ปทรูปสิทฺธิ
๔. สมาสกณฺฑ
อถ นามเมว อญฺญมญฺญสมฺพนฺธีนํ สมาโสติ นามนิสฺสิตตฺตา สยญฺจ นามิกตฺตา นามานนฺตรํ สมาโส วุจฺจเต.
โส จ สญฺญาวเสน ฉพฺพิโธ อพฺยยีภาโว กมฺมธารโย ทิคุ ตปฺปุริโส พหุพฺพีหิ ทฺวนฺโท จาติ.
อพฺยยีภาวสมาส
ตตฺร ปฐมํ อพฺยยีภาวสมาโส วุจฺจเต;
โส จ นิจฺจสมาโสติ อสฺสปทวิคฺคโห.
“อุปนครํ”อิตีธ— อุปสทฺทโต ปฐเมกวจนํ สิ, ตสฺส อุปสคฺคปรตฺตา “สพฺพาสมาวุโสปสคฺคนิปาตาทีหิ จา”ติ โลโป, นครสทฺทโต ฉฏฺเฐกวจนํ ส, นครสฺส สมีปนฺติ อญฺญปเทน วิคฺคเห—
“นามานํ สมาโส ยุตฺตตฺโถ”ติ สมาสวิธาเน สพฺพตฺถ วตฺตเต.
๓๓๐. อุปสคฺคนิปาตปุพฺพโก อพฺยยีภาโว.
อุปสคฺคปุพฺพโก, นิปาตปุพฺพโก จ นามิโก ยุตฺตตฺโถ เตเหว อตฺตปุพฺพเกหิ อุปสคฺคนิปาเตหิ สห นิจฺจํ สมสียเต, โส จ สมาโส อพฺยยีภาวสญฺโญ โหติ. อิธ อพฺยยีภาวาทิสญฺญาวิธายกสุตฺตาเนว วา สญฺญาวิธานมุเขนสมาสวิธายกานีติ ทฏฺฐพฺพานิ.
ตตฺถ อพฺยยมิติ อุปสคฺคนิปาตานํ สญฺญา, ลิงฺควจนเภเทปิ พฺยยรหิตตฺตา, อพฺยยานํ อตฺถํ วิภาวยตีติ อพฺยยีภาโว อพฺยยตฺถปุพฺพงฺคมตฺตา, อนพฺยยํ อพฺยยํ ภวตีติ วา อพฺยยีภาโว. ปุพฺพปทตฺถปฺปธาโน หิ อพฺยยีภาโว, เอตฺถ จ “อุปสคฺคนิปาตปุพฺพโก”ติ วุตฺตตฺตา อุปสคฺคนิปาตานเมว ปุพฺพนิปาโต.
๓๓๑. นามานํ สมาโส ยุตฺตตฺโถ.
เตสํ นามานํ ปยุชฺชมานปทตฺถานํ โย ยุตฺตตฺโถ, โส สมาสสญฺโญโหติ, ตทญฺญํ วากฺยมิติ รุฬฺหํ.
นามานิ สฺยาทิวิภตฺยนฺตานิ, สมสฺสเตติ สมาโส, สงฺขิปิยตีติ อตฺโถ.
วุตฺตญฺหิ
“สมาโส ปทสงฺเขโป, ปทปฺปจฺจยสํหิตํ;
ตทฺธิตํ นาม โหเตวํ, วิญฺเญยฺยํ เตสมนฺตร”นฺติ.
ทุวิธญฺจสฺส สมสนํ สทฺทสมสนมตฺถสมสนญฺจ, ตทุภยมฺปิ ลุตฺตสมาเส ปริปุณฺณเมว ลพฺภติ.
อลุตฺตสมาเส ปน อตฺถสมสนเมว วิภตฺติโลปาภาวโต, ตตฺถาปิวา เอกปทตฺตูปคมนโต ทุวิธมฺปิ ลพฺภเตว. ทฺเว หิ สมาสสฺส ปโยชนานิ เอกปทตฺตเมกวิภตฺติตฺตญฺจาติ.
ยุตฺโต อตฺโถ ยุตฺตตฺโต, อถ วา ยุตฺโต สงฺคโต, สมฺพนฺโธ วา อตฺโถ ยสฺส โสยํ ยุตฺตตฺโถ, เอเตน สงฺคตตฺเถน ยุตฺตตฺถวจเนน ภินฺนตฺถานํ เอกตฺถีภาโวสมาสลกฺขณนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ “นามาน”นฺติ วจเนน “เทวทตฺโต ปจตี”ติอาทีสุ อาขฺยาเตน สมาโส น โหตีติ ทสฺเสติ.
สมฺพนฺธตฺเถน ปน ยุตฺตตฺถคฺคหเณน “ภโฏ รญฺโญปุตฺโต เทวทตฺตสฺสา”ติอาทีสุ อญฺญมญฺญานเปกฺเขสุ, “เทวทตฺตสฺส กณฺหา ทนฺตา”ติอาทีสุ จ อญฺญสาเปกฺเขสุ อยุตฺตตฺถตายสมาโส น โหตีติ ทีเปติ.
