พระครูสมุห์ธีรวัฒน์
ฐานุตฺตโร รับรางวัลพระราชทาน เสาเสมาธรรมจักร
ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
๒๕๔๓
ด้วยคณะการรมการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ประจำปี ๒๕๔๓
ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
เพื่อส่งเสริมยกย่องสรรเสริญคุณความดีและประกาศเกียรติคุณ บุคคลที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาให้ปรากฏแก่พุทธศาสนิกชน
โดยทั่วไป เพื่อให้เป็นตัวอย่างอันดีแก่สังคมและเยาวชนของชาติ
และเพื่อเป็นเกียรติและเป็นกำลังใจในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มั่นคงสถาพรสืบไป
คณะกรรมการฝ่ายคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ได้แบ่งการคัดเลือกออกเป็น
๙ ประเภท คือ
๑.
ส่งเสริมการศึกษาพระพุทธศาสนา
๒.
การศึกษาสงเคราะห์
๓.
ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศและต่างประเทศ
๔.
ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและการส่งเคราะห์ประชาชนโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
๕.
ส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์
๖.
ส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมมรดกไทยทางพระพุทธศาสนา
๗.
สมาคม องค์การ มูลนิธิ สถาบัน
และหน่วยงานที่มีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา
๘.
สื่อมวลชนที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
๙.
ผู้ประกอบอาชีพที่มีคุณธรรมและส่งเสริมพระพุทธศาสนา
ทางคณะกรรมการฯ
ได้จัดการให้มีการประชุมมาเป็นลำดับ
และได้ดำเนินการคัดเลือกโดยจัดทำหนังสือขอความร่วมมือมายังผู้ว่าราชการจังหวัด
เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะเขต ผู้อำนวยการเขต คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และหน่วยงานต่าง
ๆ
ให้ดำเนินการคัดเลือกเสนอรายชื่อผู้สมควรได้รับการยกย่องเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
ปรากฏว่ามีจังหวัด เขต ผู้อำนวยการเขต คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และหน่วยงานต่าง ๆ
ได้ดำเนินการคัดเลือกเสนอรายชื่อผู้สมควรได้รับรางวัล จำนวน ๔๙๖ ราย
และคณะกรรมการฯ
ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาขึ้น
เพื่อกลั่นกรองเบื้องต้น คณะอนุกรรมการกลั่นกรองได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาข้อมูล
ประวัติ ผลงานในประเภท และสาขาที่เสนอ แล้วนำเสนอคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาตัดสิน
ปรากฏว่ามีผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจำปี ๒๕๔๓
จำนวน ๑๖๔ ราย แยกเป็นบรรพชิต ๙๓ รูป คฤหัสถ์ ๕๘ คน และประเภทสมาคม องค์การ
มูลนิธิ และหน่วยงาน ๑๓ แห่ง
เป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่พิจารณามอบให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
ซึ่งได้ผ่านการเสนอชื่อการพิจารณาคัดเลือกกลั่นกรองจากคณะอนุกรรมการ
และการอนุมัติจากคณะกรรมการฝ่ายคัดเลือก ในโครงการสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชาแล้ว ผู้ควรได้รับรางวัลจะได้รับพระราชทานเสมาธรรมจักรพร้อมด้วยใบประกาศเกียรติคุณ
และเข็มผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นประจำทุกปี สืบเนื่องมาแต่ปี
พ.ศ. ๒๕๒๗ ถึงปัจจุบัน
บุคคลหรือหน่วยงานที่ได้รับคัดเลือก
จะมีสิทธิ์ไดรับพระราชทานรางวัลเกียรติยศนี้ เพียงครั้งเดียว
เพราะถือว่าสูงสุดในชีวิตแล้ว หลักเกณฑ์ทั่วไปและคุณสมบัติผู้ทำคุณประโยชน์ดังนี้
๑. เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาตามประเภทที่กำหนดประเภทใดประเภทหนึ่ง
โดยมีผลงานเป็นที่ยอมรับและปรากฏดีเด่น
๒. มีประวัติและผลงานเป็นที่ยอมรับและปรากฏผลดีในด้านใดด้านหนึ่ง
หรือหลายด้าน โดยมีกิจกรรมต่อเนื่องไม่น้อยกว่า ๓ ปี
ทั้งนี้ตามประเภทและสาขาที่คณะกรรมการกำหนด
๓. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรม
มีความประพฤติดีงาม เป็นที่ยอมรับศรัทธาเลื่อมใส แก่บุคคลใกล้ชิดและบุคคลที่รู้จักโดยทั่วไป
รางวัลประเภทส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและสงเคราะห์ประชาชนโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
สาขาการส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม
เป็นการแสดงบทบาทของวัดหรือพระสงฆ์ในการปฏิบัติธรรมของประชาชนอย่างเป็นกลุ่ม
เป็นกิจลักษณะโดยมเฉพาะมุ่งถึงสำนักปฏิบัติธรรมทั้งสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน
มิได้หมายถึงการเทศนาหรือบรรยายธรรมตามปกติของพระสงฆ์โดยทั่วไป
การพิจารณาจะกระทำในด้าน
·
กิจกรรมดำเนินงานฯ ของศูนย์ หรือสำนักปฏิบัติธรรมนั้นฯ
รูปแบบและระบบในการจัดกิจกรรม ระยะเวลาและความต่อเนื่อง
·
ปัจจัยที่เอื้อต่อการปฏิบัติธรรมอันเป็นสัปปายะอื่น ๆ เช่น
อาคารสถานที่ อาณาบริเวณที่ร่มรื่นเงียบสงบ
·
คุณภาพและปริมาณของผู้สอนผู้เรียน
ผลประโยชน์ที่สังคมและพระพุทธศาสนาได้รับ
·
งบประมาณที่ใช้ดำเนินงาน
รางวัลอาจมอบให้แก่สถานปฏิบัติธรรม
ในฐานะองค์กรหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งอาจเป็นวัด สำนักสงฆ์ หรือนิติบุคคล และองค์กรอื่น
ๆ ก็ได้ อาจมอบแก่พระสงฆ์ หรือ คฤหัสถ์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานก็ได้แล้วแต่กรณี
พระครูสมุห์ธีรวัฒน์
ฐานุตฺตโร (นามสกุล มัชฌิมา) อายุ ๒๙ พรรษา ๗ วุฒิ น.ธ.เอก, ปวช. สังกัดวัดอัมพวัน
ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน
ตำบลบ้านค้อ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ท่านเป็นพระสงฆ์รุ่นใหม่ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพระเถระ
และเอาใจใส่ในการส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๘
ถึงปัจจุบัน ท่านได้จัดอบรมพัฒนาจิตเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษา
รวม ๒๒๕ หน่วยงาน จำนวน ๓๓,๐๒๙ คน ประชาชน ๑๐,๒๔๐ คน รวม ๔๓,๒๖๙ คน
จัดสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น
อาคารปฏิบัติธรรม ที่พัก ห้องน้ำห้องสุขา เป็นต้น สิ้นค่าใช้จ่ายประมาณ ๒๑ ล้านบาท
จนท่านได้รับโล่บุคคลตัวอย่าง
โล่บุคคลมีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพย์ติด จึงนับได้ว่าท่านเป็นผู้สมควรที่จะได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง..