คืนวันหนึ่ง
อาตมานอนหลับแล้วฝันไปว่า อาตมาได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง
ได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ครองจีวรคร่ำสมณสารูปเรียบร้อยน่าเลื่อมใส
อาตมาเห็นว่าเป็นพระอาวุโส ผู้รัตตัญญูจึงน้อมนมัสการท่าน
ท่านหยุดยืนตรงหน้าอาตมา แล้วกล่าวกับอาตมาว่า
ฉันคือสมเด็จพระพนรัตน์
วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉันต้องการให้เธอไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล
เพื่อดูจารึกที่ฉันได้จารึกถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้เป็นเจ้า
เนื่องในวาระที่สร้างพระเจดีย์ฉลองชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาแห่งพม่า
และประกาศความเป็นอิสระของประเทศไทยจากหงสาวดีเป็นครั้งแรก
เธอไปดูไว้แล้จดจำมาเผยแพร่ออกไป ุึถึงเวลาที่เธอจะได้รับรู้แล้ว
ในฝันอาตมาัรับปากท่าน ท่านก็บอกตำแหน่งให้ แล้วก็ตกใจตื่นนอนใกล้รุ่ง
อาตมาก็ทบทวนความฝันก็นึกอยู่ในใจว่า เราเองนั้นกำหนดจิตด้วยกรรมฐาน
มีสติอยู่เสมอ เรื่องฝันฟุ้งซ่านเป็นไม่มี อาตมาก็ได้ข่าวในวันนั้นว่า
ทางกรมศิลปากรทำการบูรณะปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ใหญ่ในวัดชัยมงคล
และจะทำการบรรจุบัวยอดพระเจดีย์ อันเป็นนิมิตหมายการสิ้นสุดการบูรณะ
แล้วจะรื้อนั่งร้านทั้งหมดออกเสร็จสิ้น
อาตมาจึงได้ขอร้อง ดร.กิ่งแก้ว อัตถากร ให้เลื่อนการปิดยอดบัวไปอีกวันหนึ่ง
เพื่อที่อาตมาจะได้นำพระซุ้มเสมาชัย ซุ้มเสมาขอ
ที่อาตมาได้สร้างขึ้นตามแบบดั้งเดิมที่พบในเจดีย์ใหญ่ใกล้วัดอัมพวันซึ่งพังลงน้ำ
ที่ก๋งเหล็งเป็นคนรวบรวมเอามาให้อาตมาตั้งแต่เมื่อเริ่มมาพัฒนาวัดใหม่ ๆ
แต่แตกหักผุพังทั้งนั้นหลายสิบปี๊บ
อาตมาได้ป่นเอามาผสมสร้างเป็นองค์พระใหม่ไปร่วมบรรจุไว้ที่ยอดพระเจดีย์บ้าง
วันนั้นอาตมาเดินทางไปถึง ก็ได้เดินขึ้นไปบนเจดีย์ตอนที่สุดบันไดแล้ว
มองเห็นโพรงที่ทางเขาทำไว้สำหรับลงไปด้านล่าง มีนั่งร้านไม้พอไต่ลงไปภายใน
ตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าลงไปคราวนี้ ถ้าพลาดตกลงไปจากนั่งร้านม้าก็ยอมตาย
คนที่ร่วมเดินทางมาด้วยเขามัวแต่ไปบนลานชั้นบน อาตมาก็ดิ่งลงไปชั้นล่าง
มีไฟฉายดวงหนึ่ง ขณะนั้นเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น.