“อตฺถวสา วิภตฺติวิปริณาโม”ติ วิปริณาเมน “ยุตฺตตฺถาน”นฺติ วตฺตเต.
๓๓๒. เตสํ วิภตฺติโย โลปา จ.
อิธ ปทนฺตเรน วา ตทฺธิตปฺปจฺจเยหิ วา อายาทิปฺปจฺจเยหิ วา เอกตฺถีภูตายุตฺตตฺถา นาม, เตน “เตสํ ยุตฺตตฺถานํ สมาสานํ, ตทฺธิตายาทิปฺปจฺจยนฺตานญฺจ วิภตฺติโย โลปนียา โหนฺตี”ติ อตฺโถ.
สมาสคฺคหณาธิกาเร ปน สติ เตสํคหเณน วา ตทฺธิตายาทิปฺปจฺจยนฺต วิภตฺติโลโป.
จคฺคหณํ “ปภงฺกโร”ติอาทีสุ โลปนิวตฺตนตฺถํ.
วิปริณาเมน “ลุตฺตาสุ, วิภตฺตีสู”ติ วตฺตเต, ยุตฺตตฺถคฺคหณญฺจ.
๓๓๓. ปกติ จสฺส สรนฺตสฺส.
ลุตฺตาสุ วิภตฺตีสุ สรนฺตสฺส อสฺส ยุตฺตตฺถภูตสฺส ติวิธสฺสปิลิงฺคสฺส ปกติภาโว โหติ.
จสทฺเทน กึสมุทย อิทปฺปจฺจยตาทีสุ นิคฺคหีตนฺตสฺสปิ. นิมิตฺตาภาเว เนมิตฺตกาภาวสฺส อิธ อนิจฺฉิตตฺตา อยมติเทโส.
สกตฺถวิรเหนิธ สมาสสฺส จ ลิงฺคภาวาภาวา วิภตฺตุปฺปตฺติยมสมฺปตฺตายํ นามพฺยปเทสาติเทสมาห.
๓๓๔. ตทฺธิตสมาสกิตกา นามํวา’ตเวตุนาทีสุ จ.
ตทฺธิตนฺตา, กิตนฺตา, สมาสา จ นามมิว ทฏฺฐพฺพา ตเว ตุน ตฺวาน ตฺวาทิปฺปจฺจยนฺเต วชฺเชตฺวา.
จคฺคหณํ กิจฺจปฺปจฺจยอาอีอินีอิตฺถิปฺปจฺจยนฺตาทิสฺสปิ นามพฺยปเทสตฺถํ. อิธ สมาสคฺคหณํ อตฺถวตํ สมุทายานํ นามพฺยปเทโส สมาสสฺเสวาติ นิยมตฺถนฺติ อปเร.
“อพฺยยีภาโว”ติ วตฺตเต.
๓๓๕. โส นปุํสกลิงฺโค.
โส อพฺยยีภาวสมาโส นปุํสกลิงฺโคว ทฏฺฐพฺโพติ นปุํสกลิงฺคตฺตํ.
เอตฺถ หิ สติปิ ลิงฺคาติเทเส “อธิปญฺญ”นฺติอาทีสุ “อธิญาณํ”นฺติอาทิ รูปปฺปสงฺโค น โหติ สทฺทนฺตรตฺตา, “ติปญฺญ”นฺติอาทีสุ วิยาติ ทฏฺฐพฺพํ, น จายํ อติเทโส, สุตฺเต อติเทสลิงฺคสฺส อิวสทฺทสฺส อทสฺสนโต. ปุเร วิยสฺยาทฺยุปฺปตฺติ.
“กฺวจี”ติ วตฺตเต.
๓๓๖. อํ วิภตฺตีนมการนฺตา อพฺยยีภาวา.
ตสฺมา อการนฺตา อพฺยยีภาวา ปราสํ วิภตฺตีนํ กฺวจิ อํ โหติ, เสสํ เนยฺยํ.
ตํ อุปนครํ, นครสฺส สมีปํ ติฏฺฐตีติ อตฺโถ. ตานิ อุปนครํ, อาลปเนเปวํ, ตํ อุปนครํ ปสฺส, ตานิ อุปนครํ.
น ปญฺจมฺยายมมฺภาโว, กฺวจีติ อธิการโต. ตติยาสตฺตมีฉฏฺฐีญนนฺตุ โหติ วิกปฺปโต.
เตน อุปนครํ กตํ, อุปนคเรน วา, เตหิ อุปนครํ, อุปนคเรหิ วา, ตสฺส อุปนครํ เทหิ, เตสํ อุปนครํ, อุปนครา อานย, อุปนครมฺหา อุปนครสฺมา, อุปนคเรหิ, อุปนครํ สนฺตกํ, อุปนครสฺส วา, เตสํ อุปนครํ, อุปนครานํ วา, อุปนครํ นิเธหิ, อุปนครมฺหิ อุปนครสฺมึ, อุปนครํ อุปนคเรสุ วา. เอวํ อุปกุมฺภํ.
อภาเว— ทรถานํ อภาโว นิทฺทรถํ, นิมฺมสกํ.
ปจฺฉาอตฺเถ— รถสฺส ปจฺฉา อนุรถํ, อนุวาตํ.
โยคฺคตายํ— ยถาสรูปํ, อนุรูปํ, รูปโยคฺคนฺติ อตฺโถ.
วิจฺฉายํ— อตฺตานมตฺตานํ ปติ ปจฺจตฺตํ, อทฺธมาสํ อทฺธมาสํ อนุ อนฺวทฺธมาสํ.
อนุปุพฺพิยํ— เชฏฺฐานํ อนุปุพฺโพ อนุเชฏฺฐํ.
ปฏิโลเม— โสตสฺส ปฏิโลมํ ปฏิโสตํ, ปฏิปถํ, ปติวาตํ, อตฺตานํ อธิกิจฺจ ปวตฺตา อชฺฌตฺตํ.
มริยาทาภิวิธีสุ อาปาณโกฏิยา อาปาณโกฏิกํ, “กฺวจิ สมาสนฺตคตานมการนฺโต”ติ กปฺปจฺจโย, อากุมาเรหิ ยโส กจฺจายนสฺส อากุมารํ.
สมิทฺธิยํ— ภิกฺขาย สมิทฺธีติ อตฺเถ สมาเสว นปุํสกลิงฺคตฺเต จ กเต—
“สมาสสฺส, อนฺโต”ติ จ วตฺตเต.
๓๓๗. สโร รสฺโส นปุํสเก.
นปุํสเก วตฺตมานสฺส สมาสสฺส อนฺโต สโร รสฺโส โหติ.
เอตฺถ จ อพฺยยีภาวคฺคหณํ นานุวตฺเตตพฺพํ, เตน ทิคุทฺวนฺทพหุพฺพีหีสุปิ นปุํสเก วตฺตมานสฺส สมาสนฺตสฺสรสฺส รสฺสตฺตํ สิทฺธํ โหติ. “อํ วิภตฺตีน”มิจฺจาทินา อมาเทโส, สุภิกฺขํ. คงฺคาย สมีเป วตฺตตีติ อุปคงฺคํ, มณิกาย สมีปํ อุปมณิกํ.
อิตฺถีสุ อมิกิจฺจาติ อตฺเถ สมาสนปุํสกรสฺสตฺตาทีสุ กเตสุ—
“อพฺยยีภาวา, วิภตฺตีน”นฺติ จ วตฺตเต.
๓๓๘. อญฺญสฺมา โลโป จ.
อการนฺตโต อญฺญสฺมา อพฺยยีภาวสมาสา ปราสํ วิภตฺตีนํ โลโป จ โหติ.
อธิตฺติ, อิตฺถีสุ อธิกิจฺจ กถา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. อธิตฺถิ ปสฺส, อธิตฺถิ กตํอิจฺจาทิ, เอวํ อธิกุมาริ, วธุยา สมีปํ อุปวธุ, คุนฺนํ สมีปํ อุปคุ, โอการสฺส รสฺสตฺตํ อุกาโร. เอวํ อุปสคฺคปุพฺพโก.
นิปาตปุพฺพโก ยถา— วุฑฺฒานํ ปฏิปาฏิ, เย เย วุฑฺฒา วา ยถาวุฑฺฒํ,
ปทตฺถานติกฺกเม— ยถากฺกมํ, ยถาสตฺติ, ยถาพลํ กโรติ, พลมนติกฺกมิตฺวา กโรตีติ อตฺโถ. ชีวสฺส ยตฺตโก ปริจฺเฉโท ยาวชีวํ, ยาวตายุกํ, กปฺปจฺจโย. ยตฺตเก น อตฺโถ ยาวทตฺถํ, ปพฺพตสฺส ปรภาโค ติโรปพฺพตํ, ติโรปาการํ, ติโรกุฏฺฏํ, ปาสาทสฺส อนฺโต อนฺโตปาสาทํ, อนฺโตนครํ, อนฺโตวสฺสํ, นครสฺส พหิ พหินครํ, ปาสาทสฺส อุปริ อุปริปาสาทํ, อุปริมญฺจํ, มญฺจสฺส เหฏฺฐา เหฏฺฐามญฺจํ, เหฏฺฐาปาสาทํ, ภตฺตสฺส ปุเร ปุเรภตฺตํ, เอวํ ปจฺฉาภตฺตํ.
สากลฺลตฺเถ— สห มกฺขิกาย สมกฺขิกํ ภุญฺชติ, น กิญฺจิ ปริวชฺเชตีติ อตฺโถ.
“เตสุ วุทฺธี”ติอาทินา สหสทฺทสฺส สาเทโส. คงฺคาย โอรํ โอรคงฺคมิจฺจาทิ.
อพฺยยีภาวสมาโส นิฏฺฐิโต.