โครงการพัฒนาจิตใจนักเรียนพลตำรวจ
พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ กีรติบุญมานนท์
V11001
การฝึกอบรมพัฒนาจิตใจให้กับนักเรียนพลตำรวจ
เป็นนโยบายของกรมตำรวจ และตามนัยคำสั่งของกองบัญชาการศึกษา
ได้สั่งการให้กองกำกับการโรงเรียนตำรวจภูธร ๔ ขอนแก่น
จัดทำโครงการพัฒนาจิตใจเพื่อฝึกอบรมบุคลากร ให้เกิดความรู้ความเข้าใจในวิชาต่าง ๆ
ที่เกี่ยวกับอุดมการณ์ชีวิต ปรัชญาชีวิต หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการครองตน ครองคน ครองงาน
ตลอดทั้งรู้หลักการในการดำรงตนอยู่ในสังคมตำรวจ
และสังคมโลกาภิวัตน์ได้อย่างผาสุกและราบรื่น
พันตำรวจเอก วิรัช จันทรัตน์ ผู้กำกับการโรงเรียนตำรวจภูธร ๔ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท เฉลิมเกียรติ กีรติบุญมานนท์ สารวัตรทำหน้าที่อาจารย์บริหารงานตำรวจ ไปศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับนำเรียนพลตำรวจ
ตามแนวทางที่มีอยู่และแนวทางใหม่ อันจะนำไปผสมผสานให้เกิดการนำไปสู่การปฏิบัติได้ทันที
จากเหตุและผลตามแนวคิดดังกล่าว
กระผมจึงได้ไปติดต่อประสานงานกับศูนย์วิปัสสนากรรมฐานเวฬุวัน บ้านเนินทอง
ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีพระอาจารย์ ธีรวัฒน์ ฐานุตตโร
รักษาการและเป็นหัวหน้าฝ่ายสงฆ์ ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ศูนย์ได้เปิดอบรมพัฒนาจิตใจ
โดยเน้นหนักไปทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ตามแบบวิธีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ
ฐิตธมฺโม หรือ พระราชสุทธิญาณมงคล เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี
จังหวัดสิงห์บุรี ได้แก่การกำหนดลมหายใจเข้า ออก ว่า พอง-หนอ, ยุบ-หนอ,
นั่ง-หนอ, ยืน-หนอ, พอง-หนอ, เดิน-หนอ ฯลฯ จึงได้แนวคิดว่า
ถ้าได้ประยุกต์โครงการพัฒนาจิตใจที่เคยทำอยู่
แล้วนำวิชาพัฒนาจิตพัฒนากายไปลงปฏิบัติที่ศูนย์พัฒนาจิตเวฬุวัน จะได้ผลมากกว่า
กระผมจึงได้ร่างโครงการพัฒนาจิตใจลงสู่การปฏิบัติตามแบบของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญฯ
นำเสนอต่อท่านผู้กำกับการ ซึ่งท่านก็ได้อนุมัติโครงการในทันที เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว
คณะทำงานก็ได้นำนักเรียนพลตำรวจเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานเวฬุวัน
ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ เป็นรุ่นที่ ๑ จำนวน ๔๕๖ นาย
และผู้บังคับบัญชาอีก ๙ นาย ร่วมปฏิบัติธรรมพร้อมกัน ส่วนรุ่นที่ ๒
ปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๔๐ จำนวน ๔๕๔ นาย
พร้อมผู้บังคับบัญชาชุดเดิม
จากการสังเกต
นักเรียนพลตำรวจทั้งสองรุ่น ดูเหมือนว่าพวกเขาถูกบังคับให้เข้าปฏิบัติธรรม
พฤติกรรมที่แสดงออกมาค่อนข้างจะต่อต้านนิด ๆ แต่ก็อยู่ในสายตาของผู้บังคับบัญชา
ในวันแรกนี้พวกเราจะไม่พูดอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระอาจารย์ธีรวัฒน์
กับคณะวิทยากรของท่าน ๕ คน ยกจิตที่ตกต่ำขึ้นสู่บัลลังก์ใจให้ได้ก่อน
เมื่อได้สมาทานศีล ๘ แล้วก็ฟังพระอาจารย์ธีรวัฒน์ แสดงธรรมเป็นการปฐมนิเทศไปในตัว
ตกกลางคืนเสียงระฆังดังกังวานเรียกรวมในห้องโถงใหญ่ศาลาสุทธิญาณมงคล
เพื่อสวดมนต์ร่วมกันกับอุบาสกอุบาสิกาซึ่งเป็นชาวบ้าน และนักเรียนชายหญิงนับร้อยคน
ค่ำคืนนี้นี่เองพระอาจารย์ธีรวัฒน์ นำสวดอิติปิโส ๑๐๘ จบ และสวดมนต์ทำวัตรเย็น
สวดพระคาถาอื่นอีกนานเกือบ ๒ ชั่วโมงเศษ เพราะเป็นวันมาฆบูชา
ทำให้นักปฏิบัติธรรมเปลี่ยนท่านั่งพับเพียบซ้ำแล้วซ้ำอีก
พอสวดเสร็จพระอาจารย์แสดงธรรม จากนั้นจึงปล่อยให้พักผ่อนและเข้านอน
วันแรกผ่านไป
ความทรงจำยังคงมีแต่ต้องเก็บไว้กระมัง พูดอะไรก็ไม่ได้ เพราะสมาทานศีล ๘ ไปแล้ว
ต้องเสงี่ยมเจียมตัว การเดินเหินไปทางใดต้องพิจารณาจิต กำหนดจิต ขวา - ย่าง หนอ, ซ้าย ย่าง หนอ ฯลฯ เห็นนักปฏิบัติธรรมให้ความสนใจปฏิบัติตัวแล้วรู้สึกเป็นบุญตาจริง
ๆ ทำเอาผู้เขียนก็นั่งซึมน้ำตาไหลทีเดียว
วันที่สองผ่านไป
และวันนี้เป็นวัดสุดท้าย พระอาจารย์ธีรวัฒน์ แจ้งว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ
ฐิตธมฺโม ได้เดินทางมาถึงวัดตั้งแต่เมื่อคืน
นักปฏิบัติธรรมหน้าใหม่รู้ข่าวต่างก็มีสีหน้าเบิกบานอิ่มเอิบอยากพบ อยากฟัง
ต่างรอคอย และเมื่อได้ยินได้ฟังการแสดงธรรมจากหลวงพ่อท่านแล้ว
บางคนดูกิริยาอาการรู้สึกว่าพึงพอใจเหลือล้น บางคนบอกความรู้สึกต่อตนเองว่า
คาดไม่ถึงว่าโครงการนี้เท่ากับต่ออายุเขาไว้ บางคนบอกว่าไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา
บางคนบอกว่าเวลาที่เสียไปไปทำอะไร ปล่อยให้ตนเองบาปอยู่ทำไม
บางคนก็บอกว่าแม้ชีวิตจะเหลือน้อยลงเพียงใดแต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำดีทัน
และที่ทุกคนได้รับในวันปัจฉิมนิเทศก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้มอบอาวุธอันวิเศษ
สำหรับตำรวจทุกคนได้แก่ เอ็ม ๑๖ จำนวน ๒ กระบอก พร้อมกระสุน ๑๐ นัด (เอ็ม ๑๖
หมายถึงมือทั้ง ๒ ข้าง กระสุน ๑๐ นัด ก็คือนิ้วมือทั้งสิบที่พนมขึ้นมา) ทุกคนพร้อมผู้เขียนก็น้อมรับด้วยความปีติยินดี
พวกเรารู้สึกดีใจ พอใจและเป็นเกียรติเป็นศรีกับตนเองอย่างมาก
ที่ได้มาร่วมปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวฬุวันแห่งนี้
พวกกระผมจะยึดมั่นในพระพุทธศาสนา จะทดแทนคุณพ่อแม่ ครู อุปัชฌาย์อาจารย์
และจะยึดเป็นธรรมนูญของชีวิตต่อไป ตราบนานเท่านาน
สุดท้ายนี้
กระผมของกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม พระอาจารย์ธีรวัฒน์ ฐานุตตโร
ท่านอาจารย์ที่เป็นวิทยากร ท่านผู้มีอุปการคุณ ทายกทายิกา และบริกรทั้งชายหญิง
ที่เสียสละอุทิศแรงกายแรงใจ อดตาหลับขับตานอน มาทำงานจัดเลี้ยง จัดบริการและจัดการอื่น
ๆ จนกระทั่งทำให้พวกกระผมได้มีโอกาสมาใช้บริการทำให้เกิดธรรมในดวงใจ จนพูดได้ว่า
วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็มิอาจลืมเลือนได้ ขอผลบุญผลทานของพวกท่านทั้งหลาย
จงย้อนกลับและบันดาลให้ทุก ๆ ท่านประสบแด่โชค ลาภ ยศ สรรเสริญ ธนสารสมบัติ
และถึงซึ่งพระนิพพาน เทอญ.
๔ มีนาคม ๒๕๔๐