อาตมาลงไปภายในแล้วพบนิมิตดังที่สมเด็จพระพนรัตน์ได้บอกไว้จริง ๆ
อาตมาจึงได้พบว่า แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่สมเด็จพระพนรัตน์
วัดป่าแก้วท่านได้จารึกถวายพระพร ก็คือ บทสวดที่เรียกว่า พาหุง
มหาการุณิโก ท้ายของนิมิตนั้นระบุว่า
เราสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วศรีอโยธเยศ
คือผู้จารึกนิมิตรจนาเอาไว้ถวายพระพรแด่มหาบพิตรเจ้าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พาหุง มหากา ก็คือ บทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
แล้วก็พรพาหุงอันเริ่มด้วย พาหุงสหัส ไปจนถึง ทุคคาหทิฏฐิ แล้วเรื่อยไปจนถึง
มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ และ จบด้วย ภะวะตุสัพพะมังคะลัง สัพพะพุทธา
สัพพะธัมมา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต อาตมาเรียกรวมกันว่า
พาหุง มหากา อาตมาจึงเข้าใจในบัดนี้เองว่า บทพาหุงนี้ คือ
บทสวดมนต์ที่สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว
ได้ถวายให้พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้สวดเป็นประจำ
เวลาอยู่กับพระมหาราชวัง และในระหว่างศึกสงคราว จึงปรากฏว่า
พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงรบ ณ ที่ใด ทรงมีชัยชนะอยู่ตลอดมา
มิได้ทรงเพลี่ยงพล้ำเลย แม้จะเพียงสำพังสองพระองค์กับสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า
ท่ามกลางกองทัพพม่าจำนวนนับแสนคน ก็ทรงมีชัยชนะเหนือกองทัพพม่า
ด้วยการกระทำยุทธหัตถีมีชัยเหนือพระมหาอุปราชา ณ ดอนเจดีย์ปูชนียสถาน
แม้ข้าศึกจะยิงปืนไฟเข้าใส่พระองค์ในตอนที่เข้ากันพระศพของพระมหาอุปราชาออกไปราวกับห่าฝนก็มิปาน
แต่ก็มิได้ต้องพระองค์ด้วยเดชะ พาหุง มหากา ที่ทรงเจริญอยู่เป็นประจำนั่นเอง
อาตมาพบนิมิตแล้ว ก็ไต่ขึ้นมาด้วยความสบายใจถึงปากปล่องที่ลงไป
ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมง เนื้อตัวมีแต่หยากไย่
เดินลงมาแม่ชีเห็นเข้ายังร้องว่า หลวงพ่อเข้าไปในโพรงนั้นมาหรือ
แต่อาตมาไม่ตอบ
ตั้งแต่นั้นมา อาตมาจึงสอนการสวดพาหุง มหากา ให้แก่ญาติโยมเป็นต้นมา
เพราะอะไร
เพราะพาหุง มหากานั้น เป็นบทสวดมนต์ที่มีค่าที่สุด มีผลดีที่สุด
เพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดา ผู้ใดได้สวดไว้เป็นประจำทุกวัน
จะมีชัยชนะ มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดกาลนาน มีสติระลึกได้
จะตายก็ไปสู่สุคติภููมิ
ขอให้ญาติโยมสวดพาหุง มหากกันให้ทั่วหน้า นอกจากจะคุ้มครองตัวแล้ว
ยังคุ้มครองครอบครัวได้ สวดมาก ๆ เข้า สวดกันทั้งประเทศ มีแต่ความรุ่งเรือง
พวกคนพาลสันดานหยาบก็แพ้ภัยไปอย่างถ้วนหน้า
ไม่ใช่แต่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้นที่พบความมหัศจรรย์ของบทพาหุง
มหากา แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็ทรงพบเช่นกัน
โดยมีการบันทึกโบรานบอกไว้ดังนี้
เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้ว
ก็ทรงเห็นว่าสงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไป จะต้องหนักหนาและยืดยาว
จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้น
แล้วนิมนต์พระเถระทั้งหลายมาสวดบทพาหุง มหากาบรรจุไว้ในองค์พระ
และพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้วยการเจริญพาหุง
มหากา จึงบันดาลให้ทรงกู้ชาติสำเร็จ
สวดพาหุง
มหากากันให้ได้ทุกบ้าน สวดให้ได้มาก ๆ จะมีแต่ความรุ่งเรือง สวดพาหุง
มหากาก่อนแล้วจึงสวดชินบัญชร เพราะชินบัญชรนั้นเจ้าประคุณสมเด็จ
ท่านใช้สวดบูชาองค์พระอรหันต์ของท่าน ต้องสวดพาหุง มหากา
ก่อนแล้วจึงมาถึงชินบัญชร ให้จดจำกันเอาไว้ นั่นแหละมงคลในชีวิต
พระเทพสิงหบุราจารย์ เ่จ้าอาวาสวัดอัมพวัน และ
เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี |