว้หลายคนตายหมดแล้ว  บอกให้เขาอยู่กรรมฐาน  ถ้าเขาอยู่กรรมฐานตั้งใจไม่ตายได้  อาตมาก็เล่าให้คุณฉวีวรรณฟังว่า  คนอเมริกาจะมาขอบคุณขอบใจเราที่ช่วยแผ่เมตตาให้ลูกเขาที่ตกตึกฟื้นขึ้นมาได้  สลบไป ๓ วัน  อย่างนี้เป็นต้น

                  ในวันนี้ก็ขอฝากพี่น้องทั้งหลายไว้ว่า  ให้เจริญพระกรรมฐานแก้กรรมได้  แก้ปัญหาได้ 

                  ) ปาณาติบาต  ติดมา ๖๐%  ต้องเป็นอัมพาตทุกราย 

                  ๒) อทินาทานา  ติดมา ๖๐%  ต้องโดนจี้  โดนปล้น  ไฟไหม้บ้าน

                  ๓) กาเมฯ  ติดมา ๖๐%   มีผัวเป็นของเขาหมด  มีเมียก็มีชู้  ครอบครัวหาความสุขไม่ได้

                  ๔) มุสาวาทฯ  ติดมา ๖๐%  ต้องโดนหลอกตลอดชาติ  โดนโกง

                  ๕) สุราฯ  ติดมา ๖๐%  ต้องเป็นโรคประสาท ๗ ชั่วโคตร  ถ้าเอาสุราไปกินในวัดกำลังสวดพระอภิธรรม  รับรองเป็นบ้าแน่  อย่างพวกขายยาเสพติด ลูกหลานก็จะเป็นบ้า 

 

                  สุดท้ายนี้ก็ขออนุโมทนาที่ได้บรรยายมา  เพื่อฉลองศรัทธาท่านผู้หญิงมณีรัตน์  บุนนาค  พร้อมด้วยวันนี้ที่ท่านทั้งหลายได้มีโอกาสมาถวายเป็นพระราชกุศล  ต่อบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 

                  ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย  บุญกุศลทั้งหลาย  ดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายจงประสบแต่ความสุขสันต์นิรันดร  ขอเจริญจงเจริญไปด้วยจตุพิธพรชัย ๔ ประการ  มีอายุขอให้ยืนนาน  วัณโณผิวพรรณผ่องใส  สุขังขอให้สุขภาพกายอนามัย  ทุกท่านโปรดได้ใจดี  โรคภัยไข้เจ็บมีก็โปรดหาย  สิ่งทั้งหลายที่คิดไว้ ณ บัดนี้  และจะคิดต่อไปในโอกาสหน้า  จงพลังงานให้เกิดความสำเร็จเผด็จผล  สมเจตจำนงความมุ่งมาดปรารถนาด้วยกันทุก ๆ ท่าน  ณ โอกาสบัดนี้เทอญ.

ทีฆายุโก  โหตุ  มหาราชา            ทีฆายุโก  โหตุ  มหาราชินี

                  ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ที่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลต่อพระองค์  ๗๒ พรรษา  ขอพระองค์จงเจริญด้วยสุขสมบัติ  เกษมสำราญในหน้าที่และพระชนมายุจงทุกประการ  ขอพระองค์สุขเกษมเปรมปรีดาอยู่ในจิต  ขอเราท่านทั้งหลายจงเจริญสุขทุกราตรีกาลด้วยกันทุก ๆ ณ โอกาสบัดนี้เทอญ.

 

--------------------------